fbpx

ทักษะที่ควรฝึกให้ลูกน้อยทำได้ด้วยตัวเอง

Writer : Jicko
: 28 กุมภาพันธ์ 2562

เมื่อเด็กๆ เริ่มโตขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็มักจะหาทักษะต่างๆ มาให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ เพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป หนึ่งในนั้นก็คือ การฝึกให้เด็กๆ ช่วยเหลือตัวเองให้เป็น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเริ่มเข้าเรียนอนุบาล ที่ต้องไปอยู่โรงเรียนโดยไม่มีคุณพ่อคุณแม่

หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้เด็กๆ มีทักษะการช่วยเหลือตัวเอง วันนี้ทาง Parentsone จึงได้รวบรวมทักษะที่สำคัญ ที่ต้องฝึกให้ลูกน้อยทำได้ด้วยตัวเองมาฝากกัน เพื่อเป็นพื้นฐานแรกที่จะฝึกเด็กๆ ให้เติบโตเป็นเด็กที่ทำเป็นและอยู่รอดต่อไปนั้นเองค่ะ

  • ทานอาหารด้วยตัวเอง

คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกเด็กๆ ให้ทานอาหารด้วยตัวเองอย่างเรียบร้อยและเป็นเวลาได้ โดยที่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ลูกน้อยได้ออกกำลังกล้ามเนื้อมือ และทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้มือและตาทำงานประสานกันนั้นเองค่ะ และการตักอาหารก็เช่นกันค่ะ คุณพ่อคุณแม่ควรจะเตรียมอาหารให้เด็กๆ อย่างพอดี เพื่อไม่ให้ลูกท้อในการกินนนั้นเองค่ะ อีกอย่างเลยที่ยังไงก็ต้องมีนั้นก็คือความเลอะเทอะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกลัวว่าเลอะโน้นเลอะนี่แต่อย่างใด ให้คิดว่าความเลอะนี้ก็เป็นการฝึกของเด็กๆ ที่จะได้ช่วยเหลือตัวเองยังไงละคะ หรืออาจจะมีวิธีอื่นๆ คุณพ่อคุณแม่ลองมาแชร์ประสบการณ์กันดูได้นะคะ

  • เก็บของเล่นด้วยตัวเอง

บอกได้เลยว่าเป็นปัญหาของคุณแม่ๆ ทั้งหลาย กับการเล่นของเล่นของเจ้าตัวน้อยแล้วไม่ยอมเก็บเข้าที่ ซึ่งการจะให้เขารู้จักเก็บของเล่นนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มสอนลูกตั้งแต่ยังเล็กตั้งแต่ประมาณ 2 ขวบ ก็ได้ค่ะ หรือคุณแม่ๆ เก็บให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง เก็บให้เข้าที่ไม่เกะกะ เพราะเจ้าตัวน้อยจะซับซับนิสัยดีๆ นี้จากคุณพ่อคุณแม่ได้เองค่ะ ถ้าอยากให้สนุกขึ้น คุณแม่ๆ อาจจะต้องหาตู้หรือกล่องเก็บของเล่น ที่ดึงดูดลูกอย่างกล่องที่มีลายการ์ตูน หรือสีสันสดใส ที่เด็กๆ ชอบ อาจจะมีฝาปิด เพื่อป้องกันฝุ่นต่างๆ ก็จะดีมากเลยค่ะ

  • แปรงฟันด้วยตัวเอง

เมื่อเด็กๆ เริ่มมีฟันขึ้น คุณแม่ๆ ก็มักจะกังวลกับความสะอาดในช่องปากของลูกน้อยกันมากขึ้น แต่เด็กๆ มักจะไม่ค่อยยอมให้แปรงฟัน วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้ลูกน้อยหัดแปรงฟัน นั้นก็คือ คุณแม่ๆ อาจจะยืนหน้ากระจกพร้อมกับลูกข้างๆ กัน หยิบแปรงสีฟันยาสีฟันมาให้เขาเพื่อให้เขาได้เห็นขั้นตอนการแปรงฟัน จากนั้นคุณแม่ๆ อาจจะแปรงให้ลูกดูเป็นตัวอย่างแล้วให้เขาทำตาม หรือจับมือลูกแปรงฟัน แล้วหันหน้าเข้าหากระจก เพื่อที่เขาจะได้เห็นตอนที่ตัวเองกำลังแปรงฟันค่ะ หากลูกไม่ยอมแปรง คุณแม่ๆ อาจจะต้องพาเขาไปเลือกแปรงสีฟัน หรืออุปกรณ์น่ารักๆ ที่เขาชอบ หรือช่วยลูกแปรงไปเรื่อยๆ เพื่อความสะอาด แล้วค่อยๆ ลดระดับการช่วยเหลือลง จนเขาสามารถแปรงเองได้ แม้จะไม่ค่อยถูกต้องหมดก็ตามค่ะ

