ความเท่าเทียมกันในสังคมถือเป็นเรื่องที่กำลังตื่นตัวมากในสังคมปัจจุบัน เด็กๆ เองก็ต้องเจอเรื่องความแตกต่างและความไม่เท่าเทียมนี้ตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเรื่องครอบครัว เพศ หรือรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเป็นเรื่องที่เด็กๆ ควรได้รับการสอนและรู้จักคุณค่าของผู้อื่น เพื่อลดปัญหาต่างๆ นั่นเอง
ปัญหาความไม่เท่าเทียมเกิดจาก
เกิดจากการเลือกปฏิบัติของคนกลุ่มใหญ่ ซึ่งการเลือกปฏิบัติตั้งแต่ความไม่เข้าใจกัน การกีดกันในสังคม ไปจนถึงการเหยียดชนชั้นและเหยียดสีผิว ซึ่งทำให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่สามารถเข้าถึง โอกาส ความร่ำรวย การศึกษา หรือแม้แต่สาธารณสุข จนทำให้เกิดความไม่พอใจ
สิ่งที่มักจะโดนเปรียบเทียบจนเกิดความไม่เท่าเทียม
- เพศ : ผู้หญิง ผู้ชาย และเพศทางเลือก
- ครอบครรัว : จน และรวย
- ร่างกาย : สวย และไม่สวย
- สีผิว : ขาว และดำ
- การศึกษา : เก่ง และโง่
พ่อแม่สามารถสอนยังไงได้บ้าง
1.สอนให้ลูกยอมรับความแตกต่างของผู้อื่น
คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนลูกให้มีทัศนคติเกี่ยวกับความหลากหลายในสังคม ไม่ว่าจะเรื่องสีผิว ภูมิลำเนา เพศ ภาษา ฐานะ สภาพร่างกายที่แตกต่าง บอกลูกเสมอว่าทุกอย่างล้วนมีคุณค่าของตัวเอง และทุกคนเท่าเทียมกันและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นั่นเอง
2.สอนเรื่องการคบเพื่อนไม่จำเป็นต้องคบคนที่เหมือนเราเสมอ
เพราะในสังคมจริงๆ เด็กๆ ก็ต้องเจอกับผู้คนมากหน้าหลายตาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่เองคงต้องสอนเรื่องทักษะทางสังคมเกี่ยวกับการเลือกคบเพื่อนว่า เราสามารถเลือกคนที่ไม่เหมือนเราได้ เพราะทุกคนมีดีแตกต่างกันไป
3.คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่เปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกคนอื่นๆ
เรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่เองก็อาจจะเคยประสบพบเจอมากับตัวถึงเรื่องการเปรียบเทียบทั้งตอนเด็กๆ และตอนโต ไม่ว่าจะข้อดี ข้อด้อย ความแตกต่างๆ ก็ไม่ควรที่จะไปเปรียบเทียบลูกเรากับลูกคนอื่นๆ เพราะมันจะทำให้ลูกรู้สึกไร้ค่า และกลายเป็นเด็กขี้อิจฉาในทันที และอาจจะติดนิสัยเปรียบเทียบนี้ได้อีกด้วยนะคะ
4.ชวนลูกไปทำกิจกรรมกับเด็กคนอื่นๆ
การพาลูกได้ไปสัมผัสและทำกิจกรรมกับคนอื่นๆ จริงๆ จะทำให้ลูกได้เรียนรู้ถึงมิตรภาพบนความแตกต่างของกลุ่มเพื่อนแตกต่างกันไป ทั้งเรื่องเพศ นิสัย ครอบครัว ถึงแม้จะแตกต่างแต่ก็อยู่บนความเท่าเทียมที่สวยงามค่ะ
5.สอนเรื่องเพศกับความเท่าเทียมให้ลูก
ปกติเรามักจะคิดว่า ผู้หญิงจะต้องเรียบร้อย ไม่สู้คน เล่นของเล่นคือตุ๊กตา ส่วนผู้ชายต้องเป็นผู้นำ งานบ้านไม่ต้องทำ เล่นของเล่นรถคันใหญ่ๆ ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องปกติที่ใครๆ อาจจะคิด แต่ความจริงไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถทำสิ่งเหล่านี้แทนกันได้หมด อาจจะเริ่มจากหากมีลูกผู้ชาย ก็อาจจะลองให้เขาได้เข้าครัวทำอาหาร มีลูกผู้หญิงก็อาจจะให้เขาได้ลองล้างรถกับคุณพ่อ เพื่อให้เห็นว่าทุกคนไม่ว่าเพศไหนก็ทำได้ทั้งสิ้นค่ะ