สำหรับผู้หญิงทุกคนเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะมีลูกสักคน คงจะตื่นเต้นมากๆ เลยนะคะ แต่ละคนก็มีความตื่นเต้น แตกต่างกันไป บางคนดีใจแทบร้องไห้เลยก็มี แล้วถ้าคุณแม่บอกคุณพ่อว่า “เรากำลังจะมีลูก” ในตอนนั้นคุณพ่อคงจะดีใจไม่น้อยไปกว่าคุณแม่อย่างแน่นอน
แต่ด้วยความที่เป็นผู้ชายแล้วส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะแสดงออกถึงอารมณ์มากมายนัก ยิ่งรู้ว่ากำลังจะเป็นพ่อคนและยังเป็นเสาหลักของครอบครัวแล้ว คุณพ่อๆ เหล่านั้นจะรู้สึกยังไงกันบ้างและมีพฤติกรรมอะไรที่เปลี่ยนไปเพื่อครอบครัวบ้างไปดูกันเลยค่ะ
-
อยากทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
จากที่อยู่ด้วยกันแค่สองคนเหงาๆ วันดีคืนดีก็มีเจ้าตัวน้อยมาอยู่ด้วย ใช่แล้วค่ะคำว่าครอบครัวอย่างที่เรารู้ก็คือ มีพ่อ แม่ และลูก แค่คิดภาพที่มีเจ้าตัวน้อยวิ่งซุกซน เรียกชื่อคุณพ่อคุณแม่ คงทำให้บ้านน่าอยู่และครอบครัวดูสมบูรณ์อบอุ่นขึ้นมามากเลยทีเดียวนะคะ คราวนี้คุณพ่อคงไม่อยากออกไปไหนเลยอยากอยู่กับลูกและครอบครัวมากขึ้นแน่ๆ
-
ตั้งใจทำงานหนักเพื่อลูก
เพื่อลูกคุณพ่อทำได้เสมอ คุณพ่อคนใหม่ก็เริ่มจะหันมาหารายได้จากเดิมที่มีอยู่ ขยันทำงาน เริ่มหากิจกรรมหรือกิจการมาพูดให้คุณแม่ฟัง เพื่อลูก เพราะว่าไหนจะค่าเล่าเรียนของลูก ค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นหลังจากมีเจ้าตัวน้อย คุณพ่อก็ต้องขยันๆ กันหน่อยแหละค่ะ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกน้อยนั้นเอง
-
ลดการสังสรรค์ ทุ่มเทเวลาให้ครอบครัว
ผู้ชายกับปาร์ตี้นี่ขาดกันไม่ได้เลยนะคะ ยิ่งตอนสมัยวัยรุ่นไม่ต้องพูดถึงเลย พอโตมาหน่อยแต่งงานก็มีบ้างหลังเลิกงาน ไปเจอเพื่อนโน้นนี่นั้น แต่พอวันนึงมีเจ้าตัวน้อย คุณพ่อก็แทบจะเอาเวลาทั้งหมดมาดูแลและอยู่กับเขาโดยไม่รู้ตัวเลยแหละค่ะ ใครว่าคุณพ่อเห่อลูกก็ไม่สนเลยทีเดียว สมกับเป็นคุณพ่อมือใหม่จริงๆ เลยนะคะ
-
มีความภูมิใจที่ได้ปกป้องคนที่เรารัก
เมื่อรู้ว่าจะเป็นคุณพ่อ ไม่ว่าใครก็จะรู้สึกตื่นเต้นและรักกับสิ่งที่จะเกิดใหม่ในไม่นาน และเมื่อเขาเกิดมาด้วยความที่เป็นผู้ชายและเป็นคุณพ่อแล้วเขาก็รู้สึกอยากจะปกป้องใครสักคน โดยเฉพาะคนที่เรารักนั้นเอง เขาจะรู้สึกภูมิใจมากเมื่อเขาได้ปกป้องคุณและลูก เพื่อให้เขาโตมาเป็นคนดีต่อไปนั้นเองค่ะ
-
วางแผนการเงินมากขึ้น เพื่ออนาคตของลูก
ตอนที่คุณพ่อยังไม่มีลูก ทุกสิ่งทุกอย่างก็ซื้อมาอย่างง่ายดาย มีค่าใช้จ่ายมากมายอยากได้อะไรก็จับจ่ายอย่างสบายโดยไม่ต้องคิด แต่พอมาวันนึงที่มีลูกขึ้นมาแล้วละก็คุณพ่อจากที่เคยใช้เงินซื้อโน้นนี่ของตัวเองก็เริ่มคิดหน้าคิดหลังมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้เงิน เพื่อจะได้มีเงินเหลือไว้ให้ลูกน้อยใช้ในค่าใช้จ่ายต่างๆ ในอนาคตนั้นเองค่ะ
