Parents One

คุณแม่ท้องแข็ง แบบไหนถึงเรียกอันตราย!!

เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณพ่อหรือคนใกล้ชิดต้องหมั่นดูแลเป็นพิเศษ เพราะว่าร่างกายของคุณแม่ในช่วงนี้ต้องการความใส่ใจ และมักจะแสดงอาการแปลกๆ ออกมาหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ “อาการท้องแข็ง” ซึ่งคุณแม่ใกล้คลอดมักเป็นกันบ่อย เมื่อเอามือจับดู จะมีก้อนนิ่มตึงๆ เป็นๆ หายๆ ประมาณ 10 นาที

ซึ่งอาการท้องแข็งมักเกิดจาก มดลูกบีบรัดตัวแข็งเป็นก้อนกลม ทำให้รู้สึกแน่นท้อง ซึ่งถ้าทิ้งไว้นาน จะยิ่งทำให้ปากมดลูกเปิดนั่นเอง

ซึ่งอาการ “ท้องแข็ง” นั้นมีหลายแบบ แต่แบบไหนถึงเรียกว่าอันตราย ไปดูกันเลยค่ะ

สาเหตุหลักที่ทำให้ “ท้องแข็ง”

 

สาเหตุของ “ท้องแข็ง” แบบต่างๆ 

– ท้องแข็ง เพราะเบบี๋ดิ้น หรือโก่งตัว

คุณแม่จะรู้สึก “แข็งบางที่ นิ่มบางที่” ภายในท้อง เป็นเพราะว่าอวัยวะที่เติบโตแล้วของเจ้าเบบี๋ เช่น แขน ขา ศอก เข่า ศีรษะของลูกน้อย เริ่มดันผนังท้องแล้วนั่นเอง

ถ้าคุณแม่ท้องแข็งแบบนี้ แสดงว่าไม่มีอันตรายใดๆ ค่ะ เพราะเป็นธรรมชาติของลูกน้อยที่จะกลับตัว หรือโก่งตัวค่ะ

 

– ท้องแข็ง เพราะคุณแม่กินอิ่มจนเกินไป หรือเพิ่งทานข้าวเสร็จใหม่ๆ

เมื่อคุณแม่เริ่มท้องแก่ พื้นที่ในท้องของคุณแม่จึงยิ่งมีจำกัด เมื่อท้องโตขึ้น มดลูกจึงโตขึ้นตามไปด้วย ทำให้อวัยวะต่างๆ เกิดการเบียดเสียดกัน เวลาที่คุณแม่ทานอะไรไปเพียงนิดเดียว ก็ทำให้แน่นท้องได้แล้วค่ะ

ถ้าคลำดูที่ช่วงท้องเท่านั้นที่จะแข็ง แต่มดลูกยังนิ่มอยู่ค่ะ ไม่เป็นอันตรายแน่นอน

 

– ท้องแข็ง เพราะมดลูกบีบตัว

หากท้องแข็ง เพราะมดลูกบีบตัว มดลูกจะเเข็งทั้งหมด ซึ่งเราเรียกว่า ท้องแข็งของแท้ จะเกิดขึ้น และพบบ่อยเมื่อคุณแม่มีช่วงอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าลูกน้อยดิ้นมากที่สุด จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มดลูกบีบตัวนั่นเอง ดังนั้น การบีบตัวของมดลูกวันละ 6-10 ครั้ง จึงถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ

แต่ว่าถ้าคุณแม่มีอาการท้องแข็งนานเกินไป เจ็บจนเกร็งทนไม่ไหว ผสมกับเจ็บท้องบ่อยเกินกว่า 10 ครั้งต่อวัน ควรรีบไปคุณหมอโดยด่วนเลยค่ะ เพราะเจ้าตัวน้อยอาจจะต้องการขอความช่วยเหลืออยู่ในท้องแม่ก็เป็นได้

 

วิธีรับมือ เมื่อเกิดอาการท้องแข็ง

– คุณแม่ห้ามกลั้นปัสสาวะ

เพราะจะยิ่งทำให้กระเพาะปัสสาวะที่โตขึ้น เพราะปวดฉี่ไปเบียดมดลูก ทำให้คุณแม่เจ็บท้องได้ง่ายนั่นเอง

– หยุดการมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงสัปดาห์ใกล้คลอด

– อย่าเครียดมากจนเกินไป

– ค่อยๆ ลุก ค่อยๆ เดิน ให้อยู่ในท่าตะแครงก่อนลุกขึ้น

– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

– ไม่ลูบท้อง และจับหน้าอกบ่อยๆ

แต่ถ้าคุณแม่กลัวว่าตัวเองจะคลอดก่อนกำหนดรึเปล่า ควรไปหาคุณหมอเพื่อให้ได้รับคำแนะนำอย่างถูกวิธีจะดีที่สุดนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่ และลูกน้อยเองด้วย ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ และคนใกล้ชิดต้องหมั่นสังเกตอาการ และพฤติกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับครรภ์ของเจ้าตัวน้อยด้วย เพื่อที่จะได้รักษาได้อย่างทันถ่วงทีค่ะ