ยังจำได้ไหม ว่าในช่วงวัยเด็กคุณเล่นอะไรกันบ้าง ช่วงเวลาที่ยังไม่มีเทคโนโลยี การสื่อสาร อินเตอร์เน็ตแบบสมัยนี้ ที่ไม่ว่ามองไปทางไหน ก็จะเห็นเด็กตัวเล็กตัวน้อยเล่นเกมในไอแพด แชทไลน์ กดเฟสบุ๊ค ใช้เวลาอยู่หน้าจอสี่เหลี่ยมเกือบทั้งวันทั้งคืน วันนี้ทาง Parents One จะพาทุกคนย้อนวัยไปในวัยเด็ก รื้อฟื้นความหลังว่าสมัยเด็กยุคก่อนมีไอโฟนเค้าเล่นอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย
1. เดินกะลา
ภาพจาก – OKnation
ดูจะเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่หาดูได้ไม่บ่อยนัก โดยผู้เล่นจะต้องนำกะลามะพร้าว 2 อันมาทำความสะอาดแล้วเจาะรูตรงกลาง ร้อยเชือกให้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้เชือกหลุดเวลาเดิน เวลาเดินให้ใช้นิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้คีบเชือกเอาไว้แล้วเดิน ใครถึงเส้นชัยก่อนชนะ ประโยชน์ของการเดินกะลา ก็คือช่วยฝึกการทรงตัว ความสมดุลของร่างกาย เพราะต้องระวังไม่ให้ตกกะลา ช่วงแรกๆ อาจจะรู้สึกเจ็บเท้า แต่ถ้าฝึกบ่อยๆ จะชินและหายเจ็บไปเอง แถมยังทำให้ร่างกายแข็งแรง เพลิดเพลินอีกด้วย
2. ม้าก้านกล้วย
ภาพจาก – OKnation
เป็นอีกหนึ่งการละเล่นที่แสดงถึงความมีภูมิปัญญาของคนไทย เพราะในสมัยก่อนแทบทุกบ้านจะปลูกต้นกล้วยไว้ จึงนำมาประยุกต์เป็นของเล่นให้เด็กๆ ได้เล่นกัน โดยเฉพาะ ม้าก้านกล้วย ดูเหมือนจะถูกอกถูกใจเด็กชายวัยซนมากที่สุด เพราะเด็กๆ จะนำก้านกล้วยมาขี่เป็นม้า เพื่อแข่งขันกันค่ะ
3. มอญซ่อนผ้า
ภาพจาก – OKnation
การละเล่นแสนสนุกที่ทำให้ผู้เล่นได้ลุ้นไปด้วย โดยใช้อุปกรณ์เพียงแค่ผ้าผืนเดียวเท่านั้น แล้วให้ผู้เล่นเสี่ยงทาย ใครแพ้คนนั้นต้องเป็น “มอญ” ส่วนคนอื่นๆ มานั่งล้อมวง คนที่เป็น “มอญ” จะต้องถือผ้าไว้ในมือแล้วเดินวนอยู่นอกวง จากนั้นคนนั่งในวงจะร้องเพลงว่า “มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ไว้โน่นไว้นี่ ฉันจะตีก้นเธอ” หากผู้ที่ถูกทิ้งผ้าไม่รู้ตัว “มอญ” จะหยิบผ้ามาตีหลังผู้เล่นคนนั้น แล้วต้องกลายเป็น “มอญ” แทน แต่หากผู้เล่นรู้ตัวว่ามีผ้าอยู่ข้างหลัง ก็จะหยิบผ้ามาวิ่งไล่ตี “มอญ” รอบวง “มอญ” ต้องรีบกลับมานั่งแทนที่ผู้เล่นคนนั้น แล้วผู้ที่วิ่งไล่ต้องเปลี่ยนเป็น “มอญ” แทน
4. งูกินหาง
ภาพจาก – OTPC
“แม่งูเอ๋ยกินน้ำบ่อไหน กินน้ำบ่อโสกโยกไปโยกมา” ประโยคคุ้นหู ของการเล่นงูกินหางที่ยังติดตรึงในความทรงจำของใครหลายๆ คน และเป็นที่นิยมของเด็กในทุกเทศกาล ทุกโอกาสอีกด้วย วิธีการเล่นงูกินหาง เริ่มจากเสี่ยงทาย ใครแพ้ต้องไปเป็น “พ่องู” ส่วนผู้ชนะที่มีร่างกายแข็งแรง ตัวใหญ่จะเป็น “แม่งู” ไว้คอยปกป้องเพื่อนๆ คนอื่นที่เป็น “ลูกงู” จากนั้น “ลูกงู” จะเกาะเอวแม่งูและต่อแถวกันไว้ ยืนเผชิญหน้ากับ “พ่องู” จากนั้นจะเข้าสู่บทร้อง เมื่อลูกงูคนไหนถูกจับ จะออกจากแถวมายืนอยู่ด้านนอก เพื่อรอเล่นรอบต่อไป หากพ่องูแย่งลูกได้หมด จะถือว่าจบเกมแล้วเริ่มเล่นใหม่ ประโยชน์ของการเล่นคือ ทำให้ผู้เล่นเกิดความสามัคคี ทำงานเป็นกลุ่ม รู้จักช่วยเหลือกัน และรู้จักการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด เมื่อภัยมาถึงตัว นอกจากนี้ยังฝึกร่างกายให้แข็งแรง และจิตใจเบิกบานสนุกสนานไปด้วย