-
นึกถึงลูก่อนเสมอไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม
หากสังเกตสักนิดก็จะเห็นว่าเมื่อมีลูกแล้วคุณพ่อทั้งหลายก็เปลี่ยนพฤติกรรมจากหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นอีกคนอย่างเห็นได้ชัด แต่ก่อนไปไหนซื้ออะไรก็อาจจะซื้อของให้แค่ภรรยา แต่มาตอนนี้เมื่อมีเจ้าตัวเล็กแล้วละก็ เห็นอะไรที่ลูกน่าจะชอบ หรือขนมน่าอร่อย ก็จะซื้อมาให้ลูกก่อนเสมอ หรือแม่แต่การใช้ชีวิต บางทีในสถานการณ์ที่เสี่ยง ถ้ากระทบถึงลูก เมื่อเป็นคุณพ่อมือใหม่แล้วอะไรที่เลี่ยงได้เขาก็จะเลี่ยงทันทีเลยค่ะ
-
กลัวการสูยเสียจากคนที่เรารัก
แต่ก่อนอาจจะใช้ชีวิตโลดโผนได้อย่างสบายใจ แต่เมื่อมีลูกน้อยแล้ว เรื่องความปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่คุณพ่อมือใหม่ก็แอบจะกังวลใจอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขับรถขับลาซึ่งแต่ก่อนอาจจะไม่เคยคิด หรือการดำเนินชีวิตต่างๆ ที่เสี่ยงต่อชีวิต คุณพ่อก็จะระมัดระวังมากขึ้น เพราะเขากลัวว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นมา เขาจะไม่ได้ดูแลลูกสุดที่รักของเขา ไม่ได้เห็นเวลาที่ลูกเติบโตในอนาคต ดังนั้นคุณพ่อมือใหม่ก็จะระมัดระวังมากเพราะกลัวการสูญเสียจากคนที่เรารักทั้งภรรยาและลูกนั้นเองค่ะ
-
เครียดกลัวเลี้ยงลูกได้ไม่ดี
ซึ่งการที่กลัวเลี้ยงลูกไม่ได้ไม่ใช่มีแค่คุณแม่คนเดียวนะคะที่เครียด เพราะคุณพ่อมือใหม่ก็ตื่นเต้นและกังวลเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย คุณพ่อมือใหม่มักจะกังวลอยู่ว่า จะอุ้มลูกยังไง อาบน้ำยังไง ป้อนนมเขายังไง ยิ่งโตขึ้นก็มีสาระพันปัญหาให้ปวดหัว ทำยังไงถึงจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด ยิ่งถ้าคุณแม่ไม่อยู่หรือต้องอยู่คนเดียวกับลูกคุณพ่อยิ่งกังวลใจมากขึ้น แต่ถ้าคุณพ่อมือใหม่ได้ลองเลี้ยงลูกดูด้วยความรักก็ไม่ต้องกังวลใจไปเลยค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อก็คุ้นเคยกับเจ้าตัวเล็กบางทีอาจจะเลี้ยงเก่งกว่าคุณแม่มือใหม่ก็ได้นะคะเนี่ย
-
เป็นห่วงสุขภาพของลูกและภรรยา
แต่ก่อนทำอะไรไม่ต้องห่วงหลังห่วงหน้า เพราะตัวคนเดียว ทำอะไรเราก็เป็นเองเดี๋ยวก็คงหาย แต่เมื่อมีภรรยาและลูกเขามาในชีวิต ทำให้เหมือนต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวคลายๆ กับการสูญเสีย เป็นการไม่อยากให้ลูกต้องเป็นอะไรกับสุขภาพ กลัวลูกเจ็บบ้าง เป็นห่วงเขาสารพัด ทั้งๆ ที่แต่ก่อนไม่ค่อยได้ต้องห่วงใคร แต่ว่าคุณพ่อมักจะไม่แสดงความรู้สึกเหล่านี้มาก เพราะบางครั้งคุณพ่อก็กลัวคุณแม่คิดมากนั้นเอง
ที่มา : womenkapook