  • อาบน้ำด้วยตัวเอง

เด็กกับน้ำเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ซึ่งการฝึกเด็กๆ อาบน้ำด้วยตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เทคนิง่ายๆ เลยก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องแสดงให้เขาเห็นว่าการอาบน้ำเองไม่ใช่เรื่องยาก สอนให้เขารู้ถึงวิธีการอาบที่ถูกต้อง วิธีการใช้สบู่ ยาสระผม ในทุกส่วนของร่างกาย ทางที่ดีในถ้าอยากให้เขาอยากอาบน้ำคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องพาเขาไปเลือกซื้ออุปกรณ์อาบน้ำ หรือของเล่นน้ำที่ลูกชอบสำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะ มีรูปการ์ตูนน่ารักๆ และวางอุปกรณ์อาบน้ำไว้ในที่ๆ หยิบจับสะดวกนั้นเองค่ะ หรือจะเป็นการร้องเพลงหรือหาเกมที่ช่วยกระตุ้นให้เขาพยายามที่จะอาบน้ำเอง เมื่อเด็กเริ่มคุ้นชินกับอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำแล้ว คุณแม่อาจจะลองปล่อยเค้าอาบน้ำเอง ดูเขาอยู่ห่างๆ แต่อย่าให้เขาอาบนานไปนะคะ อาจจะทำให้เด็กๆ ไม่สบายได้ค่ะ

  • ใส่เสื้อผ้าด้วยตัวเอง

การสอนให้เด็กๆ ใส่เสื้อผ้าด้วยตัวเอง เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายและก็ไม่อยากสำหรับเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสอนแล้วให้เขาได้เริ่มลองใส่เอง แทนที่จะแต่งตัวให้เจ้าตัวเองเพียงฝ่ายเดียว หรือถ้าเด็กๆ ยังงองอ คุณแม่ๆ อาจจะให้เขาไปช่วยหยิบจับเสื้อผ้าส่งให้ก่อน แล้วค่อยสอนเขา เมื่อเวลาที่ลูกทำสำเร็จแล้วคุณแม่ๆ ควรจะต้องชมเชยเขาไว้ หากทำผิดก็ไม่ควรตำหนิเขา แต่เปลี่ยนเป็นการช่วยใส่ใหม่ให้ถูกต้องแทนนั้นเองค่ะ

  • เก็บที่นอนด้วยตัวเอง

ในวัย 3 – 5 ขวบ การเก็บที่นอนตอนเช้าหลังตื่นนอน เป็นช่วงที่เด็กๆ สามารถเริ่มต้นฝึกได้แล้ว โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องทำให้เด็กๆ ดูก่อนและชวนให้เขาได้ทำตาม โดยอาจจะเริ่มต้นจากการพับผ้าห่มก่อนและจัดที่นอนให้เรียบร้อย ชวนลูกมาช่วยกันทำ ชี้ชวนลูกว่าเห็นไหมเมื่อเก็บเสร็จแล้วก็จะดูน่ามอง เป็นระเบียบมากๆ เลย และทุกครั้งที่ลูกทำได้ อย่าลืมชมเชย และชวนเขาฝึกทำทุกวันจะทำให้เด็กๆ ซึมซับได้ง่ายกว่าที่เมื่อโตแล้ว ยังไงซะก็ต้องมีคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นต้นแบบที่ดีและทำให้เด็กๆ เห็นอยู่เสมอๆ นะคะ

  • นำเสื้อผ้าที่ใช้แล้วใส่ตระกร้า

ก็ถือเป็นว่าเป็นการฝึกงานบ้านแบบง่ายๆ สำหรับเด็กๆ ที่สำคัญเลยคุณพ่อคุณแม่ต้องทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ ได้เห็น อาจจะสอนเด็กๆ ว่าเมื่อถอดเสื้อผ้าเสร็จแล้วเราควรจะเอาเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ไปใส่ตระกร้าให้เรียบร้อย ทำให้เขาเห็นแล้วชวนเขาทำบ่อยๆ เด็กๆ จะได้ติดนิสัยความรับผิดชอบ และเป็นคนมีระเบียบมากขึ้นนั้นเองค่ะ