5. รีรีข้าวสาร
ภาพจาก – OKnation
การละเล่นยอดฮิตของเด็กๆ สมัยก่อน โดยเล่นตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เริ่มแรกจับไม้สั้นไม้ยาว ว่าใครจะเป็นประตู ให้ผู้เล่น 2 คน ยืนเอามือประสานกันเหนือศีรษะเป็นประตูโค้ง คนอื่นๆ เกาะไหล่กันลอดใต้โค้งไปเรื่อยๆ สองคนที่เป็นประตูจะร้องเพลงประกอบเวลา แถวลอดใต้โค้ง หัวแถวจะต้องเดินอ้อมหลังคนที่เป็นประตูครั้งละหน เมื่อจบเพลงสอง คนที่เป็นประตูจะกระดุกแขนลงกั้นคนสุดท้ายให้อยู่ระหว่างกลาง คัดออกไป คนข้างหลังต้องระวังตัวให้ดี ไม่เช่นนั้นตัวเองจะต้องออกจากการเล่น ต้องผ่านให้ได้หมดทุกคนจึงจะจบ
6. วิ่งเปรี้ยว
การละเล่นชนิดนี้ เป็นการละเล่นพื้นบ้านของไทยสมัยเดิม มีมาแต่ยาวนาน โดยแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละอย่างน้อย 4 คน จุดเริ่มต้นของทั้งสองฝ่ายจะมองเห็นได้ชัดเจน แต่ละฝ่ายถือผ้าหรือไม้ เมื่อกรรมการให้สัญญาณเริ่มการแข่งขัน ให้แต่ละฝ่ายวิ่งไปทางด้านขวาของตนเอง พยายามวิ่งอ้อมหลักทั้ง 2 หลักไล่ฝ่ายตรงข้ามให้เร็วที่สุด เมื่อวิ่งครบรอบหนึ่งคน ให้ส่งผ้าให้คนต่อไป คนที่เพิ่งวิ่งเสร็จไปต่อหลังแถว และเวียนรอบไปเรื่อยๆ เมื่อถึงระยะให้ใช้ผ้าหรือไม้ตีที่หลังคนหน้า หากทำได้สำเร็จ ก็เป็นฝ่ายชนะไป
7. บอลลูนด่าน
ภาพจาก – Google Sites
8. หมากเก็บ
ภาพจาก – OKnation
การละเล่นยอดฮิตสำหรับเด็กผู้หญิง ปกติจะใช้ผู้เล่น 2-4 คน และใช้ก้อนกรวดกลมๆ 5 ก้อนหรือโซ่พลาสติกนำมาร้อยเป็นก้อนก็ได้ หมากเก็บ มีวิธีเล่นหลายอย่าง แต่ละอย่างก็จะมีชื่อเรียกต่างกันไป เช่น หมากพวง , หมากจุ๊บ ,อีกาเข้ารัง การเล่นหมากเก็บเป็นการฝึกสมาธิ เกิดไหวพริบในการแก้ปัญหา ฝีกน้ำใจเป็นนักกีฬา รปลูกฝังความรักความสามัคคีในหมู่เด็ก
9. กระโดดเชือก
ภาพจาก – Google Sites
การละเล่นของกลุ่มเด็กผู้หญิง ซึ่งใช้ทักษะตามความสามารถพอตัวแต่ละคนต่างๆ กันไป แล้วแต่หุ่น และความคล่องแคล่ว ปราดเปรียวเป็นเรื่องของบุคคล มีหลายท่า หลายแบบ ยิ่งใครโดดได้สูง ท่าแปลกยิ่งเป็นที่ชื่นชมของเพื่อนๆ
ในสภาพสังคมปัจจุบัน ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและความเครียดในสังคม การส่งเสริมการเล่นแบบสมัยก่อน อาจเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยลดช่องว่างในหมู่เด็ก สร้างความช่วยเหลือเกื้อกูลกันในสังคม เป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีให้แก่เด็ก เพื่อเติบโตเป็นสมาชิกที่ดีในสังคมไทยในอนาคตค่ะ