เรื่องของการเจ็บป่วยย่อมเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกบ้านไม่อยากให้เกิดกับลูกน้อยของคุณเลยใช่ไหมคะ แต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วจะต้องรับมืออย่างไร วันนี้เรามีเรื่องราวมาฝากกันค่ะ
1. หาสาเหตุของอาการป่วย
อาการเจ็บป่วยของลูกน้อยนั้น หากไม่ใช่การป่วยที่ต่อเนื่องจากปัญหาทางสุขภาพแบบเดิม ก็จะเป็นการเกิดแบบกะทันหัน แต่ไม่ได้หมายถึงการป่วยจากอุบัติเหตุนะคะ สำหรับอาการป่วยของลูกน้อยที่เจอมานั้น จะเกิดขึ้นแบบไม่ทราบมาก่อน คุณแม่ต้องนึกให้ดีว่า พาลูกน้อยไปทำกิจกรรมอะไรมาบ้าง หรือกินอาหารที่มีความสุ่มเสี่ยงหรือไม่ เพื่อที่จะได้แก้ไขได้ตามอาการก่อนในขั้นแรก เช่น วันหยุดคุณอาจจะพาลูกไปเล่นบ้านบอล ซึ่งเราไม่มีทางทราบว่าบ้านบอลนั้นจะมีเชื้อโรคสะสมหรือไม่ หากผู้ใหญ่ในบ้านป้อนอาหารหรือให้กินขนมที่มีส่วนผสมกระตุ้นให้ลูกเกิดอาการแพ้โดยที่คุณแม่ไม่ทราบมาก่อน ก็อาจทำให้ลูกน้อยป่วยได้เช่นกันค่ะ ดังนั้นจึงต้องสังเกตและสอบถามจากคนรอบตัวด้วยนะคะ
2. บรรเทาอาการเบื้องต้น
เมื่อลูกน้อยเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมา เช่น เกิดไข้ขึ้นสูง มีผื่นขึ้นตามตัว อาเจียนหรือท้องเสียรุนแรง หากมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น แน่นอนว่าลูกน้อยจะรู้สึกไม่สบายตัวและงอแง ดังนั้นคุณแม่ต้องรักษาอาการขั้นต้นให้ก่อน หากตัวร้อนก็เช็ดตัวตามหลักที่แพทย์แนะนำ คือเช็ดให้เร็วและย้อนรูขุมขนเพื่อให้ไข้ลดหรือแปะแผ่นคูลฟีเวอร์เมื่อลูกน้อยหลับ หากลูกมีผื่นแดงก็ลองทาครีมที่บรรเทาอาการคันมาใช้ทาบริเวณผื่น หากอาเจียนหรือมีท้องเสียรุนแรงก็อาจเป็นไปได้ว่าอาหารเป็นพิษ อาจให้จิบน้ำและยาที่ช่วยบรรเทาอาการก่อน หากไม่ดีขึ้นก็รีบไปพบแพทย์ทันที
3. ปลอบประโลมลูกอย่างใจเย็น
แน่นอนว่าเมื่อป่วยย่อมรู้สึกไม่สบายตัวอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเด็กน้อยที่ไม่สามารถบอกอาการของเขาได้ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิดและเศร้ามากขึ้นไปอีก จึงไม่แปลกที่ลูกน้อยจะร้องไห้หรือเกาะติดคุณแม่มากเป็นพิเศษ ดังนั้นคุณแม่ต้องใจเย็นๆ คอยโอ๋และปลอบลูกน้อยให้มาก รวมทั้งต้องระวังไม่ให้อารมณ์ตัวเองไปหงุดหงิดใส่ลูก ไม่อย่างนั้นจะยิ่งทำให้ลูกน้อยงอแงหนักเข้าไปอีก นอกจากนี้ หากคุณแม่กังวลก็ขอเพียงเก็บไว้ในใจ แอบระบายความกังวลกับคุณพ่อแบบไม่ให้ลูกทราบ เพราะถึงแม้เค้าจะไม่เข้าใจภาษาหรือคำพูดของคุณ แต่เด็กน้อยสัมผัสได้จากสีหน้าและน้ำเสียงที่คุณแสดงออกมา
4. อย่าทำให้เขารู้สึกเปลี่ยน
หากอาการของลูกน้อยของคุณไม่ดีขึ้น แพทย์อาจตัดสินใจให้ลูกน้อยต้องแอดมิทที่โรงพยาบาล สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำคือเตรียมตัวให้พร้อม และไม่ทำให้ลูกรู้สึกแปลกเมื่อต้องเปลี่ยนที่นอน เพราะการนอนโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ลูกน้อยต้องเจ็บตัวจากการรักษาอยู่แล้ว ทั้งกินยา เจาะเข็มน้ำเกลือ ใช้เครื่องดูดน้ำมูก ซึ่งแล้วแต่อาการที่เป็น นั่นจึงเป็นเหตุผลให้สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวของเขาสำคัญมาก อย่างน้อย คุณพ่อคุณแม่ควรมีตุ๊กตาสุดโปรด หนังสือนิทานที่ชอบอ่าน ของเล่นที่ชอบ พกติดตัวไว้เพื่อให้เขาได้กอดหรือรู้สึกอบอุ่น แม้ต้องเจอการรักษามากมาย
5. กอดหรือหอมลูกบ่อยๆ
เมื่อลูกน้อยต้องอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลแม้จะแค่ 1-2 วัน ก็ต้องไม่ทำให้เขารู้สึกขาดและหวาดกลัวนะคะ การกอด หอม หรือสัมผัสตัวเขาบ่อยๆ จะช่วยคลายความกังวลและเปิดรับสิ่งที่ต้องเจอ เช่น หากต้องวัดไข้ผ่านปรอท หรือเครื่องวัดชีพจร ลูกน้อยอาจไม่เข้าใจว่าสิ่งนั้นคืออะไรและหวาดกลัว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทำได้คือกอดปลอบประโลมเขา หรือสอนให้เขาทราบว่าสิ่งนั้นคืออะไร เพื่อที่จะได้ลดความกังวล เพราะหากต้องนอนพักที่โรงพยาบาลจะต้องเจอเครื่องเหล่านี้หลายครั้งแน่นอน
เรื่องของการเจ็บป่วยอาจต้องให้แพทย์เป็นผู้รักษา แต่ความอบอุ่นทางจิตใจต้องให้คุณพ่อคุณแม่คอยดูแลนะคะ เป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัวค่ะ