G6PD หรือหลายๆ คนเรียกว่า โรคแพ้ถั่วปากอ้า เกิดจากภาวะบกพร่องของเอนไซม์ G6PD ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในขบวนการสร้างพลังงานของน้ำตาลกลูโคส ดังนั้นเอนไซม์ G6PD จึงเป็นเอนไซม์ที่ช่วยป้องกัน เม็ดเลือดแดงจากการทำลายของสารอนุมูลอิสระ แล้วโรคนี้เกิดจากอะไร ทำไมเด็กถึงเป็นกันมากแล้วส่งผลอะไรบ้างไปติดตามกันค่ะ
G6PD คืออะไร?
ภาวะพร่องเอนไซด์ G6PD (G – 6 – PD Deficiency) คือ การมีระดับของเอนไซม์ G6PD ต่ำกว่าคนปกติ เอนไซม์ ชนิดนี้พบได้ในเม็ดเลือดแดง มีหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เม็ดเลือแดงแตกง่าย โดยปกติเม็ดเลือดแดงของคนเราจะมีอายุ 120 วัน แต่สำหรับผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ชนิดนี้ หากได้รับยาหรืออาหารที่ห้ามรับประทาน เช่น ถั่วปากอ้า จะเป็นตัวกระตุ้นให้เม็ดเลือดแดงแตก และทำให้เกิดภาวะซีด เหนื่อย อ่อนเพลีย ตัวเหลืองได้ ซึ่งสาเหตุของการบกพร่องทางเอนไซม์ G6PD เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมของโครโมโซมเพศชนิดโครโมโซมเอ็กซ์ มีการถ่ายทอดยีน G6PD เป็นแบบ X-linked recessive จากมารดาโดยมีโอกาสที่ลูกชายจะเป็นโรคร้อยละ 50 ลูกสาวจะเป็นพาหะร้อยละ 50 ดังนั้นโรคนี้จึงพบในผู้ชายได้มากกว่าผู้หญิงค่ะ
ทำไมเด็กถึงเป็นโรค G6PD กันมาก
ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นคือ ภาวะโลหิตจางและภาวะเหลืองในทารกแรกเกิด ซึ่งมีสาเหตุจากการขาดสาร NADPH ซึ่งต้องอาศัยเอนไซม์ G6PD เป็นตัวกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางเคมี ในเซลล์ปกติ NADPH จะทำหน้าที่ในการกำจัดสารอ๊อกซิแดนซ์ที่จะทำลายเซลต่างๆ ของร่างกาย
อาการของโรค G6PD
อาการมักจะเกิดขึ้นทันทีหลังเป็นโรคติดเชื้อ หรือหลังได้รับยาที่แสลง หรือหลังจากที่กินถั่วปากอ้า มีอาการเป็นๆ หายๆ ได้บ่อย
- มีไข้สูง หนาวสั่น ซีดเหลือง อ่อนเพลียมาก
- ปัสสาวะสีดำคล้ายน้ำปลาหรือโคล่า
- สำหรับทารกแรกเกิดจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง หลังคลอดเพียงไม่กี่วัน
- อาการเหลืองจัด หรือเหลืองนานกว่าปกติ หรือมีภาวะซีดร่วมด้วย
ข้อควรปฏิบัติเมื่อลูกเป็น G6PD
- เมื่อเจ็บป่วย ไม่ควรซื้อยากินเอง ควรปรึกษาแพทย์และแจ้งให้แพทย์ทราบว่าเป็นโรคนี้
- หลีกเลี่ยงยาและอาหารบางอย่างเช่น ถั่วปากอ้า
- เมื่อมีอาการซีดลง เพลีย ปัสสาวะสีเข้ม เหมือนสีโค้ก ตัวเหลือง ตาเหลือง ควรพบแพทย์โดยด่วน
อาหารและยาที่ควรหลีกเลี่ยง
- ถั่วปากอ้า
- พืชตระกูลถั่ว
- บลูเบอรี่
- โยเกริตที่มีส่วนประกอบของ ถั่วปากอ้า ไวน์แดง พืชตระกูลถั่ว บลูเบอรี่
- โทนิค (tonic)
- แอสไพริน
- ยากลุ่มซัลฟา
ดังนั้น เด็กทีเป็นโรคพร่องเอนไซม์ G6PD คุณพ่อคุณแม่ควรเห็นความสำคัญกับอาหาร ต้องหลีกเลี่ยงอาหารและยาที่มีผลทำให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกเฉียบพลันได้ หากต้องเข้ารับการรักษาหรือต้องได้รับยาจะต้องแจ้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลให้ทราบทุกครั้ง ว่าตนเองเป็นโรคพร่องเอนไซม์ G6PD ในหลายสถานพยาบาลมักให้บัตรประจำตัวแก่ผู้ที่เป็นโรคพร่องเอนไซม์ G6PD เพื่อหลีกเลี่ยงยาที่อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาค่ะ
ที่มา :