“เครื่องปั๊มนมไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย แต่เป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพและพัฒนาการของลูกในระยะยาว” ยิ่งเป็นคุณแม่ที่ต้องทำงานตอนเช้า แล้วต้องกลับมาเลี้ยงลูกตอนเย็นด้วยแล้ว ถือว่าเครื่องปั๊มน้ำนมคือไอเทมที่ห้ามขาดเลยค่ะ เพราะช่วยประหยัดเวลาการให้นมลูก แถมไม่ต้องเสียเงินเเพงๆ ไปซื้อนมผงมาชงให้ลูกกินด้วยค่ะ ไปดูวิธีการเลือกเครื่องปั๊มนม และยี่ห้อยอดฮิตที่เราคัดสรรทั้งข้อดี และข้อเสียมาให้กันเลยดีกว่า
เคล็ดลับการเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมให้เหมาะกับคุณแม่
หลายๆ คนมักสงสัยว่า? เครื่องปั๊มนมที่ดีมีลักษณะอย่างไร คุณแม่หลายท่านไม่รู้วิธีในการเลือกซื้อ และไม่ได้ศึกษายี่ห้อกันมาก่อน ก็คงจะไม่รู้ว่ามันมีลักษณะแบบไหน และไม่รู้ว่าแบบไหนที่จะเหมาะสมกับเราเมื่อซื้อไปแล้วจึงเกิดอาการเจ็บเต้านมจากเครื่องปั๊มนม หรืออาจจะปั๊มแบบไม่ถูกวิธี เมื่อซื้อไปแล้ว แล้วเราจะมีวิธีการเลือกเครื่องปั๊มนมให้เหมาะสมกับแม่อย่างเราบ้าง ไปดูเคล็ดลับการเลือกเครื่องปั๊มนมกันเลยค่ะ
ประสิทธิภาพของแรงดูด และรอบดูดอย่างน้อย 40-60 รอบต่อนาที
เครื่องปั๊มนมที่ดี คือ เครื่องปั๊มนมที่มีจังหวะการปั๊มเลียนแบบการดูดของทารก ซึ่งเราสามารถปรับแรงดูดได้ตามความต้องการของผู้ใช้ค่ะ โดยส่วนมากจะใช้แรงดูดอย่างน้อย 200 mmHg รอบการดูดอย่างน้อย 40-60 รอบต่อนาทีจึงจะใกล้เคียงการดูดของทารกค่ะ
ในช่วง 6-12สัปดาห์แรก ถ้าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นไปด้วยดี ร่างกายมักจะผลิตน้ำนมได้เกินกว่าความต้องการของทารก การปั๊มนมในช่วงนี้จะค่อนข้างง่าย และได้ปริมาณมาก ดังนั้นถ้าจำเป็นต้องปั๊มนมนานกว่า 4 เดือนขึ้นไปควรเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมที่มีรอบดูดมากกว่า 40 ครั้งต่อนาทีขึ้นไป เพราะถ้าเราใช้เครื่องปั๊มนมที่มีรอบดูดต่ำกว่า 40 ครั้งต่อนาทีจะทำให้ปั๊มนมไม่ออก
ขนาดของเครื่องปั๊ม ที่ต้องนึกถึงการขนย้าย
โดยให้คุณแม่สังเกตจากการใช้ชีวิตประจำวันว่า จำเป็นต้องขนย้ายเครื่องปั๊มไหม? คุณแม่ที่ทำงานประจำ จะต้องปั๊มน้ำนมที่ทำงานวันละ 2-4 ครั้งเป็นอย่างน้อย การขนย้ายเครื่องปั๊มน้ำนมไป-กลับทุกๆวัน นานหลายเดือน ก็ควรดูถึงขนาดของเครื่องปั๊มนมด้วยว่า ขนย้ายสะดวกหรือไม่ แต่ถ้าคุณแม่คนไหนต้องเลี้ยงลูกแบบ Full – time ก็ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องขนาดไปเลยค่ะ
พลังงานที่ใช้กับเครื่องปั๊ม
