วัคซีนเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนจำเป็นต้องไปฉีด ยิ่งในเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ จำเป็นที่จะต้องไปฉีดให้ครบตามที่กำหนด เพราะมีวัคซีนที่จำเป็นหลายตัวมากๆ ค่ะ หากฉีดไม่ครบก็อาจจะทำให้เกิดโรคที่ร้ายแรงถึงชีวิตได้เลย ซึ่งวัคซีนที่ลูกต้องฉีดนั้นมีเยอะมากๆๆๆ วันนี้เราจึงอัปเดตวัคซีนในปี 2564 ที่เด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 12 ขวบต้องฉีดมาฝากค่ะ จะได้ดูกันง่ายๆ ตามช่วงอายุเลย
ซึ่งในปี 2564 มีอัปเดตเพิ่มมาตรงที่ลูกจะต้องฉีดวัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR2) ครั้งที่สองเร็วขึ้น คือฉีดตอนอายุ 18 เดือน เพื่อป้องกันการระบาดของโรคหัดค่ะ
สำหรับในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบนี้ คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากพาลูกออกจากบ้าน จึงอาจมีคำถามว่าสามารถเลื่อนฉีดวัคซีนออกไปได้ไหม คำตอบคือ สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบควรต้องไปฉีดนะคะ ก็ต้องพยายามดูแลความปลอดภัยนิดนึง ไม่แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย แต่ให้อุ้มลูกเข้าหาตัว ให้ใบหน้าของลูกซุกอยู่ตรงอกเรา แล้วใช้ผ้าคลุมไว้ หรือให้ลูกนั่งรถเข็นที่มีผ้าคลุมก็จะช่วยได้ในระดับนึงค่ะ ส่วนเด็กที่อายุเกิน 1 ขวบ สามารถเลื่อนฉีดวัคซีนได้ไม่เกิน 1 เดือนค่า
วัคซีนจำเป็นและวัคซีนเสริมแตกต่างกันยังไง
- วัคซีนจำเป็น คือ วัคซีนที่เด็กทุกคนควรจะได้รับตามคำแนะนำของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปฉีดได้ฟรีที่โรงพยาบาลรัฐ
- วัคซีนเสริม คือ วัคซีนที่มีประสิทธิภาพดี มีประโยชน์ในการป้องกันโรค แต่ไม่ได้อยู่ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนใหญ่จะป้องกันหลายโรคในเข็มเดียว จะให้ลูกฉีดหรือไม่ฉีดก็ได้ เพราะมีราคาค่อนข้างสูง
แรกเกิด
วัคซีนจำเป็น
- ป้องกันวัณโรค (BCG)
- ตับอักเสบบี (HBV) ต้องได้รับอย่างน้อย 3 ครั้ง อาจฉีดเข็มที่ 2 ตอนอายุ 1 เดือน
2 เดือน
วัคซีนจำเป็น
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ (DTwP-HB-Hib-1)
- โปลิโอชนิดกิน (OPV1)
- โรต้าชนิดกิน (ROTA1) เชื้อที่ทำให้เกิดท้องเสียในเด็ก
วัคซีนเสริม
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์-ตับอักเสบบี-โปลิโอชนิดฉีด-ฮิบ (DTaP-HB-IPV-HIB1)
- นิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต (PCV1) ป้องกันโรคปอดบวมและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
4 เดือน
วัคซีนจำเป็น
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ (DTwP-HB-Hib-2)
- โปลิโอชนิดกิน (OPV2)
- โรต้าชนิดกิน (ROTA2) เชื้อที่ทำให้เกิดท้องเสียในเด็ก
วัคซีนเสริม
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์-ตับอักเสบบี-โปลิโอชนิดฉีด-ฮิบ (DTaP-HB-IPV-HIB2)
- นิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต (PCV2) ป้องกันโรคปอดบวมและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
6 เดือน
วัคซีนจำเป็น
- ตับอักเสบบี (HBV) (ครั้งที่ 3)
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ (DTwP-HB-Hib-3)
- โปลิโอชนิดกิน (OPV3)
- โรต้าชนิดกิน (ROTA3) เชื้อที่ทำให้เกิดท้องเสียในเด็ก
- ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ในครั้งแรกฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน จากนั้นฉีดปีละครั้ง
วัคซีนเสริม
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์-ตับอักเสบบี-โปลิโอชนิดฉีด-ฮิบ (DTaP-HB-IPV-HIB3)
- นิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต (PCV3) ป้องกันโรคปอดบวมและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- ไข้สมองอักเสบเจอีเชื้อไม่มีชีวิต (Inactivated JE) อีก 4 สัปดาห์ฉีดเข็มที่ 2 และอีก 1 ปี ฉีดเข็มที่ 3
9 – 15 เดือน
วัคซีนจำเป็น
- หัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR1) ฉีดครั้งแรก
- ไข้สมองอักเสบเจอีเชื้อมีชีวิต (Live JE1) ฉีดครั้งแรก
- ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) (ถ้ายังไม่ฉีดตอน 6 เดือน)
วัคซีนเสริม
- ไข้สมองอักเสบเจอีเชื้อไม่มีชีวิต (Inactivated JE) (ถ้ายังไม่ได้ฉีดตอน 6 เดือน)
- นิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต (PCV4) ป้องกันโรคปอดบวมและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (ฉีดกระตุ้นตอน 12-15 เดือน)
- ตับอักเสบเอชนิดเชื้อไม่มีชีวิต (HAV) ฉีด 2 เข็มห่างกัน 6-12 เดือน (อายุ 12 เดือนขึ้นไป)
- อีสุกอีใส (VZV1) หรือวัคซีนรวมหัด หัดเยอรมัน คางทูม อีสุกอีใส (MMRV1) ฉีดเข็มแรกอายุ 12 เดือนขึ้นไป
