หากจะพูดถึงการเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูก สำหรับเด็กยุคดิจิทัลหรือ Alpha Generation แล้ว ทักษะด้านวิชาการอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะเด็กสมัยนี้มีศักยภาพในการเรียนรู้มากกว่าที่เราคิด แต่ถ้าอยากจะให้ลูกได้เสริมสร้างพัฒนาการด้านอื่น คุณพ่อคุณแม่อย่างเราก็คงมีคำถามว่า แล้วควรให้ลูกเสริมด้านไหนดีใช่ไหมล่ะคะ วันนี้ Parents One จึงมีทักษะหลายๆ ด้านที่เด็กยุคนี้ควรเสริมสร้างพัฒนาการมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านค่ะ
พัฒนาสมอง
พัฒนาการด้านแรกที่คุณพ่อคุณแม่มักสนใจเป็นพิเศษก็คือการพัฒนาสมอง ซึ่งจริงๆ แล้วการพัฒนาสมองของลูกเริ่มตั้งแต่ 1,000 วันแรกของชีวิต คือในช่วงที่ลูกยังอยู่ในท้องเราก็สามารถอ่านหนังสือให้เขาฟัง พูดคุยกับลูกในท้องก็จะเป็นการพัฒนาสมองของลูกได้ และเมื่อลูกคลอดออกมาอยู่ในวัยทารกซึ่งเป็นช่วงที่สมองของลูกสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและมีการทำงานประสานกันหากได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสม
โดยถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากส่งเสริมให้ลูกพัฒนาสมองด้วยกิจกรรมต่างๆ ก็สามารถเริ่มจริงๆ จังๆ ได้ตั้งแต่ 6 เดือนเลยค่ะ อย่างการเล่านิทานให้ลูกฟัง ให้ลูกเล่นอย่างอิสระ การเรียนรู้ด้วยแฟลชการ์ด ก็จะช่วยเชื่อมโยงสมองซีกซ้ายและขวาของเด็กเล็กอย่างมีประสิทธิภาพ และถ้าลูกโตขึ้นมาหน่อย การเรียน Coding ก็จะมีประโยชน์ในแง่ของการฝึกให้เขารู้จักคิดวิเคราะห์ กระตุ้นให้เด็กคิดอย่างเป็นระบบเพื่อรู้จักแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์นั่นเองค่ะ
ศิลปะและดนตรี
ทักษะต่อมาที่คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการได้ก็คือเรื่องของศิลปะและดนตรี เพราะศิลปะและดนตรีคือตัวช่วยชั้นดีที่จะทำให้ลูกเกิดสมาธิ สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เป็นระยะเวลานานค่ะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกลองเล่นดนตรีหรือฝึกศิลปะก็สามารถเสริมสร้างอย่างจริงจังได้ในช่วงอายุ 3 ขวบขึ้นไปค่ะ
โดยการเสริมสร้างทักษะด้านศิลปะนั้นก็จะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมือมัดเล็กและกระบวนการคิดไปพร้อมๆ กัน รวมไปถึงทักษะภาษาและสังคมก็ได้ได้พัฒนาด้วยเช่นกัน ส่วนการเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านดนตรี หากคุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมให้เขาได้เรียนดนตรีอย่างเหมาะสมตามช่วงวัยก็จะช่วยเสริมสร้างสมาธิ ความจำ และพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์หรือ EQ ได้อีกด้วย แต่คุณพ่อคุณแม่อาจต้องดูความพร้อมทางร่างกาย สมอง ความชอบและความสนใจของลูกเป็นหลักนะคะ
ทักษะทางภาษา
ทักษะสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่มักอยากส่งเสริมให้ลูกพัฒนาอีกด้านหนึ่งก็คือทักษะทางภาษา ซึ่งเดี๋ยวนี้เราก็เห็นกันเยอะมากกับการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็ก 2 ภาษา ถ้าเกิดว่าครอบครัวไหนมีพื้นฐานทางภาษาก็โชคดีไป เพราะสามารถพูดคุย ฝึกฝนภาษาอังกฤษกับลูกได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่ถ้าเป็นครอบครัวที่ไม่ได้ชำนาญในเรื่องนี้มากนักก็อาจต้องอาศัยความสม่ำเสมอและเทคนิคอื่นๆ เพื่อที่จะฝึกให้ลูกมีทักษะทางภาษาติดตัว