เครื่องปั๊มนมบางรุ่นใช้ไฟบ้านได้อย่างเดียว บางรุ่นใช้ได้ทั้งไฟบ้าน และถ่าน บางรุ่นมีสายชาร์จสำหรับใช้ในรถยนต์ได้ด้วย ถ่านที่ใช้ก็มีทั้งแบบชาร์จได้ หรือใช้แล้วทิ้ง รุ่นที่ใช้ถ่านได้ส่วนใหญ่ จะใส่ถ่านที่ตัวเครื่องได้เลย
เสียงของเครื่องปั๊มนม
เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ขนาดใหญ่ เสียงจะเบากว่าเครื่องที่มีมอเตอร์ขนาดเล็ก ต้องพิจารณาว่า สถานที่ปั๊มนมของเรานั้นเป็นส่วนตัวหรือไม่ ถ้าไม่เป็นส่วนตัว อาจต้องระวังเสียงเครื่องปั๊มที่อาจไปรบกวนผู้อื่นด้วยนะคะ
การบริการหลังการขาย
คุณแม่ที่ลูกไม่ดูดเต้า ยิ่งต้องระวังให้มาก เพราะการหยุดปั๊มนมแม้แค่ 1-2 วัน ก็จะทำให้ปริมาณน้ำนมลดลงมากในทันที ดังนั้นจึงควรซื้อเครื่องปั๊มนมจากร้านที่มีบริการหลังการขายที่รวดเร็ว มีเครื่องปั๊มนมสำรองให้ใช้ และควรจะมีปั๊มมือสำรองไว้กรณีฉุกเฉินด้วย
รวม 8 แบรนด์ยอดฮิตเครื่องปั๊มน้ำนมไฟฟ้าของคุณแม่ยุคใหม่
1. Brusta ราคา~ 7,500 บาท
ข้อดี :
- เครื่องปั๊มนมมีขนาดเล็ก ทำให้คุณแม่ที่ต้องไปทำงานพกพาเครื่องได้สะดวกสบาย
- กรวยของ brusta จะเป็นพลาสติก แต่มีซิลิโคนครอบอีกชั้นนึง ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บค่ะ
- มีโหมด “สลายก้อนน้ำนมอุดตัน” ซึ่งมีจังหวะการทำงานดี แล้วก็ช่วยนวด ทำให้ก้อนอุดตันสลายไปได้จริงๆค่ะ
- มีโหมด “รีดน้ำนม” ช่วยให้ปั๊มเกลี้ยงเต้าดีขึ้น ใช้มือบีบไม่มีน้ำนมออกมาเลย
2. Spectra s1 ราคา~ 9,000 บาท
ข้อดี :
- ปั๊มน้ำนมมีแรงดีเยี่ยม เหมาะกับคนน้ำนมน้อย
- อุปกรณ์ไม่จุกจิกมาก ใช้งานง่าย มีปุ่มปรับที่ใช้งานง่าย
- มีระบบนวดกระตุ้นทำให้น้ำนมไหลออกได้ดีขึ้น
- ตัวเครื่องเงียบ
- มีการดูดที่นุ่มนวลใกล้เคียงกับการดูดนมของลูก
- มีหน้าจอ LCD แสดงสถานะการทำงาน
- สามารถปั๊มข้างเดียวหรือปั๊มพร้อมกัน 2 ข้างก็ได้
- ปั๊มน้ำนมได้เกลี้ยงเต้า
- แบตเตอรี่อึด
- มีโหมดกระตุ้นน้ำนม และดูดธรรมดา
- สามารถปรับเวลาค้างเต้าเองได้
- เหมาะแก่การเอาไว้บ้านปั๊มเวลาค้างเต้านานๆ
ข้อเสีย :
- เครื่องมีขนาดใหญ่ หนัก ทำให้พกพาไม่สะดวก ไม่เหมาะกับคุณแม่ที่พกพา และเดินทางรถโดยสารนะคะ
- ควรระมัดระวังเรื่องความชื้น (เช่น วางใกล้กระเป๋าเก็บความเย็น) จะทำให้เครื่องเสีย และไม่อยู่ในการรับประกันค่ะ
- ราคาค่อนข้างสูง อาจมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้าค่ะ
3. Attitude Mom ราคา~ 8,590 บาท
ข้อดี :
- มีการดูดที่นุ่มนวล
- เครื่องน้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- เสียงไม่ดัง
- กรวยเป็นซิลิโคนนิ่ม ทำให้เวลาดูดแล้วไม่เจ็บ
- ปรับระดับได้ว่าอยากได้เบา-แรงแค่ไหน มีหลายโหมดให้เลือก
- ปั๊มน้ำนมได้เกลี้ยงเต้า
