พอเห็นเด็กๆ น่ารักๆ หรือแม้กระทั่งลูกของเราที่อยู่บ้าน เป็นเรื่องธรรมดามากนะคะที่เราจะกอด จะฟัด จะหอม จะจูบเขา คุณพ่อคุณแม่หลายคนก็ทำเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ ซึ่งจริงๆ หากตัวคนที่หอมเองไม่รักษาความสะอาดตัวของพ่อแม่เองสกปรก หากไปหอม ไปจูบลูก ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้ออย่าง “โรคเริม” ได้
เพราะฉะนั้นเราเองต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะอาจจะทำให้เด็กๆ ป่วยหนักได้เลยนะคะคุณพ่อคุณแม่
เริมคืออะไร
คือโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยในผู้ใหญ่และไม่มีอาการรุนแรง แต่หากเกิดขึ้นกับเด็กเล็กอาจทำให้มีอาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งโรคเริมสามารถติดต่อกันผ่านการสัมผัสเยื่อบุอ่อน อย่างเช่น ปาก และอวัยวะเพศนั่นเองค่ะ
ทำไมแค่หอมหรือจูบลูก ก็สามารถติดเริมได้
เนื่องจากผู้ใหญ่อย่างเราๆ บางทีอาจจะไม่ได้แสดงอาการเริมเนื่องจากมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงกว่า ในขณะที่เด็กๆ ยังมีร่างกายที่อ่อนแอ ทำให้ผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยระมัดระวังเรื่องนี้ไปสัมผัสเด็กๆ ทำให้พวกเขาติดเชื้อได้นั่นเองค่ะ
เด็กเล็กติดเริมยังไงได้บ้าง
โรคเริมในเด็กนั้นสามารถติดต่อกันได้ง่ายและรุนแรง ก็เพราะผิวหนังของเด็กนั้นบอบบาง ทำให้ไวรัส HSV จึงง่ายต่อการฝังตัว ซึ่งสาเหตุหลักๆ มีดังนี้
- ผ่านการจูบ
- การให้นม
- การอุ้ม
- การใช้ของร่วมกัน
- แม่มีแผลเริมที่อวัยวะเพศขณะคลอดลูกแบบธรรมชาติ
อาการ
หากเด็กๆ เป็นโรคเริม คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตอาการได้ภายใน 2-3 วัน หรืออาจจะนานถึง 3 สัปดาห์ หลังจากได้รับเชื้อ โดยอาการต่างๆ มีดังนี้
- ปวดแสบปวดร้อนแผล
- มีตุ่มใสๆ ที่ปากหรือริมฝีปาก
- มีไข้ต่ำๆ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
สิ่งต้องห้ามหากเป็นเริม
- ห้ามบีบตุ่มแผล
- ห้ามลอกสะเก็ดออกเอง
- หลีกเลี่ยงภาวะเครียด
- ห้ามไม่ให้ตุ่มแผลสัมผัสผู้อื่นโดยตรง
- ห้ามสัมผัสแผลโดยตรง
ยังไงก็ตามหากคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากให้ลูกน้อยเป็นเริม ก็อาจจะต้องดูแลรักษาตัวเองให้ปลอดภัยเสียก่อน พยายามอย่าให้คนแปลกหน้ามาหอมมากอดเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กเล็ก หรือหากผู้ใหญ่ที่เคยเป็นเริม ก็ต้องแน่ใจก่อนว่าไม่มีอาการแล้ว ถ้ามีภูมิคุ้มกันแข็งแรงแล้ว จะกอดจะหอมจะจูบยังไง รับรองว่าปลอดภัยหายห่วงแน่นอนค่ะ
อ้างอิงจาก : poonrada, thaichildcare, bbettercare