จริงๆ แล้วช่วงอายุที่เหมาะสมในการเสริมสร้างทักษะทางภาษาก็มีตั้งแต่แรกเกิด หรือจะเริ่มฝึกตอน 1 ขวบครึ่งก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุดก็คือ 3 ขวบ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ สามารถเรียนรู้ภาษาแม่ได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว และพร้อมเปิดรับภาษาใหม่ๆ โดยจะใช้ระยะเวลาสักพักหนึ่งในการทำความเข้าใจภาษาที่ 2 ค่ะ สำหรับภาษาที่เด็กๆ เรียน นอกจากภาษาอังกฤษแล้วก็ยังมีภาษาอื่นๆ ที่น่าสนใจเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ภาษาจีนหรือภาษาญี่ปุ่นค่ะ
การทำอาหาร
คุณพ่อคุณแม่อาจสงสัยว่าการเสริมสร้างทักษะการทำอาหารให้แก่เด็กจำเป็นตรงไหน แต่บอกเลยค่ะว่าทักษะนี้มีประโยชน์กว่าที่คิดแน่นอน เพราะการทำอาหารจะช่วยให้เด็กๆ ได้พัฒนากล้ามเนื้อมือจากการหยิบจับ ขยำแป้ง นวดแป้งให้เข้ากัน หรือการตระเตรียมวัตถุดิบต่างๆ อย่างการเด็ดหรือการล้างวัตถุดิบ รวมไปถึงยังได้ใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ ทั้งการดม การลิ้มรส และการสัมผัสสิ่งที่มีความแตกต่างกัน นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องของการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย
ซึ่งช่วงวัยที่เหมาะสมจะเสริมสร้างทักษะการทำอาหาร อาจเริ่มได้ที่ช่วงอายุประมาณ 2 ขวบ โดยในช่วงวัยนี้จะต้องมีคุณพ่อคุณแม่คอยประกบอย่างใกล้ชิด ให้ลูกได้ฝึกหยิบจับอะไรเล็กๆ น้อยๆ ในห้องครัว อย่างการหยิบส่วนผสมเทรวมกัน อาจเลือกอาหารที่มีขั้นตอนไม่มาก ทำง่ายๆ ก็จะช่วยให้ลูกสนุกกับการเรียนรู้ แถมการมีส่วนร่วมแบบนี้ก็อาจทำให้ลูกเจริญอาหารมากขึ้นด้วยนะคะ
กีฬาและศิลปะป้องกันตัว
กีฬาและศิลปะป้องกันตัว ถือเป็นทักษะที่น่าสนใจที่จะให้ลูกได้เสริมสร้างพัฒนาการ เพราะแน่นอนว่าขึ้นชื่อว่ากีฬา สิ่งที่เด็กๆ จะได้พัฒนาแน่ๆ คือเรื่องความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและร่างกายที่จะทำให้เขามีสุขภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้กีฬาและศิลปะป้องกันบางอย่างยังช่วยในเรื่องการทรงตัว ฝึกไหวพริบ สร้างสมาธิและฝึกระเบียบวินัย รวมไปถึงเป็นทักษะที่สามารถใช้ป้องกันตัวหากเกิดเหตุฉุกเฉินได้ด้วย
สำหรับช่วงอายุที่เหมาะสมในการเสริมสร้างพัฒนาการจากทักษะกีฬาและศิลปะป้องกันตัวก็สามารถเล่นได้ตั้งแต่ตอนที่ลูกเริ่มคลานหรือเดินได้เลย อย่างการฝึกคลาน หรือวิ่งเล่นก็ถือเป็นการออกกำลังกายแล้ว แต่ถ้าจะเป็นกีฬาหรือศิลปะป้องกันตัวที่จริงจัง ก็แนะนำให้อยู่ในช่วงอายุประมาณ 3 ขวบขึ้นไป เพราะเป็นช่วงวัยที่เริ่มรู้เรื่อง อีกทั้งยังเหมาะสมที่จะให้เขาได้เรียนรู้เรื่องการรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยจากทักษะนี้ค่ะ
EMJOY : EMPOWER THE YOUTH’S NEXTPERIENCE
เมื่อเราต้องการเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูก แค่พ่อกับแม่อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เราจึงต้องมองหาตัวช่วยอย่างแหล่งการเรียนรู้ที่จะเป็นตัวช่วยให้เด็กๆ ได้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ อย่างที่ The EmQuartier ได้เปิด EMJOY ศูนย์การเรียนรู้สู่อนาคตของเยาวชนยุคดิจิทัลแห่งใหม่ใจกลางสุขุมวิทบนพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ในบริเวณชั้น 2 ของอาคาร C ศูนย์การค้า The EmQuartier ที่จะช่วยเปิดโลกแห่งจินตนาการและช่วยให้เด็กๆ มีความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด
