เวลาที่ลูกรู้สึกสงสัย จะทำยังไงให้เขากล้าถามและกล้
โรงเรียนจูเลียเกเบรียล เซ็นเตอร์ เป็นโรงเรียนพัฒนาทักษะเด็กอั
สอนด้วยหลัก EduDrama
EduDrama คือหัวใจสำคัญของโรงเรียนจูเลียเกเบรียล เซ็นเตอร์ เป็นการดึงดูดให้เด็กๆ สนใจผ่านการนำดราม่ามาผสมผสานในการสอน ซึ่งดราม่าในที่นี้ไม่ได้เป็นเรื่องเคร่งเครียดเหมือนเวลาที่เราอ่านดราม่าในอินเทอร์เน็ต แต่เป็นเหมือนการแสดงละครขนาดย่อมที่คุณครูจะเล่นใหญ่ โอเวอร์แอ็คติ้งแบบน่ารักๆ เพื่อให้เด็กๆ สนุกไปกับการเรียน โดยในทุกหลักสูตรก็จะสอนเป็นภาษาอังกฤษโดยมีคุณครูที่เป็น Native English Speaker ทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ
หลักสูตรของที่นี่ เน้นความสนุกสนานและให้เด็กๆ มีส่วนร่วมเป็นหลัก ในแต่ละเทอมจะมีการเปลี่ยนธีมที่ใช้ในการเรียนการสอน และในแต่ละวีคก็จะมีการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ (เรื่องสี รูปร่าง ตัวอักษร ตัวเลข) เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ไปเป็นหมวดหมู่ ที่สำคัญหากอยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษจริงๆ ให้ลืมการท่องจำแบบเดิมๆ ไปเลยค่ะ เพราะที่นี่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสอนให้น้องๆ ทำกิจกรรมต่างๆ ให้เด็กๆ ได้ฟังและลองฝึกพูดในแบบที่ทำให้เขาสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติและพูดอย่างคล่องปาก
สอนให้เด็กเป็น Confident Communicator
Confident Communicator หากแปลแบบตรงตัว ก็หมายถึง ผู้ที่สื่อสารเรื่องราวต่างๆ ได้ด้วยความมั่นใจ อย่างที่บอกไปว่าในปัจจุบันความมั่นใจและการกล้าแสดงความคิดเห็นเป็นทักษะที่สำคัญ การที่คนๆ หนึ่งแสดงความคิดเห็นและสื่อสารเรื่องราวต่างๆ ด้วยความมั่นใจก็ย่อมสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่า ซึ่งความมั่นใจนี้เริ่มต้นได้จากการฟูมฟักเขาตั้งแต่เด็ก ที่จูเลียเกเบรียล จะช่วยพัฒนาทักษะนี้ให้น้องๆ ได้ยังไงกัน ตามไปดูกันเลยค่ะ
คุณครูที่ใส่ใจในความคิดของเด็ก
การรับฟังในความคิดเห็นของเด็กเป็นสิ่งสำคัญที่เพิ่มความมั่นใจและทำให้เขากล้าที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะเขาเชื่อว่าสิ่งที่พูดไปยังไงก็มีคนฟังอย่างแน่นนอน ที่โรงเรียนแห่งนี้ความคิดเห็นของเด็กทุกคนมีความหมาย คุณครูทุกคนพร้อมที่จะเปิดใจและรับฟังในทุกๆ เรื่องที่เด็กพูดออกมา ด้วยหลักสูตรของ EduDrama เองทำให้ตลอดการเรียนการสอนจะมีเรื่องของจินตนาการเข้ามาเกี่ยวข้อง ในบางครั้งเพียงแค่การรับฟังความคิดเห็นและเชื่อในจินตนาการของเด็กก็สามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้เขาไปตลอดชีวิตได้
นอกจากนี้คุณครูทุกคนที่จูเลียเกเบรียลก็ได้รับการฝึกมาดีมากๆ คุณครูเก่ง น่ารัก มีอารมณ์ขัน ใจเย็นและสร้างความสนุกสนานพร้อมสอดแทรกความรู้ตลอดคลาสได้อย่างดีเยี่ยม ขนาดเราได้ลองเข้าร่วมคลาสเพียงครั้งเดียว ยังสนุกสนานและรู้สึกถึงความใส่ใจที่คุณครูมีต่อเด็กๆ เลยค่ะ
เรียนรู้พร้อมกับผู้ปกครอง
แน่นอนว่าการที่เด็กจะซึมซับในสิ่งที่เราอยากให้เรียนรู้ ผู้ปกครองเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เด็กๆ พัฒนาได้ดียิ่งขึ้น ในหลักสูตรของโรงเรียนจูเลียเกเบรียลจึงให้เด็กแต่ละคนมีผู้ปกครองเข้าร่วมด้วย นอกจากเด็กๆ จะได้เรียนแล้ว ผู้ปกครองก็ยังได้เรียนรู้และนำสิ่งที่โรงเรียนสอนไปต่อยอดเวลาที่อยู่ที่บ้านกับลูก เช่น เพลงที่ใช้ร้องในคลาสเรียน คอนเซ็ปต์ที่เรียนไปในแต่ละวีค เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง
หลักสูตร PlayNest สำหรับเด็กวัยแรกเริ่ม