  • เข้าห้องน้ำด้วยตัวเอง

การเรียนรู้การเข้าห้องน้ำของเด็กเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้และให้เขาเข้าห้องน้ำอย่างเป็นเวลา เด็กบางคนก็เข้าห้องน้ำได้ตั้งแต่สองขวบ แต่บางคนอาจจะต้องรอให้ถึงสามขวบ ถึงจะฝึกให้กับเขาได้ ซึ่งเทคนิคง่ายๆ ในการฝึกลูกนั้นก็คือ ให้เด็กๆ นั่งบนโถส้วมที่มีแผ่นรองก้นขนาดพอดีกับก้นของเด็กๆ โดยเท้าต้องเหยียบเต็มพื้นหรือระดับหัวเข่าสูงกว่าสะโพก หรือกรณีอื่นอาจจะต้องใช้ที่รองเหยียบมาวางเสริมเท้าของเด็กๆ เพื่อไม่ให้แกว่งไปมานั้นเองค่ะ เมื่อเด็กๆ พร้อมหรือสนใจวิธีเข้าห้องน้ำ เขาก็จะเริ่มเดินตามไปที่ห้องน้ำ คุณพ่อคุณแม่อาจจะถามเขาว่า “ปวดฉี่ไหม” หรือ “อยากเข้าห้องน้ำไหม”  เพื่อเป็นการสอบถามถึงความพร้อมนั้นเองค่ะ

  • เก็บจานข้าวเมื่อทานเสร็จ

เมื่อเด็กๆ ทานข้าวเองได้และช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องบอกเขาเสมอว่า เมื่อทานข้าวเสร็จแล้ว ต้องเอาจานตัวเองไปเก็บ ทำให้เขาดูและบอกเสมอทุกๆ วัน จนเขาทำเองได้จนเป็นกิจวัตรประจำวันโดยที่เราไม่บอก เด็กๆ ก็จะติดนิสัยที่ดีมีระเบียบ เป็นเด็กที่น่ารักแถมเวลาไปบ้านใคร เมื่อทานเสร็จแล้วก็เก็บจานแบบนี้ ผู้ใหญ่ก็จะเอ็นดูอีกด้วยนะคะ

  • ถอดรองเท้าอย่างเป็นระเบียบ

ทุกครั้งที่จะเข้าบ้าน ต้องวางรองเท้าให้เป็นคู่เป็นระเบียบ เก็บเข้าที่ทุกครั้ง ถ้าหากเขายังไม่ยอมทำตาม อาจจะเริ่มจากการช่วยกันเก็บในครั้งแรกๆ แล้วค่อยๆ ปล่อยให้เขาได้เก็บด้วยตัวเอง ไม่ต้องพยายามช่วยเหลือทุกครั้ง หรือคุณพ่อคุณแม่ต้องทำให้เขาดู อาจจะเป็นหลังจากที่ไปรับเด็กๆ ที่โรงเรียนแล้วกำลังจะเข้าบ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็ถอดรองเท้าแล้วเก็บให้เป็นระเบียบให้ลูกๆ ดูก่อน แล้วให้เขาทำตาม หากไม่ทำตามเราอาจจะบอกเด้กๆ ว่า ถ้าเขาไม่ยอมเก็บรองเท้าก็อาจหายได้ เช่นนี้ เขาก็จะเรียนรู้การเก็บอย่างเป็นระเบียบนั้นเองค่ะ

  • ใส่รองเท้าหรือถุงเท้าด้วยตัวเอง

คุณพ่อคุณแม่อาจจะเร่ิมจาก การหารองเท้าที่สวมใส่ง่ายเหมาะกับการฝึกกับเด็กๆ ในการใส่รองเท้า อาจจะชวนเขาเล่นเกมแข่งกันใส่รองเท้ากัน สอนเขาใส่หรือใส่ให้เขาดูก่อนแล้วค่อยๆ ให้เขาได้เริ่มใส่เอง ค่อยๆ ลดความช่วยเหลือลงทีละเล็กละน้อย หากเด็กๆ งอแงไม่ยอมทำคุณพ่อคุณแม่ต้องใจแข็งนะคะ แต่ห้ามดุเด็กๆ เลยเด็ดขาด ค่อยๆ ให้กำลังใจในการฝึกไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ เดี๋ยวเด็กๆ ก็ทำได้เองค่ะ

  • กล่าวคำขอโทษและขอบคุณ

เมื่อเด็กๆ ทำผิดหรือทำอะไรที่ไม่ดี คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนให้เด็กๆ พูดคำว่า “ขอโทษ” โดยอัตโนมัติ ให้ติดเป็นนิสัย เช่นเดียวกับคำว่าขอบคุณ เมื่อเด็กๆ ได้รับของหรือคำชมต่างๆ จากผู้ใหญ่หรือเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน ควรกล่าวคำว่าขอบคุณเสมอ พฤติกรรมดังกล่าวนี้หากทำจนติดเป็นนิสัย เป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียวนะคะ ผู้ใหญ่จะรักและเอ็นดูเด็กๆ ไปไหนก็มีแต่คนรักนั้นเองค่ะ

