ครบรอบ ๑ ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระองค์ท่าน ทาง Parents One ได้รวบรวมความทรงจำที่น่าประทับใจ ในบทบาทความเป็น “พ่อ” ของพระองค์ท่านนอกเหนือจากความเป็นพระมหากษัตริย์มาไว้ ณ ที่นี้
“พ่อแม่เขาต้องถ่ายรูปวันที่สำเร็จการศึกษาใช่ไหม เค้าไปถ่ายที่ไหน พาเราไปสิ”
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๒๐ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับพระราชทานปริญญาบัตร จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันนั้นท่านได้ทรงถามสมเด็จพระเทพฯ ว่า “พ่อแม่เขาต้องถ่ายรูปวันที่สำเร็จการศึกษาใช่ไหม เค้าไปถ่ายที่ไหน พาเราไปสิ”
สร้างความปลาบปลื้มปิติแก่พสกนิกร ด้วยทรงเป็น “สมเด็จเจ้าฟ้าฯ บัณฑิต” พระองค์แรก เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปทรง “ฉายพระรูป” กับองค์บัณฑิตใหม่ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชวงศ์ และพระประยูรญาติเช่นเดียวกับครอบครัวของบัณฑิตอื่นๆ
“เพราะว่า พ่อก็อยากรู้เหมือนกัน”
เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงพระเยาว์ ทรงทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ว่า “ข้าวสาร ๑ กระสอบมีกี่เมล็ดเพคะ?” พระองค์ทรงตอบว่า
“ข้าวสาร ๑ กระสอบมีน้ำหนัก ๑๐๐ กิโลกรัม กิโลกรัมหนึ่งมีเครื่องชั่งวัดได้ ๑๐ ขีด
ดังนั้นก็เอาภาชนะไปตวงข้าวสารมาชั่งได้ ๑ ขีด แล้วนับข้าวสารที่ตวงมานั้นว่ามีกี่เมล็ด แล้วก็เอา ๑๐ คูณ
เสร็จแล้วก็เอา ๑๐๐ คูณผลลัพธ์อีกที ก็จะได้จำนวนเมล็ดข้าวสารใน ๑ กระสอบ”
เพราะว่า พ่อก็อยากรู้เหมือนกัน
“พ่อดุเรา บอกให้เราไปถ่ายที่อื่น ให้เราสำรวม และให้ไปบอกคนข้างหลังให้เงียบๆ ด้วย”
ภาพที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาทรงฉาย เป็นหนึ่งในภาพประวัติศาสตร์ที่พสกนิกรชาวไทยได้เห็นและยังคงจดจำได้เป็นอย่างดี
ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ เคยรับสั่งเกี่ยวกับภาพนี้ว่า ในหลวงทรงตำหนิที่พระองค์ทำตัวเหมือนเด็ก และตรัสต่อนักข่าวว่า “พ่อดุเรา บอกให้เราไปถ่ายที่อื่น ให้เราสำรวม และให้ไปบอกคนข้างหลังให้เงียบ ๆ ด้วย” ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ ตรัสเล่าและทรงพระสรวลอย่างมีความสุข
“วันนี้มีซุปผักโขม มาดวลกันไหม”
มีหนึ่งเหตุการณ์ที่ได้กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ทรงไม่เสวยผักมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ แต่เมื่อหลายปีก่อนขณะทรงเสด็จฯขึ้นเฝ้าพระอาการของทูลกระหม่อมพ่อ ณ โรงพยาบาลศิริราช โดยในครั้งนั้น ได้พระราชทานสัมภาษณ์ว่า
“ตัวข้าพเจ้านี่เองขึ้นไปเฝ้าพระอาการ บางครั้งขึ้นไปเฝ้าตอนเสวยข้าว ท่านก็ทรงท้า บอก “มาดวลกันไหม” ท่านรู้ว่าข้าพเจ้าตั้งแต่เล็กมาแล้ว กินผักไม่เป็น ไม่กินผัก แล้วท่านก็บอกว่า “วันนี้มีซุปผักโขม มาดวลกันไหม” ก็เลยทูลท่านบอกว่า “ดวลก็ดวล” คือว่ารับประทานถวายพ่อองค์เดียวนะ เพราะกับคนอื่น แหม จะให้กล้ำกลืนทานซุปผักนี้ก็คงแย่เหมือนกัน แต่วันนั้นก็ได้ทานซุปผักถวายท่านไป ๑ ชาม ท่านก็เสวยซุปผักเหมือนกัน ๑ ชาม”
สลาตันของพ่อ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงวิ่งเร็วและซนมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ จึงทรงตั้งฉายาให้ว่า “สลาตัน”
ครั้งหนึ่งพระองค์ไม่ยอมบรรทม ทูลกระหม่อมพ่อจึงทรงอุ้มสมเด็จพระเทพฯ ไว้ในอ้อมพระกรข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างนั้นทรงอิเล็กโทน เพลงพระราชนิพนธ์ Lullaby ในที่สุดสลาตันของทูลกระหม่อมพ่อก็ทรงผล็อยหลับไป
ขอบคุณข้อมูลจาก
- พ่อเเม่เค้าต้องถ่ายรูปวันที่ลูกสำเร็จการศึกษาใช่ไหม เค้าไปถ่ายที่ไหนกัน พาเราไปสิ
- อยากรู้เหมือนกัน
- พ่อดุเรา
- วันนี้มีซุปผักโขม มาดวลกันไหม
- สลาตัน