เมื่อลูกเริ่มโตพอที่จะออกไปข้างนอกได้แล้วนั้น คุณแม่ย่อมดูแลไม่ให้คลาดสายตาแน่นอน แต่ถึงจะดูแลดีแค่ไหนก็มีโอกาสพลัดหลงกับคุณแม่ได้ทั้งนั้น คุณแม่จึงควรสอนลูกให้รู้วิธีป้องกันตัวเมื่อเกิดหลงทางหรือพลัดหลงกับคุณแม่แต่เนิ่นๆ เพื่อลูกๆ จะได้ปลอดภัยค่ะ
ห้อยสายข้อมือข้อมูลลูก
เมื่อลูกยังเล็ก อาจจะยังจำได้มากที่สุกคือชื่อเล่นเท่านั้น เผลอๆ ยังพูดไม่คล่องด้วยซ้ำ การห้อยสายข้อมือที่มีข้อมูลลูกอย่างเบอร์โทรพ่อแม่ ชื่อและนามสกุลลูก จะทำให้เมื่อพลัดหลงแล้วหาเจอง่ายขึ้นเมื่อมีคนเห็น
ฝึกตั้งคำถามเพื่อให้ลูกคิดแก้ปัญหา
คุณแม่อาจลองถามลูกน้อยถึงความรู้สึกและวิธีแก้ไขปัญหาหากลูกนั้นหลงทาง และใช้โอกาสนี้แนะนำวิธีเอาตัวรอดเพิ่มเติมเข้าไป
ไปขอความช่วยเหลือจากคุณตำรวจ
นำกระดาษที่เขียนชื่อพ่อแม่และเบอร์โทรใส่กระเป๋ากางเกงลูกน้อยไว้ เผื่อว่าพลัดหลงจะได้ไว้ยื่นให้ตำรวจได้
ทำให้ลูกมีสติอยู่ทุกเมื่อ
สติ คือ ความระลึกได้ ความนึกขึ้นได้ ความไม่เผลอ ฉุกคิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีรวมถึงลูกด้วย คุณแม่จึงควรสอนลูกให้มีสติอยู่เสมอ ให้รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วจะทำให้ลูกน้อยปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
สอนวิธีพื้นฐานในการป้องกันตัวเองบางวิธีแก่ลูก
อาจจะสอนให้รู้ว่าการแตะเนื้อต้องตัวสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยนั้นเป็นเรื่องอันตราย อยู่ข้างนอกควรสังเกตให้ดีว่ามีใครที่มีปฏิกิริยาแปลกๆ กับลูกหรือไม่
สอนให้ปฏิเสธคนแปลกหน้า
สอนการรับมือว่าถ้าเกิดว่ามีคนแปลกหน้ามารับลูกที่โรงเรียนควรจะทำอย่างไร ซึ่งการรับมือด้วยการปฏิเสธนั้นมีได้หลายรูปแบบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธด้วยการส่ายหน้าแล้ววิ่งหนี หลีกเลี่ยงการคุย เดินไปหาคุณครู เป็นต้น
สอนให้ลูกจำชื่อเล่น ชื่อจริงได้ เขียนได้ยิ่งดี
ถ้าลูกอยู่ในวัยเริ่มอ่านออกเขียนได้แล้ว คุณแม่ควรสอนให้ลูกจำชื่อเล่นและชื่อจริงได้ ถ้าสามารถเขียนได้ด้วยจะดีมาก เพราะถ้าเกิดหลงทางแล้วคุณตำรวจถามชื่อลูก แต่ลูกอาจจะพูดยังไม่ค่อยชัด ให้ลูกใช้วิธีเขียนให้ดูก็ได้ค่ะ
สอนลูกตะโกนเรียกชื่อของคุณพ่อคุณแม่
ลองสอนสอนลูกตะโกนเรียกชื่อของคุณพ่อคุณแม่ดู จะเป็นชื่อเล่นหรือชื่อจริงก็ได้ เพราะเสียงเรียกว่า “พ่อแม่” อาจกลมกลืนไปกับเสียงของผู้คนและเด็กคนอื่นๆ
สอนให้ลูกมองหาคนช่วยเหลือ
อาจให้ลูกขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงที่มากับเด็กเพื่อขอความช่วยเหลือหรือพนักงานที่เคาน์เตอร์คิดเงินตามร้านค้าใหญ่ๆ
สอนให้ลูกอยู่กับที่และมองหาจุดเด่นที่ปลอดภัย
ลองสอนให้ลูกอยู่กับที่และมองหาจุดเด่นที่ปลอดภัย เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าขนาดใหญ่ ฟุตบาท หรือยืนบนเก้าอี้สาธารณะที่ทำให้สูงขึ้นเป็นต้น และลูกน้อยต้องรู้จักยืนยันหนักแน่นว่าจะหยุดรอคุณพ่อคุณแม่อยู่ที่เดิม ไม่ตามผู้คนแปลกหน้าไปไหน
ชวนลูกเล่นบทบาทสมมุติหลายๆ ครั้ง
โดยสมมุติสถานการณ์ที่เขาพลัดหลงและเจอผู้คนหลากหลายรูปแบบ การซักซ้อมด้วยการเล่นบทบาทสมมุติหลายๆ ครั้งจะช่วยให้ลูกน้อยจำได้มากขึ้นและไม่ตื่นตกใจมากนักเมื่อเจอสถานการณ์จริงและทำให้เรามั่นใจได้ว่าลูกจะรู้วิธีการที่จะช่วยเหลือตัวเอง จนกว่าคุณพ่อคุณแม่จะหาเขาเจอ
การเตรียมตัวก่อนจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งมีวิธีมากมายในการสอนลูกถ้าลูกเกิดหลงทางหรือพลัดหลงกับคุณแม่ สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมค่ะ
ที่มา
- wol.jw
- amarinbabyandkids
- ประสบการณ์ที่แม่ของผู้เขียนเล่าให้ฟัง