PlayNest เป็นหลักสูตรสำหรับเด็กเล็กวัย 6-18 เดือน ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดแน่นอน เด็กอายุน้อยที่สุดที่จูเลียเกเบรียลเปิดสอนคือเด็กวัย 6 เดือน เพราะหลักสูตรที่นี่ไม่ได้เน้นสอนในเรื่องของวิชาการ แต่เป็นการสอนให้เด็กๆ มีทักษะชีวิตที่จำเป็น การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีคุณครูคอยสนับสนุนให้เขาลองทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง จะทำให้เด็กเล็กเกิดภาวะเชิงบวกต่อการเรียนรู้ ได้พัฒนาทักษะการสื่อสารผ่านการทำกิจกรรมและบทสนทนาที่โต้ตอบกันระหว่างคุณครูในห้องเรียน (แน่นอนว่าเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด) ซึ่งกิจกรรมที่เด็กๆ จะได้ทำก็น่ารักและสนุกมากๆ ดังนี้เลยค่ะ
- Animated Puppet Time : เด็กๆ จะได้รับการทักทายจากตุ๊กตาหุ่นมือ (Puppet) ที่จะเปลี่ยนไปในทุกคลาส เพื่อสร้างความผ่อนคลายและให้บรรยากาศในห้องเรียนครึกครื้นมากขึ้น
- Dramatic Storytelling : หนังสือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างทักษะและจินตนาการให้เด็กๆ ที่นี่มีหนังสือเล่มยักษ์ที่จะพาทุกคนผจญภัยไปในโลกของหนังสือที่เหมาะสมกับช่วงอายุ ทำให้เด็กๆ รักการอ่านหนังสือตั้งแต่ยังเล็ก
- Sensory Arts and Craft Activities : การทำงานศิลปะจะช่วยส่งเสริมกระบวนการคิดและพัฒนาประสาทสัมผัสของลูก นอกจากนี้การเล่นเลอะเทอะจะทำให้ลูกได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ที่นี่เน้นให้เด็กๆ ได้ลองทำงานศิลปะ การเลอะสีจึงเป็นเรื่องธรรมดา และสีที่ใช้ก็มีความปลอดภัยค่ะ
- Social Snack Time : ช่วงทานอาหารว่างกับเพื่อนๆ แต่ที่จูเลียเกเบรียล ช่วงนี้ไม่ได้มีเพื่อให้เด็กกินอิ่ม แต่ตั้งใจที่จะช่วยฝึกและพัฒนาทักษะในการหยิบจับและทักษะการกิน รวมไปถึงทักษะการเข้าสังคม
- Play Ground Time : ภายในโรงเรียนจะมีสนามเด็กเล่นเล็กๆ ที่ได้มาตรฐานตามแบบฉบับของจูเลียเกเบรียล ให้เด็กๆ ได้ออกกำลัง พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ และทักษะการทรงตัว
- Live Music Time : อย่างที่บอกว่าคุณครูที่นี่เก่ง นอกจากสอนหนังสือแล้วยังร้องเพลงและเล่นดนตรีสดๆ ได้อีกด้วย พร้อมกับมีท่าทางประกอบเพลงให้คุณพ่อคุณแม่และเด็กๆ ได้เต้นตามจังหวะของเพลงอย่างสนุกสนาน
หลักสูตร PlayClub เตรียมความพร้อมก่อนเข้าอนุบาล
PlayClub เป็นหลักสูตรสำหรับเด็กวัย 1.5 – 3.5 ขวบ ที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับเด็กๆ ก่อนเข้าโรงเรียนอนุบาล โดยเน้นให้กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงความคิดเห็น และกล้าตัดสินใจ นอกจากนี้จินตนาการยังเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้เขามีความคิดที่กว้างไกล อีกทั้งยังช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกฝนทักษะการสื่อสารด้วยความมั่นใจและกล้าที่จะเข้าสังคมกับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเข้าอนุบาล ผ่านโปรแกรมการเรียนรู้ที่สนุกสนาน เพลิดเพลินและได้ภาษาอังกฤษไปอย่างเต็มๆ เราไปดูกันค่ะว่ากิจกรรมที่จัดจะมีอะไรกันบ้าง
- Drama Time : ช่วงเวลาแห่งความสนุกกำลังจะเริ่มต้นขึ้น คุณครูจะพาเด็กๆ ขึ้นยานพาหนะของ PlayClub มุ่งหน้าเข้าสู่ Drama Town ไปพบกับตัวละครและสถานการณ์ที่ทำให้เด็กๆ ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เพิ่มจินตนาการให้เจิดจรัสและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ อย่างคลาสที่เราเข้าร่วมก็ได้พบกับ The Play Club Bears คุณหมีสีเขียวสุดป่วนที่มาให้เราช่วยแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในกิจกรรมนี้เด็กๆ จะได้เรียนและใช้ภาษาอังกฤษกันแบบเต็มๆ เลยค่ะ
