เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณพ่อหรือคนใกล้ชิดต้องหมั่นดูแลเป็นพิเศษ เพราะว่าร่างกายของคุณแม่ในช่วงนี้ต้องการความใส่ใจ และมักจะแสดงอาการแปลกๆ ออกมาหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ “อาการท้องแข็ง” ซึ่งคุณแม่ใกล้คลอดมักเป็นกันบ่อย เมื่อเอามือจับดู จะมีก้อนนิ่มตึงๆ เป็นๆ หายๆ ประมาณ 10 นาที
ซึ่งอาการท้องแข็งมักเกิดจาก มดลูกบีบรัดตัวแข็งเป็นก้อนกลม ทำให้รู้สึกแน่นท้อง ซึ่งถ้าทิ้งไว้นาน จะยิ่งทำให้ปากมดลูกเปิดนั่นเอง
ซึ่งอาการ “ท้องแข็ง” นั้นมีหลายแบบ แต่แบบไหนถึงเรียกว่าอันตราย ไปดูกันเลยค่ะ
สาเหตุหลักที่ทำให้ “ท้องแข็ง”
- คุณแม่อั้นปัสสาวะบ่อย ทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
- พักผ่อนน้อย นอนน้อย และดูแลสุขภาพของตัวเองน้อยเกินไป
- คุณแม่เผลอยกของหนัก หรือทำงานหนักจนเกินไป
- การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงมากจนเกินไป
สาเหตุของ “ท้องแข็ง” แบบต่างๆ
– ท้องแข็ง เพราะเบบี๋ดิ้น หรือโก่งตัว
คุณแม่จะรู้สึก “แข็งบางที่ นิ่มบางที่” ภายในท้อง เป็นเพราะว่าอวัยวะที่เติบโตแล้วของเจ้าเบบี๋ เช่น แขน ขา ศอก เข่า ศีรษะของลูกน้อย เริ่มดันผนังท้องแล้วนั่นเอง
ถ้าคุณแม่ท้องแข็งแบบนี้ แสดงว่าไม่มีอันตรายใดๆ ค่ะ เพราะเป็นธรรมชาติของลูกน้อยที่จะกลับตัว หรือโก่งตัวค่ะ
– ท้องแข็ง เพราะคุณแม่กินอิ่มจนเกินไป หรือเพิ่งทานข้าวเสร็จใหม่ๆ
เมื่อคุณแม่เริ่มท้องแก่ พื้นที่ในท้องของคุณแม่จึงยิ่งมีจำกัด เมื่อท้องโตขึ้น มดลูกจึงโตขึ้นตามไปด้วย ทำให้อวัยวะต่างๆ เกิดการเบียดเสียดกัน เวลาที่คุณแม่ทานอะไรไปเพียงนิดเดียว ก็ทำให้แน่นท้องได้แล้วค่ะ
ถ้าคลำดูที่ช่วงท้องเท่านั้นที่จะแข็ง แต่มดลูกยังนิ่มอยู่ค่ะ ไม่เป็นอันตรายแน่นอน
– ท้องแข็ง เพราะมดลูกบีบตัว
หากท้องแข็ง เพราะมดลูกบีบตัว มดลูกจะเเข็งทั้งหมด ซึ่งเราเรียกว่า ท้องแข็งของแท้ จะเกิดขึ้น และพบบ่อยเมื่อคุณแม่มีช่วงอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่เจ้าลูกน้อยดิ้นมากที่สุด จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้มดลูกบีบตัวนั่นเอง ดังนั้น การบีบตัวของมดลูกวันละ 6-10 ครั้ง จึงถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ
แต่ว่าถ้าคุณแม่มีอาการท้องแข็งนานเกินไป เจ็บจนเกร็งทนไม่ไหว ผสมกับเจ็บท้องบ่อยเกินกว่า 10 ครั้งต่อวัน ควรรีบไปคุณหมอโดยด่วนเลยค่ะ เพราะเจ้าตัวน้อยอาจจะต้องการขอความช่วยเหลืออยู่ในท้องแม่ก็เป็นได้
วิธีรับมือ เมื่อเกิดอาการท้องแข็ง
– คุณแม่ห้ามกลั้นปัสสาวะ
เพราะจะยิ่งทำให้กระเพาะปัสสาวะที่โตขึ้น เพราะปวดฉี่ไปเบียดมดลูก ทำให้คุณแม่เจ็บท้องได้ง่ายนั่นเอง
– หยุดการมีเพศสัมพันธ์ ในช่วงสัปดาห์ใกล้คลอด
– อย่าเครียดมากจนเกินไป
– ค่อยๆ ลุก ค่อยๆ เดิน ให้อยู่ในท่าตะแครงก่อนลุกขึ้น
– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
– ไม่ลูบท้อง และจับหน้าอกบ่อยๆ
แต่ถ้าคุณแม่กลัวว่าตัวเองจะคลอดก่อนกำหนดรึเปล่า ควรไปหาคุณหมอเพื่อให้ได้รับคำแนะนำอย่างถูกวิธีจะดีที่สุดนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่ และลูกน้อยเองด้วย ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ และคนใกล้ชิดต้องหมั่นสังเกตอาการ และพฤติกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับครรภ์ของเจ้าตัวน้อยด้วย เพื่อที่จะได้รักษาได้อย่างทันถ่วงทีค่ะ