จนถึงวันนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า ยังไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลงไปเลย ยิ่งมีผู้เสียชิตวิตจากการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ยิ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่อย่างเราต้องระมัดระวังหาแนวทางป้องลูกรักให้ห่างไกลจากโรคพิษสุนักบ้ามากขึ้น
การฉีดวัคซีนเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด แต่ควรจะฉีดตอนไหนให้ทันท่วงที ไม่ติดเชื้อไวรัส เรามาดูรายละเอียดกันค่ะ
ฉีดวัคซีนก่อนโดนสุนัขกัด
เป็นการป้องกันการติดเชื้อไวรัสล่วงหน้า เหมาะสำหรับคนที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อบ่อยๆ เช่น สัตวแพทย์, แพทย์ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคนี้บ่อยและ เด็กที่คลุกคลีกับสัตว์ โดยวัคซีนจะต้องได้รับทั้งหมด 3 เข็ม ห่างกันเข็มละ 1-2 สัปดาห์ และเมื่อครบ 1 ปีแล้วจะต้องมีการฉีดกระตุ้นอีก ทุก 3 ปี
ข้อดีของการฉีดวัคซีนล่วงหน้า
- มีราคาถูกมาก รวมๆ แล้ว มีราคาประมาณแค่หลักร้อยปลายๆ – พันต้นๆ เท่านั้น
- มีความปลอดภัยสูง เป็นการป้องกันล่วงหน้า ก่อนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
- ร่างกายจะมีภูมิต้านทานที่สูงพอ สำหรับการป้องโรค
- ไม่ต้องเสี่ยงกับการฉีดเซรุ่มรอบบาดแผลที่ถูกกัด
ฉีดวัคซีนหลังโดนสุนัขกัด
อย่านิ่งนอนใจไปค่ะ ไม่เพียงแต่สุนัขเท่านั้นที่มีอาการเสี่ยงจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้า แต่รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกหลายชนิดที่มีโอกาสแพร่เชื้อพิษสุนัขบ้าได้ ซึ่งสัตว์ที่มีโอกาสเป็นพาหะนำโรคอันดับหนึ่งได้แก่ สุนัข แมว วัว ควาย ลิง ชะนี กระรอก กระแต เสือ หมี หนู และ ค้างคาว
นอกจากจะโดนกัดโดยตรงแล้ว แค่โดนสัตว์เหล่านี้ข่วนจะเกิดแผลก็สามารถได้รับเชื้อได้แล้ว ดังนั้นควรรีบล้างแผลด้วยน้ำสบู่ จากนั้นพาผู้ป่วยไปหาหมอเพื่อรับการรักษาโดยทันที
ผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนหลังโดนสุนัขกัด
วัคซีนพิษสุนัขบ้ามีผลข้างเคียงเช่นเดียวกับการใช้ยา หรือวัคซีนชนิดอื่น ๆ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ได้รับวัคซีนจะไม่มีอาการข้างเคียง หรือหากมีก็จะเกิดขึ้นไม่รุนแรง ที่มักพบบ่อย คือ
- วิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ
- บริเวณที่ฉีดวัคซีนมีอาการบวมแดงหรือรู้สึกปวด
- เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ และข้อต่อ
- คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
- มีอาการเหนื่อย หรืออ่อนแรงมากผิดปกติ