เมื่อวันดีคืนดีลูกเกิดมีแผลเป็นในปาก ลูกคงเจ็บปาก และคุณแม่คงเจ็บปวดมิใช่น้อย จะมีวิธีการใดรับมือบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
บ้วนปากด้วยน้ำเกลือวันละ 2-3 ครั้ง
ลองบ้วนปากด้วยน้ำเกลือวันละ 2-3 ครั้ง ซึ่งจะผสมเกลือ 1 ช้อนชาในน้ำ 1 แก้ว ซึ่งน้ำเกลือนอกจากจะช่วยรักษาแผลได้แล้ว ยังช่วยทำให้ปากสะอาด แบคทีเรียลดลงอีกด้วยค่ะ
อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ หรือดื่มน้ำเย็นๆ
อีกวิธีที่รับมือได้ง่ายเมื่อลูกเริ่มมีอาการปวด คือให้อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ หรือดื่มน้ำเย็นๆ เพื่อบรรเทาอาการ ซึ่งส่วนใหญ่โรคนี้จะค่อยๆ หายได้เองตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาอื่นๆ
กินยาแก้ปวดถ้าปวดมาก
ถ้ามีอาการปวดมากให้กินยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อบรรเทาอาการปวดนี้ได้ค่ะ สามารถใช้ได้เป็นครั้งคราวนะคะ
ป้ายแผลด้วยยา
ถ้าอาการปวดรุนแรงหรือต้องการให้แผลหายโดยเร็ว ให้ป้ายแผลด้วยยาชนิดใดชนิดหนึ่งดังต่อไปนี้ วันละ 2-4 ครั้ง จนกว่าแผลจะหายค่ะ
หลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดการระคายแผล
ระหว่างที่ลูกมีแผลในปากนั้น ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดการระคายแผล เช่น อาหารแข็ง อาหารทอด อาหารเผ็ด อาหารเปรี้ยวจัด และอาหารรสจัดอื่น ๆ เครื่องดื่มร้อน ๆ และผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น มะนาว ส้ม รวมไปถึงเครื่องดื่มรสซาบซ่าทั้งหลาย แล้วหันไปรับประทานอาหารอ่อนที่มีรสจืดหรือรสเย็น เพื่อลดการระคายเคืองในช่องปากและลดอาการเจ็บช่องปาก
ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น
ช่วงนี้ควรดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เมื่อไม่มีโรคที่ต้องจำกัดการดื่มน้ำ เพื่อจะได้บรรเทาอาการเจ็บแผลในปากมากยิ่งขึ้นค่ะ
ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ในทุกมื้ออาหาร โดยเฉพาะโฮลเกรน นม ถั่ว ไข่ ตับ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา และอาหารทะเล เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายจะได้รับวิตามินบี กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก และสังกะสี (อาหารนึ่งเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่สามารถช่วยรักษาระดับโฟเลตหรือกรดโฟลิกไว้ได้)
เมื่อรู้วิธีรับมือเมื่อลูกมีแผลในปากแล้ว คุณแม่ลองจดเก็บไว้และนำมาปรับใช้ได้นะคะ อย่างไรก็ตาม คอยสังเกตอาการของลูกให้ดีๆ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ทันทีค่ะ
ที่มา – medthai