ปัญหาฟันผุมักจะเกิดได้ง่ายกับคุณแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงส่งผลให้เหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากอ่อนแอ นอกจากนี้อาการแพ้ท้อง อาเจียนบ่อย และการกินอาหารจุบจิบส่งผลให้ฟันผุเช่นกัน ซึ่งการที่แม่ท้องฟันผุจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ทั้งอาจเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด และทำให้ลูกฟันผุได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพช่องปากในหญิงตั้งครรภ์สามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจสุขภาพช่องปากตั้งแต่มารับบริการฝากครรภ์ที่สถานบริการสาธารณสุข โดยหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ดูแลสุขภาพช่องปากจนมีปัญหาเหงือกอักเสบและฟันผุ จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับเหงือกและฟันของลูกได้ เนื่องจากฟันน้ำนมของลูกเริ่มสร้างตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา 6 สัปดาห์
และเชื้อโรคจากช่องปากแม่ที่ฟันผุสามารถถ่ายทอดเชื้อสู่ลูกทางน้ำลายได้ ทำให้ทารกมีโอกาสเสี่ยงฟันผุเพิ่มมากขึ้นถึง 5 เท่า
นอกจากนี้ หากแม่ได้สารอาหารไม่ครบถ้วนหรือไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้การสร้างฟันของลูกผิดปกติและมีความเสี่ยงในการเกิดฟันผุมากขึ้น เพิ่มโอกาสสูญเสียฟันน้ำนมเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย และในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ฟันผุบางรายอาจก่อให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวแรกคลอดต่ำกว่าเกณฑ์
ตั้งนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์จึงต้องปรับพฤติกรรมบางอย่างในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เพียงพอ ลดการกินของหวาน เน้นการกินผัก ผลไม้ หากมีอาการอาเจียนจากการแพ้ท้องหรือกินอาหารเปรี้ยว ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทุกครั้ง และงดการแปรงฟันเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในรายที่อาเจียนมาก ควรใช้น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์เพิ่มเติม เพื่อการมีสุขภาพช่องปากและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของทั้งแม่และลูก
อ้างอิงจาก