โดยพื้นที่ใน EMJOY จะเต็มไปด้วยสถาบันการศึกษาที่เสริมทักษะการเรียนรู้ที่อยู่นอกตำราเหมาะสำหรับเด็กยุค Alpha และเยาวชนรุ่นใหม่ที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพของทุกคนเพื่อพาเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม ซึ่งจะแตกต่างจากที่อื่นๆ ตรงที่มีการสร้างสรรค์และปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้เหมาะกับสไตล์ของครอบครัวยุคใหม่
นอกจากสถาบันการศึกษาแล้ว EMJOY ยังเหมือนเป็น Community สำหรับทุกครอบครัวด้วยการตกแต่งพื้นที่ด้วยสีสันและบรรยากาศที่ดูสนุกสนาน สอดรับไปกับพื้นที่ที่สรรค์สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนานสำหรับเด็กอย่างโซนเครื่องเล่นต่างๆ ห้องน้ำสำหรับเด็ก และการตกแต่งที่นั่งให้ดึงดูดใจเจ้าตัวเล็ก รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว เราไปดูกันดีกว่าว่าที่นี่จะมีโซนหรือสถาบันอะไรที่เหมาะจะพาเจ้าตัวเล็กไปเสริมสร้างพัฒนาการบ้าง
โซนพัฒนาสมอง
ในเรื่องของการเสริมสร้างและพัฒนาสมอง ที่ EMJOY ก็มีสถาบันการศึกษาที่ช่วยเสริมสร้างในเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยที่ไม่ได้เน้นเรื่องวิชาการจ๋า แต่จะเป็นการดึงศักยภาพทางด้านสมองมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพเสียมากกว่าค่ะ
- CODE GENIUS : เป็นสถาบันที่สร้างหลักสูตรการเรียนรู้ผ่านการเขียนโค้ดที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ช่วยกระตุ้นให้เด็กคิดอย่างเป็นระบบ ช่วงอายุที่เปิดรับ 4 – 16 ปี
- COPEL : สถาบันพัฒนาสมององค์รวมของเด็กเล็กระดับท็อปจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยสื่อการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาสมองเด็กเล็กมากที่สุดในโลก ช่วงอายุที่เปิดรับ 6 เดือน – 6 ปี
- KX SMART PLAY : มุ่งเน้นให้เด็กๆได้รับองค์ความรู้ ประสบการณ์และทักษะ โดยการพัฒนา 4C ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเด็กในศวรรษที่ 21 ผ่านการเรียนรู้ในรูปแบบการเล่น (Play-Based Learning) ช่วงอายุที่เปิดรับ 7 – 12 ปี
- MATH TALENT BY DR.YING : คณิตคิดเป็นภาพ โรงเรียนสอนคณิตศาสตร์ที่จะทำให้เด็กๆ รักการคำนวณและเรียนรู้อย่างมีความสุข ช่วงอายุที่เปิดรับ 3 – 15 ปี
โซนศิลปะและดนตรี
ข้ามฝั่งมาที่การเสริมสร้างทักษะดนตรีและศิลปะกันบ้าง บอกเลยว่าน่าสนใจและมีหลายสถาบันให้เจ้าตัวเล็กเลือกเรียนตามความสนใจและความชอบค่ะ
- Kumo – Creative Studio : หลักสูตรศิลปะแบบบูรณาการที่หลากหลาย ที่จะช่วยสร้างพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ โดยเพลิดเพลินไปกับการ Work shop ที่จะปลุกทุกความคิดสร้างสรรค์ให้โลดแล่น ช่วงอายุที่เปิดรับ 2 – 18 ปี
- KOLOR ME : โรงเรียนสอนศิลปะสำหรับเด็กและบุคคลทั่วไป ที่เปิดสอนศิลปะหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะเด็ก พื้นฐานศิลปะ จิตรกรรม ปั้นดิน และเครื่องเคลือบดินเผา ช่วงอายุที่เปิดรับ 4 – 13 ปี