18 เดือน
วัคซีนจำเป็น
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดทั้งเซลล์ (DTwP) ฉีดกระตุ้นครั้งที่ 1
- โปลิโอชนิดกิน (OPV4) กินกระตุ้นครั้งที่ 1
- หัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR2) ฉีดครั้งที่สอง
- ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
วัคซีนเสริม
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์-โปลิโอชนิดฉีด-ฮิบ (DTaP-IPV-HIB4) ฉีดกระตุ้นครั้งที่ 1
- ไข้สมองอักเสบเจอีเชื้อไม่มีชีวิต (Inactivated JE) (ถ้ายังไม่ได้ฉีดตอน 6 เดือน และ 9-15 เดือน)
- อีสุกอีใส (VZV1) หรือวัคซีนรวมหัด หัดเยอรมัน คางทูม อีสุกอีใส (MMRV1) ถ้ายังไม่ได้ฉีดเข็มแรกต้องฉีดภายในเดือนนี้
- ตับอักเสบเอชนิดเชื้อมีชีวิต (HAV) ฉีดเข็มเดียว ทดแทนวัคซีนตับอักเสบเอชนิดเชื้อไม่มีชีวิตได้
2 – 2.5 ขวบ
วัคซีนจำเป็น
- ไข้สมองอักเสบเจอีเชื้อมีชีวิต (Live JE2) ฉีดครั้งที่สอง
- ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
วัคซีนเสริม
- ตับอักเสบเอ (HAV) ถ้ายังไม่ได้ฉีดเลย
- อีสุกอีใส (VZV2) หรือวัคซีนรวมหัด หัดเยอรมัน คางทูม อีสุกอีใส (MMRV2) เข็มที่ 2
4-6 ขวบ
วัคซีนจำเป็น
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดทั้งเซลล์ (DTwP) ฉีดกระตุ้นครั้งที่ 2
- โปลิโอชนิดกิน (OPV5) กินกระตุ้นครั้งที่ 2
วัคซีนเสริม
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์-โปลิโอชนิดฉีด (DTaP-IPV / Tdap-IPV ) ฉีดกระตุ้นครั้งที่ 2
- อีสุกอีใส (VZV2) หรือวัคซีนรวมหัด หัดเยอรมัน คางทูม อีสุกอีใส (MMRV2) (ต้องฉีดไม่เกิน 4 ขวบ ถ้ายังไม่ได้ฉีดเข็มที่ 2 ตอน 2-2.5 ขวบ)
- ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) (ฉีดทุกปี ปีละครั้ง)
11-12 ปี
วัคซีนจำเป็น
- คอตีบ-บาดทะยัก (Td) ฉีดกระตุ้น และฉีดทุกๆ 10 ปี
- ป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) (2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน ฉีดในเด็กผู้หญิงตอนป.5)
วัคซีนเสริม
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์ (TdaP หรือ Tdap) และฉีด Tdap ทุก 10 ปี
- ไข้เลือดออก (DEN) 3 เข็ม ห่าง 6 และ 12 เดือน (ถ้าเคยติดเชื้อมาก่อน)
- ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) (ฉีดทุกปี ปีละครั้ง)
9 และ 15 ปี
วัคซีนเสริม
- ป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) (2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน)
- ไข้เลือดออก (DEN) 3 เข็ม ห่าง 6 และ 12 เดือน (ถ้าเคยติดเชื้อมาก่อน)
สรุปจำนวนครั้งในการฉีดวัคซีน
วัคซีนจำเป็น
- ป้องกันวัณโรค (BCG) : 1 ครั้ง
- ตับอักเสบบี (HBV) : 3 ครั้ง
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดทั้งเซลล์-ตับอักเสบบี (DTwP-HB) : 5 ครั้ง
- โปลิโอชนิดกิน (OPV) : 5 ครั้ง
- โรต้า (ROTA) : 3 ครั้ง
- หัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) : 2 ครั้ง
- ไข้สมองอักเสบเจอีเชื้อเป็น (Live JE) : 2 ครั้ง
- ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) : 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน ในช่วงอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี จากนั้นฉีดปีละเข็ม
- ป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) : 2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน
วัคซีนเสริม
- คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์-ตับอักเสบบี-โปลิโอชนิดฉีด-ฮิบ (DTaP-HB-IPV-HIB1) : 5 ครั้ง หลังอายุ 11-12 ปี ฉีดซ้ำทุก 10 ปี
- นิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต (PCV) : 4 ครั้ง
- ไข้สมองอักเสบเจอีเชื้อตาย (Inactivated JE) : 3 ครั้ง 2 เข็มแรกห่างกัน 4 สัปดาห์ ส่วนเข็มที่ 3 ห่าง 1 ปี
- ตับอักเสบเอ (HAV) ชนิดเชื้อไม่มีชีวิต : 2 ครั้ง / เชื้อมีชีวิต : 1 ครั้ง
- อีสุกอีใส (VZV) หรือวัคซีนรวมหัด หัดเยอรมัน คางทูม อีสุกอีใส (MMRV) : 2 ครั้ง
- ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) : 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน ในช่วงอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี จากนั้นฉีดปีละเข็ม
- ป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) : 2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน
- ไข้เลือดออก (DEN) : 3 ครั้ง ห่าง 6 และ 12 เดือน (ถ้าเคยติดเชื้อมาก่อน)
- พิษสุนัขบ้า (Rabies) : 2 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อย 7 วัน (ถ้ามีความเสี่ยงที่จะโดนหมาหรือแมวกัด/ข่วน)
ข้อมูลอ้างอิงจาก