- Magic Box : การเรียนรู้แบบธรรมดาอาจทำให้เด็กๆ เบื่อได้ง่าย การเพิ่มกิมมิกในการสอนก็ช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี เด็กๆ จะได้เรียนรู้เรื่องของตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวเลข สีและรูปทรง เช่น การใส่คำศัพท์ที่อยากให้เด็กๆ เรียนรู้ลงไปใน Magic Box ก็จะช่วยตอบโจทย์ได้ดีมากๆ
- Arts and Crafts Activities : นอกจากจะเป็นการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและส่งเสริมกระบวนการคิดและความคิดสร้างสรรค์ นี่จะเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ จะได้ฝึกฝนผ่านการหยิบจับ และทดลองเล่นกับอุปกรณ์ทางศิลปะต่างๆ เพื่อสรรค์สร้างงานศิลปะที่เกี่ยวกับคอนเซ็ปต์ของวีคนั้นๆ
- Social Snack Time : ช่วงเวลาแห่งอาหารว่างที่ให้มากกว่าความอิ่มหนำ เพราะเด็กๆ จะได้เรียนรู้มารยาทในการเข้าสังคมผ่านการกินอาหารว่างร่วมกันกับเพื่อน ซึ่งจะมีอาหารว่างให้น้องๆ เลือกเองอยู่ 3 อย่าง จุดสำคัญอยู่ตรงที่เด็กๆ จะต้องเป็นคนบอกเองว่าอยากจะกินอะไร เรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับการขอ การถาม การขอบคุณ และการที่ให้โอกาสเขาเลือกในสิ่งที่อยากจะกินเองก็จะช่วยทำให้เขามีความมั่นใจในความคิดของตัวเองมากยิ่งขึ้น
- Playground Time : เด็กๆ จะได้ออกกำลัง พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ และทักษะการทรงตัวที่สนามเด็กเล่นภายในโรงเรียนที่ได้มาตรฐานตามแบบฉบับของจูเลียเกเบรียล
- Live Music Time : มาขยับแข้งขยับขาไปกับช่วงเวลาแห่งเสียงเพลงที่ร้องและเล่นดนตรีสดๆ จากคุณครูคนเก่ง พร้อมกับมีท่าทางประกอบเพลงให้คุณพ่อคุณแม่และเด็กๆ ได้เต้นตามจังหวะของเพลงอย่างสนุกสนาน
สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการเรียนรู้
นอกจากหลักสูตรที่น่าสนใจ จูเลียเกเบรียลยังจัดสรรพื้นที่การใช้สอยได้น่ารักและมีประโยชน์มากๆ อย่างเช่นโซนที่เป็นสนามเด็กเล่นสำหรับช่วงเวลา Playground Time ให้เด็กๆ ได้มาออกกำลังกายปีนป่ายอย่างสนุกสนาน
อีกทั้งยังมีส่วนที่ทางเราชอบมากๆ คือโซนห้องสมุด ที่มีรวมหนังสือนิทานภาษาอังกฤษที่เหมาะกับช่วงวัยและการเรียนรู้ของเด็กไว้ให้น้องๆ ได้เข้ามาอ่านหนังสือกัน ที่น่ารักมากๆ คือการวาดภาพบนกำแพงจากนิทานเรื่อง I Love My Story Book พร้อมกับจัดบรรยากาศให้เอื้อต่อการอ่านหนังสือสุดๆ พอเข้าไปในโซนนี้แล้วก็รู้สึกผ่อนคลายราวกับว่าเราได้เข้าไปในโลกของนิทานเลยล่ะค่ะ
หลังจากที่เราได้ลองไปเข้าร่วมคลาสก็ทำให้รู้ได้เลยว่าโรงเรียนจูเลียเกเบรียล เซ็นเตอร์นั้นใส่ใจเด็กมากจริงๆ นี่เป็นโรงเรียนเสริมทักษะที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของความมั่นใจและความกล้าในการคิด แสดงความคิดเห็นและตัดสินใจ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากๆ ต่ออนาคตของลูก ดังนั้นโรงเรียนจูเลียเกเบรียล เซ็นเตอร์จึงเป็นโรงเรียนพัฒนาทักษะเด็กอันดับหนึ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจากพ่อแม่ชาวสิงคโปร์มากว่า 30 ปี ซึ่งปัจจุบันมี 12 สาขา ใน 6 ประเทศทั่วโลก
และตอนนี้สาขาแรกของจูเลียเกเบรียลในประเทศไทยได้เปิดสอนแล้วค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 2 Bambini Villa คอมมูนิตี้มอลล์สำหรับครอบครัวแห่งใหม่ อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 โดยสามารถทดลองเรียนฟรีได้ด้วย หากสนใจก็ติดต่อได้ที่ 063-924-6542 หรือ Line @juliagabrielbkk เลยค่ะ
คุณพ่อคุณแม่อย่ารอช้าที่จะพาลูกไปพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่ออนาคตของลูกที่โรงเรียนจูเลียเกเบรียล เซ็นเตอร์นะคะ!