ในปัจจุบันโลกของเราได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การส่งเสริมพัฒนาการของเด็กทั้งร่างกายและสมองให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงแห่งโลกอนาคตจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
การรู้ความลับของสมองจึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เด็กจะฉลาดและหัวไว รู้ไหมคะว่าสมองของเราทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบด้วยการส่งสัญญาณหากัน เสมือนว่าเป็นการทำงานแบบทีมเวิร์ก (Team Work) หรือเรียกอีกอย่างว่า Brain Connection เราไปเข้าใจความลับนี้ให้มากขึ้นการดีกว่าค่ะ
Brain Connection คืออะไร
คือการทำงานของสมองที่เชื่อมโยงกันในแต่ละส่วน เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นกลไกในการทำงานของสมองที่สำคัญที่สุด และต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย ความสามารถในด้านต่างๆ ล้วนเกิดขึ้นจากการทำงานของสมอง แต่สมองเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งไม่สามารถทำงานได้เองตามลำพัง จะต้องอาศัยการเชื่อมโยงสมองแต่ละส่วนเพื่อที่พัฒนาการเรียนรู้
การทำงานแบบร่วมมือกันของสมองจะส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี มีการเรียนรู้ที่รวดเร็วและ ทำให้เด็กสมองไว มีความฉลาดเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต โดยการเชื่อมโยงของเซลล์ประสาทในสมองนั้นเกิดจากการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ผ่านสิ่งที่เรียกว่าวงจรประสาทนั่นเอง
ถนนสำหรับส่งสัญญาณในสมอง
วงจรประสาทก็เปรียบเสมือนถนนที่ไว้คอยส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทด้วยกันเอง และความลับของสมองที่ทำให้เด็กๆ สมองไว สามารถคิดค้นสิ่งใหม่ๆ หรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ก็คือความรวดเร็วในการส่งสัญญาณ โดยการเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณจะต้องอาศัย “ปลอกไมอีลิน (Myelin Sheath)” ที่ห่อหุ้มวงจรประสาท ทำให้สัญญาณส่งไปแบบก้าวกระโดดแทนที่จะวิ่งอยู่บนวงจรประสาทเฉยๆ
ปลอกไมอีลิน (Myelin Sheath) จะสร้างได้มากในช่วง 2 ปีแรกของชีวิต เราจะเห็นว่าในช่วง 2 ปีแรกลูกมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดมากๆ จากพูดได้แค่คำเดียว ก็พูดได้เป็นประโยค จากเริ่มเดิน ก็กลายเป็นวิ่งปร๋อ เพราะปลอกไมอีลินนี้เองคือส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก โดยปลอกไมอีลินนั้นสามารถสร้างได้จากสารอาหารประเภทกลุ่มไขมัน เช่น ไขมันทั่วไปอย่างคอเลสเตอรอล (Cholesteral) เพราะปลอกไมอีลินมีไขมันเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 70 รวมไปถึงไขมันชนิดหนึ่งที่มีความจำเพาะต่อปลอกไมอีลิน อย่างฟอสโฟไลปิด (Phospholipid) ซึ่งมีคนให้ความสนใจเยอะ เพราะมีบทบาทสำคัญมากๆ สำหรับสมอง โดยฟอสโฟไลปิดที่เจอมากที่สุดคือ สฟิงโกไมอีลิน (Sphingomyelin)
ไขมันจำเป็นในการสร้างปลอกไมอีลิน
สฟิงโกไมอีลินเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างปลอกไมอีลินในสมอง ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของสมองเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยสฟิงโกไมอีลินนั้นพบได้มากในนมแม่ และผลิตภัณฑ์นม เช่น ครีม ชีส รวมไปถึงไข่ การที่ทารกได้รับนมแม่อย่างเต็มที่จะมีปริมาณไมอีลินในสมองเพิ่มขึ้นและทำให้มีการเรียนรู้ที่ดีขึ้นอีกด้วย
โดยเราสามารถวัดการส่งสัญญาณข้อมูลของสมองได้ด้วยเครื่อง MRI (Magnetic Resonance Imaging) หรือเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็ก เพราะได้มีการนำความรู้ความก้าวหน้าทางวิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์มาใช้ที่ศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า (AIMC) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จากการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงเมื่อสมองทำงานจะเห็นได้ว่า หลายๆ ส่วนของสมองนั้นทำงานประสานกัน ซึ่งเราสามารถตรวจโยงเครือข่ายสมองและวัดค่าความสมบูรณ์ของใยสมอง รวมไปถึงวัดค่า ไมอีลิน (Myelin) ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทได้อย่างรวดเร็ว ที่จะช่วยวัดการประมาลผลของการตอบสนองต่อความไว ผ่านเทคนิคใหม่ๆ ของเครื่อง MRI ได้ด้วย
พัฒนาศักยภาพของเด็ก
สิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพของลูกคือการส่งเสริมให้เขาทำในสิ่งที่ชอบ การเปิดโอกาสให้เขาได้เรียนรู้ ได้ลองทำอะไรที่หลากหลาย จะทำให้ลูกรู้ว่าตัวเองชอบอะไร และเมื่อเราค้นพบศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของลูกก็จะทำให้เราส่งเสริมเขาได้อย่างตรงจุด เพราะในสมองของคนเรามีความสามารถพิเศษคือสามารถปรับโครงสร้างให้เหมาะกับสิ่งที่ทำ หากเราฝึกฝนซ้ำๆ ก็จะทำให้ศักยภาพด้านนั้นโดดเด่น แต่สุดท้ายหลักการง่ายๆ ในการพัฒนาสมองและศักยภาพของลูกก็เริ่มจากพื้นฐานง่ายๆ อย่าง กิน นอนและเล่นเท่านั้นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก นพ.วรสิทธิ์ ศิริพรพาณิชย์ และ ดร. นพ.วิทยา สังขรัตน์