fbpx

ช่วงหน้าฝน

เลือกหมวดหมู่


ข่าว ข่าว

ในช่วงนี้สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศไทยค่อนข้างน่าเป็นห่วง คาดว่ามีโอกาสพบผู้ป่วยมากขึ้น เนื่องจากในช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว อีกทั้งยังมีมรสุม ฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำขังและเป็นแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลายได้ จากสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2563 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ 13,006 ราย เสียชีวิต 10 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยมากสุดคือ 10-14 ปี รองลงมาคือกลุ่มอายุ 5-9 ปี  ซึ่งอาการของโรคไข้เลือดออก คือ มีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หน้าแดง มีผื่น มีรอยจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกตามลำตัว แขน ขา เบื่ออาหาร จุกแน่นลิ้นปี่ ควรไปพบแพทย์โดยด่วน สำหรับวิธีการป้องกันโรคไข้เลือดออกและโรคที่เกิดจากยุงลายคือ การใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” ดังนี้  1.เก็บบ้านให้สะอาด เพื่อไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง  2.เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน เก็บภาชนะใส่อาหารหรือน้ำดื่มที่ทิ้งไว้ใส่ถุงดำ และนำไปทิ้งลงถังขยะ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง  3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภค บริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่  โดยพ่อแม่สามารถป้องกันไม่ให้ยุงกัดตัวเองและลูกได้ ด้วยการสวมใส่เสื้อแขนยาวและการเกงขายาว ใช้สารไล่ยุงชนิดต่างๆ เช่น DEET ใช้กลิ่นกันยุง เช่น ตะไคร้ รวมไปถึงการนอนในมุ้ง อ้างอิงจาก https://www.thaipost.net/main/detail/66794

ข่าว ข่าว
เด็กเล็กๆ ร่างกายยังไม่แข็งแรงจึงทำให้ป่วยง่ายโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนแบบนี้ ซึ่งฤดูฝนเป็นช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคมากที่สุด พ่อแม่จึงควรใส่ใจในสุขภาพของลูกมากเป็นพิเศษค่ะ แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนพ่อแม่ ผู้ปกครองต้องใส่ใจดูแลสุขภาพเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนเป็นพิเศษ เพราะเสี่ยงป่วยง่ายจากโรคติดต่อ ระหว่างเด็กที่หลักๆ ก็จะมีอยู่ 5 โรคได้แก่ 1.โรคมือ เท้า ปาก : มีอาการจุดตุ่มแดงอักเสบที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม นอกจากนี้ยังมีตุ่ม หรือผื่นนูนสีแดงเล็กๆ ที่ฝ่าเท้า และมีไข้ วิธีการป้องกันคือ ล้างมือให้สะอาดหลังการขับถ่าย และดูแลความสะอาดของใช้ต่างๆ อยู่เสมอ 2.โรคไข้หวัดและโรคไข้หวัดใหญ่ : โดยอาการจะมีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดศรีษะ ไอ จาม หรือ มีน้ำมูกไหล วิธีป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ คือ ล้างมือด้วยเจลล้างมือทุกครั้งเวลาดูแลลูก สอนให้ลูกเช็ดน้ำมูก และปิดปากปิดจมูกเวลาไอ หรือจาม 3.โรคตาแดง : เป็นโรคที่เกิดการแพร่ระบาดในศูนย์เลี้ยงเด็กเล็กหรือโรงเรียนได้ง่าย เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส โดยสามารถติดต่อได้ทางการสัมผัสขี้ตา น้ำตา หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรใช้ยาหยอดตาเพื่อลดอาการระคายเคือง และหมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ 4.โรคอาหารเป็นพิษ : เป็นโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ หากพบว่ามีอาการท้องเสีย ปวดท้องและมีไข้สูง ปวดศีรษะ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อเป็นการป้องกันจึงควรใส่ใจถึงความสะอาดของอาหารเป็นอย่างมาก ควรปรุงสุกและไม่เก็บอาหารที่เสียง่ายค้างคืนไว้ 5.โรคไข้เลือดออก : มีอาการไข้สูง ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ถ้ามีอาการอาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือด แสดงว่าเข้าสู่ภาวะอันตราย เด็กอาจจะมีภาวะช็อค ควรรีบเข้ารับการรักษาโดยด่วน ส่วนวิธีการป้องกันคือ ระวังอย่าให้ยุงกัด ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย การดูแลเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนไม่ให้ป่วยง่ายพ่อแม่ต้องสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ลูก โดยให้กินอาหารครบ 5 หมู่…
17 กรกฏาคม 2561

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save