- มีบริการหลังการขาย สอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังสอบถามเรื่องนมแม่ได้ตลอดเวลา
- แรงดูดน้ำนมดี
ข้อเสีย :
- อะไหล่เยอะต้องล้างประกอบให้ดี
4. Youha plus ราคา~ 2,800 บาท
ข้อดี :
- ราคาไม่สูงมาก
- ปั๊มน้ำนมได้เกลี้ยงเต้า
- แรงดูดน้ำนมดี
- ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
- มีโหมดดูดกระตุ้น เปลี่ยนเอง เป็นดูดธรรมดา หรือดูดแบบค้างเต้าได้เอง ทำให้สะดวกไม่ต้องปรับเอง
ข้อเสีย :
- หากมีปัญหาเครื่องเสียต้องส่งซ่อมกันเยอะ
5. Unimom ราคา~ 8,500 บาท
ข้อดี :
- แรงดูดดีไม่เจ็บเต้า
- เสียงไม่ดังมาก
- ปั้มน้ำนมนุ่ม ทำให้ไม่เจ็บ
- กรวยปั๊มระบบปิด ช่วยในการป้องกันเชื้อโรคและสิ่งสกปร
กในระหว่างปั๊มนม ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนม - ขนาดกระทัดรัด พกพาสะดวก
- ปรับแรงดูดและความเร็วได้ตา
มต้องการ - ปรับเป็นปั๊มมือได้ (ซื้ออุปกรณ์เพิ่ม)
- ใช้ได้ทั้งไฟบ้านและแบตเตอรี่ (แบบรีชาร์จ)
- ปั๊มได้ 6-8 ครั้ง (10-15 นาที) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (3 ชม.)
- มอเตอร์ทนทาน ใช้งานได้นาน
6. Malish Mirella~ ราคา 7,990 บาท
ข้อดี :
- ขนาดเหมาะแก่การพกพาไปข้างนอก มีหลายรุ่นให้เลือก
ข้อเสีย :
- แรงดูดสูงมาก ทำให้ปั้มนมใหม่จะเจ็บเต้าได้ค่ะ
- น้ำนมไม่ค่อยเกลี้ยงเต้า
- เสียงปั๊มดังกว่ายี่ห้ออื่น
7. Medela Freestyle ราคา~ 14,243 บาท
ข้อดี :
- สะดวกและปั้มดีนะ ประหยัดค่านมได้เยอะ
- เครื่องใช้แบต ดังนั้นชาร์ตไฟบ้านได้เลย
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา
- มีโหมดกระตุ้นน้ำนม
- อุปกรณ์น้อย
- ปั๊มน้ำนมได้เกลี้ยงเต้า
- เครื่องมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก
ข้อเสีย :
- ราคาแพง (อะไหล่)
- เสียงดัง
- ค่าซ่อมแพง
8. Ardo Calypso ราคา~ 11,900 บาท
ข้อดี :
- ให้ความนุ่มสบายในการปั๊ม
- เสียงเบากว่าเครื่องปั๊มทั่
วไป - สามารถปรับระดับความแรงและจ
ังหวะในการปั๊ม ทั้งในช่วงของการกระตุ้นและ การหลั่งน้ำนม ได้อย่างอิสระตามต้องการของ แต่ละคน - อุปกรณ์น้อย ล้างง่ายไม่เยอะชิ้น
- ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา
- การปั๊ม นุ่มนวล หัวนมไม่แตก แรงดูดดี กระตุ้นจี๊ดได้
- ปั้มน้ำนมเกลี้ยงเต้า
- ปรับโหมดได้หลากหลาย แล้วแต่คุณแม่ต้องการ
ข้อเสีย :
- เครื่องใช้ถ่าน AA อาจจะเปลืองค่าใช้จ่ายสำหรั
บซื้อถ่านใส่ แต่ถ้าคุณแม่หลักๆปั้มที่บ้ านก็ไม่น่าจะมีปัญหาตรงจุดนี้ - ไม่มีโหมด
กระตุ้น ถ้าอยากได้คุณแม่ต้องปรับเอง
ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : Nommaeshop
rakluke
loveofmomth