- MAHIDOL MUSIC ACADEMY : คงเคยได้ยินสถาบันสอนดนตรีจากมหิดลกันมาบ้าง แต่ที่นี่จะเป็นสาขาแรกที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษและจะเป็นต้นแบบต่อไปในอนาคต ช่วงอายุที่เปิดรับ 3 – 12 ปี
- VOCALIZE : การร้อง เต้น เล่นดนตรี ที่การเรียนการสอนจะถูกออกแบบมาให้แตกต่างเพื่อให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพื่อให้ทุกคนพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงอายุที่เปิดรับ 3 – 18 ปี
- D Dance Studio : คลาสหลากหลายจากครูมืออาชีพ ทั้งการเต้น การแสดง และการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ พร้อมการจัดสื่อ แสง สี เสียงที่ทันสมัย ช่วงอายุที่เปิดรับ 4 – 15 ปี
โซนภาษา กีฬาและศิลปะป้องกันตัว
มาต่อกันที่เรื่องของกีฬา ศิลปะป้องกันตัว ภาษา และการทำอาหารที่ EMJOY ก็มีสถาบันที่เสริมสร้างทักษะด้านนี้หลายแห่งทีเดียว
- BUNGEE WORKOUT : กีฬาแนวใหม่สัญชาติไทยที่คิดค้นและพัฒนาจนมีชื่อเสียงไประดับโลก โดยมีการนำเทคนิคกายกรรม ผสมผสานกับเสียงเพลงและศาสตร์การเคลื่อนไหว เช่น เต้นรำ ยิมนาสติกและโยคะ ช่วงอายุที่เปิดรับ 5 – 12 ปี
- CHOI’S TAEKWONDO ACADEMY TAEKWONDO : เป็นศิลปะป้องกันตัวประจำชาติเกาหลี ที่ควบคุมมาตรฐานโดย “โค้ชเช” โค้ชทีมชาติไทย ช่วงอายุที่เปิดรับ 4 – 18 ปี
- Haole Chinese Language School : โรงเรียนสอนภาษาจีนที่นำเสนอการสอนภาษาจีนรูปแบบใหม่เฉพาะตัว คือมีการใช้เสียงเพลงมาผสมผสาน ทำให้เด็กๆ ซึมซับภาษาจีนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วงอายุที่เปิดรับ 1.6 – 15 ปี
- I CAN READ : สถาบันสอนภาษาอังกฤษที่ใช้ระบบโฟนิคส์แนวใหม่ที่คิดค้นโดยนักจิตวิทยาการศึกษาที่มีวิธีการสอนไม่เหมือนใครในโลก ช่วงอายุที่เปิดรับ 3.6 – 15 ปี
- PLAY CHEF : โรงเรียนสอนทำอาหารเพื่อพัฒนาการและทักษะสำหรับเด็ก ช่วงอายุที่เปิดรับ 4 – 13 ปี
โซนอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวก
- LITTLE REDFOX KIDSALON : ร้านตัดผมของเด็กที่มีประสบการณ์ในการตัดผมเด็กมากว่า 6 ปี โดยสาขานี้จะมาในธีมอวกาศ ตอนนี้มีโปรโมชั่นลดถึงสิ้นเดือนนี้ เหลือเพียง 500 บาทจาก ปกติ 590 บาท
- TAKE CARE SALON & BEAUTY : มีบริการพิเศษทำผมและเสริมสวยสำหรับเด็กๆ และผู้ปกครอง
- TANWA THE FOOD PROJECT : ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ที่ออกแบบและดีไซน์จานอาหารด้วยรสชาติแปลกใหม่และโดดเด่น
- GREYHOUND CAFE : ร้านอาหารแฟชั่นคาเฟ่ที่ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว
- KIDDOLAND : ผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าเสริมทักษะการเรียนรู้เด็ก แบรนด์ดังลิขสิทธิ์ระดับโลก
เป็นยังไงบ้างคะคุณพ่อคุณแม่ เป็นพื้นที่ Edutainment zone แห่งใหม่ที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยใช่ไหมล่ะคะ ถือเป็น Nextperience AREA สำหรับครอบครัวยุคใหม่ และนี่ก็คือทั้งหมดของ EMJOY : EMPOWER THE YOUTH’S NEXTPERIENCE ที่พร้อมเปิดให้บริการแก่คุณพ่อคุณแม่แล้ววันนี้ที่ชั้น 2 อาคาร C ณ ศูนย์การค้า The EmQuartier เวลา 10.00 – 22.00 น. ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนสนใจก็สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.emquartier.co.th/emjoy/ เลยนะคะ
#EMJOY #EMPOWERTHEYOUTHSNEXTPERIENCE #EDUTAINMENTZONE #EMPORIUM #EMQUARTIER