  • การทำการบ้านด้วยตัวเอง

แค่เห็นคำว่าการบ้าน เด็กๆ ทุกคนล้วนส่ายหน้าและขยาดไม่อยากทำเลยทีเดียว เด็กๆ อาจจะไม่ชอบทำการบ้านเพราะการบ้านอาจจะยากเกินไป ทำไม่ได้ เลยต้องหาคนทำให้แทน งอแงสารพัด วิธีการง่ายๆ ที่จะฝึกให้เด็กๆ ทำการบ้านด้วยตัวเอง นั้นก็คือ หากเด็กๆ งอแงไม่ยอมทำ คุณพ่อคุณแม่อาจจะกำหนดแนวทางชัดเจนตั้งแต่ต้นปีการศึกษา ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กๆ ทำการบ้าน หรือชวนเด็กๆ ทำพร้อมกับสอนเขาไปด้วย ทำเวลานี้ถึงเวลานี้ แล้วอาจจะมีการพักช่วงในการทำการบ้าน ออกแบบการสอนที่สนุก แล้วค่อยกลับมาทำใหม่ ให้เหมือนกับว่า การทำการบ้านไม่ใช่เรื่องที่ยากและเครียดอีกต่อไป และเมื่อใดที่เขาทำการบ้านเสร็จทันเวลา ก็มีการชมเชยเขาเพื่อให้มีกำลังใจต่อไปนั้นเองค่ะ

  • รู้จักเก็บออมด้วยตัวเอง

เด็กๆ ส่วนใหญ่มักจะเลียนแบบพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่หรือคนรอบข้างเสมอ ถ้าเราปลูกฝังให้เขาประหยัด เด็กๆ ก็จะซึมซับแต่สิ่งดีๆ ไม่่ใช่ว่าบอกลูกว่าเราต้องประหยัดแต่คุณแม่เองยังช้อปปิ้งเกือบทุกสัปดาห์นะคะ ไม่ได้เลย อีกอย่างต้องสร้างวินัยในการเก็บออม อาจจะหากระปุกออมสินน่ารักๆ พาเขาไปเลือกซื้อ แล้วให้เขาเก็บเล็กผสมน้อยจากเงินค่าขนมที่คุณแม่ๆ ให้ไป เหลือก็นำมาหยอดกระปุก เป็นการสร้างนิสัยการเก็บออม อยากได้อะไรเด็กๆ ก็จะเก็บได้ด้วยตัวเองและจะทำให้เขารู้สึกรักและหวงแหนกับสิ่งที่ได้มาและไม่ทอดทิ้งมันไปอย่างง่ายๆ นั้นเองค่ะ

  • ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง

คุณพ่อคุณแม่จะฝึกเด็กๆ ให้ทิ้งขยะเป็นที่เป็นทางได้นั้นเด็กๆ จะเรียนรู้ที่จะปฏิบัติและเกิดพฤติกรรมที่ถาวรควรใช้หลักของความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่นี้แหละค่ะที่ควรจะมีความมั่นคงเพื่อที่เด็กๆ จะได้ปฏิบัติตาม อาจจะหากิจกรรมสร้างสรรค์ให้เด็กๆ ได้ลองทำ เช่นการแยกขยะอย่างถูกวิธี การประดิษฐ์จากขยะเหลือใช้ เป็นต้น และไม่ลืมการให้กำลังใจกับเด็กๆ ด้วยนะคะ

  • ช่วยคุณแม่ทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ

เด็กตัวเล็กๆ อาจจะช่วยเหลืองานใหญ่ๆ ยังไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะฝึกเด็กๆ จากการช่วยให้เขาหยิบนั้นหยิบนี่ให้หน่อย ช่วยนำผ้าไปเก็บเข้าตู้ หรือเก็บจานข้าวที่ทานเสร็จแล้ว ก็ถือว่าเป็นการช่วยคุณแม่ทำงานบ้านได้เลยนะคะ บางครั้งเด็กๆ อาจจะไม่อยากทำ คุณพ่อคุณแม่อาจจะนำกิจกรรมต่างๆ มาปรับใช้กับงานบ้าน ที่ทำให้มันน่าสนุกขึ้นเช่น มาแข่งกันเก็บใบไม้กับคุณพ่อ มาพับผ้าห่มแข่งกับคุณแม่ ก็ช่วยให้เด็กๆ ได้สนุกกับกิจกรรมทำงานบ้านได้เลยค่ะ

Writer Profile : Jicko

  • Social Media :

  • Official Sponsors :
  • Samitivej Hospital

Generic placeholder image

บทความที่เกี่ยวข้อง



รออยู่ที่เดิมนะ
ชีวิตครอบครัว
Update
anal porno zdarma culi nudi al mare free sex videos antalya escort

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save