ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม หรือต้องการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อของ หลายบ้านก็เริ่มนำน้ำส้มสายชูมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำความสะอาดบ้าน ด้วยฤทธิ์กรดของน้ำส้มสายชู (Acetc acid) ที่สามารถขจัดคราบสกปรกและน้ำมันได้ แรงพอที่จะฆ่าแบคทีเรีย และนอกจากจะเป็นตัวเลือกที่รักษ์โลกแล้ว ยังมีราคาถูกกว่าน้ำยาทำความสะอาดทั่วไปอีกด้วยค่ะ
แต่รู้รึเปล่า ว่าน้ำส้มสายชูยังใช้แทนน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ด้วยนะ! ด้วยฤทธิ์กรดอ่อน ๆ ดังกล่าวที่ช่วยขจัดคราบและสิ่งสกปรกนี่แหละ ที่ช่วยขจัดคราบอัลคาไลน์จากสบู่ ทำให้ผ้าของเรานุ่มขึ้นนั่นเองค่ะ นอกจากนี้แล้วยังช่วยขจัดกลิ่นอับชื้น ทำให้ผ้าของเราสะอาด ไร้กลิ่นอับให้ระคายใจ
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ปวดหัวกับการล้างถังเครื่องซักผ้า การใช้น้ำส้มสายชูแทนน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นไม่ทิ้งคราบสบู่บนถังซักผ้า ทำให้การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นเรื่องง่าย ๆ ไปเลยค่ะ
วิธีใช้น้ำส้มสายชูแทนน้ำยาปรับผ้านุ่ม
- ใส่น้ำส้มสายชูกลั่นปริมาณ 1/2 ถ้วยลงในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
- หากเครื่องซักผ้าไม่มีช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ผสมน้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยกับน้ำสะอาด 1 ถ้วย แล้วเทลงใส่ถังซักผ้าเลยค่ะ
หากกังวลเรื่องกลิ่นเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู คุณพ่อคุณแม่สามารถเพิ่มกลิ่นหอมให้ได้หลากวิธี ดังนี้ค่ะ:
- ใส่เปลือกส้ม / มะกรูด / มะนาวลงไปแช่ในน้ำส้มสายชูกลั่น บ่มไว้อย่างน้อย 1 อาทิตย์ แล้วกรองใส่ขวดสะอาด หรือตักใช้แต่ส่วนของน้ำส้มสายชูค่ะ
- หยดน้ำมันหอมระเหย (แนะนำกลิ่นลาเวนเดอร์) 1 หยดใส่ขวดน้ำส้มสายชูกลั่น แต่หากใช้น้ำมันหอมระเหย คุณพ่อคุณแม่พึงระวังห้ามใช้ในปริมาณมาก เพราะจะทำให้ผิวของลูกน้อยระคายเคืองได้ค่ะ
เท่านี้ก็ได้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีราคาถูกและปลอดภัยต่อผิวหนังของลูกน้อยแล้วค่ะ แต่นอกจากจะทำให้ผ้านุ่มแล้ว น้ำส้มสายชูยังมีบทบาทในการซักผ้าอีกมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
- ลดกลิ่นอับจากเชื้อราและกลิ่นกาย
- ทำให้ผ้าสีสดใส และผ้าขาวสว่าง
- ขจัดคราบฝังลึก
- ทำความสะอาดเสื้อผ้าบอบบาง