พอถึงหน้าฝน ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฤดู ที่ทำให้เด็กหลายคนอดออกไปเล่นสนุกเพราะเนื่องจากฝนนั้นทำให้เฉาะแฉะ และอาจทำให้เป็นหวัดได้เลยถ้าเกิดต้องตากฝนเป็นเวลานาน แต่อีกมุม นี่อาจเป็นเรื่องดีที่ทำให้ลูกได้ประสบการณ์การเล่นในอีกรูปแบบหนึ่งเลยก็ได้นะ เพราะว่าภายใต้สายฝนและ ความอึมครึม ยังมีเรื่องสนุกๆ ซ่อนอยู่!
หากบ้านไหนเป็นสายที่ลูกชอบเล่นเลอะ เล่นสนุกไปกับฝน มาลองดูกิจกรรมที่สามารถเล่นได้ในหน้าฝนไปด้วยกันเลยค่า!!
สร้างภาพจากน้ำฝน
เพราะการหยุดลงมาของน้ำฝนนั้นมีน้ำหนัก และปริมาณที่แตกต่างกัน ทำให้เราสามารถสร้างจินตนาการได้ไม่รู้จบ เพียงเรามีกระดาษที่ทนต่อการซึมซับน้ำ , ปากกาหรือสีที่ละลายน้ำได้ วาดหรือหยดลงไปบนภาพ และนำภาพนั้นไปรองรับน้ำฝนดู
เพียงเท่านี้ เราก็จะสร้างสรรค์งานต่างๆ ได้แล้วโดยไม่มีการปิดกั้นจินตนาการของลูกน้อย แถมยังช่วยให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับการเดินทางของน้ำที่อยู่บนแผ่นกระดาษ จากทิศทางของสีที่เปลี่ยนไปอีกด้วย
เป็นกิจกรรมที่ได้ทั้งงานสะสม และช่วยเปิดกว้างจินตนาการของเด็กจริงๆ ค่ะ
วัดความสูงระดับน้ำฝนด้วยของขวดน้ำแห่งการสำรวจ!
เพราะฝนแต่ละวันนั้นมีปริมาณการตกที่ไม่เท่ากัน การทำกิจกรรมง่ายๆ อย่างการวัดน้ำฝนในแต่ละวัน ก็ช่วยให้ลูกได้ฝึกบันทึก และความจำได้เป็นอย่างที่ ซึ่งการเล่นก็ไม่ยากเลย เพียงเรามีขวดหนึ่งใบ คอยตั้งไว้ในที่เดิมทุกๆ วัน และให้ลูกมีหน้าที่รับผิดชอบเปลี่ยนขวดในแต่ละวันเพื่อให้เขาได้มีการบันทึก หรือจดไว้ว่า วันนี้ปริมาณน้ำที่ได้มันเท่าไหร่กันนะ?
เมื่อเกิดการทำทุกวันที่ฝนตก นอกจากจะช่วยให้เขามีกิจกรรมสนุกๆ ทำแล้ว ยังสอนให้รู้จักการสังเกต และทำอะไรที่เป็นกิจวัตรสม่ำเสมอจนเกิดวินัยอีกด้วย
ตามหาสายรุ้งในทุกวัน
เวลาฝนตกนั้น มักทำให้บรรยากาศต่างๆ ดูอึมครึมเสมอ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่มักปรากฏตัวในฟ้าหลังฝนนั่นก็คือสายรุ้งนั่นเอง ซึ่งเด็กๆ นั้นชอบการตามหาอะไรที่มองไม่เห็นอย่างสายรุ้ง โดยเฉพาะสีสันที่สดใสและน่ามอง จึงเป็นอีกหนึ่งเกมที่สนุกมากๆ เพื่อฝึกให้ลูกหัดสังเกต และรู้จักการรอจังหวะต่างๆ
ซึ่งการเล่นก็ไม่ยาก เพียงฝนตกเราก็เริ่มเกมกันได้ด้วยการให้เขาลองสังเกตไปตามหน้าต่างของบ้านแต่ละบาน ว่าคุณสายรุ้งจะปรากฏขึ้นมาในตอนไหนนะ เพียงเท่านี้ ก็ได้มีกิจกรรมสนุกๆ แล้วในบ้านให้ได้ทำ
นิทานสายฝนอ่านเข้าบรรยากาศ
สำหรับเด็กเล็กแล้ว นิทานเป็นอะไรที่สนุกเสมอสำหรับวัยที่ใช้จินตนาการสูง ดังนั้นในบรรยากาศที่มีฝนตก และอากาศเย็นสบายก็เป็นโอกาสดีที่เราจะหยิบหนังสือหรือนิทานซักเรื่องเกี่ยวกับฝน ขึ้นมาให้ลูกได้เรื่องว่าอยากฟังเรื่องไหน เพราะการที่ได้เล่าเรื่องราวที่สามารถเชื่อมโยงไปกับสิ่งรอบตัวได้ และมีให้เห็นเป็นตัวอย่าง ก็จะทำให้ลูกได้เรียนรู้มากกว่าแค่การจินตนาการเอง และเห็นภาพชัดขึ้จเช่น แบบไหนถึงรียกว่าลมแรง แบบไหนถึงเรียกว่าฝนตกหนัก และสายฟ้าหน้าตาเป็นอย่างไร
เปื้อนไปเลย เดี๋ยวค่อยล้างตัว!
และกิจกรรมที่ไม่ว่าบ้านไหนก็ต้องคิดแล้วคิดอีกว่าคุ้มรึเปล่าที่จะให้เด็กๆ ออกไปเจอกับน้ำฝนเพราะว่า บางครั้งการที่ลูกเราต้องออกไปในระหว่างฝนตกนั้น นอกจากจะตัวเปียกแล้ว เสื้อผ้าเองก็อาจจะเปื้อนน้ำฝนหรือโคลนได้อีกเช่นกัน แต่ว่าปัญหาทุกอย่างก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้ากิจกรรมนั้นทำให้ลูกเกิดความสนุก และได้เรียนรู้ธรมชาติให้มากขึ้น
เพราะเมื่อเขาได้สัมผัสกับความเย็น, สัมผัสความร่วน ความหนึบของทรายหรือดินที่ได้จับ ก็จะทำให้เขาเรียนรู้สิ่งรอบตัวได้ดียิ่งขึ้น
และการเตรียมตัวนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป นอกจากการเตรียมเสื้อผ้าเก่าไว้ให้เขาได้ใส่ก่อนออกไป , ผ้าเช็ดหัวและอุปกรณือาบน้ำที่หลังเล่นเสร็จแล้วก็ต้องรีบอาบน้ำทันทีเลย กันการเป้นหวัด หรือทำให้มีไข้ค่ะ
ป้อมปราการสำหรับเด็กกลัวฝน
หากเด็กในบ้านของเรากลัวฝนเหลือเกิน จนทำให้รู้สึกไม่ชอบหน้าฝนเอาซะเลย เราก็มีกิจกรรมดีๆ ที่สามารถให้เขาเล่นได้เพื่อบรรเทาความกลัว รวมไปถึงสร้างความสัมพันธ์ดีๆ ให้กับคนในครอบครัวได้อีกด้วย นั่นก็คือ การเล่นตั้งป้อมปราการในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการเอาผ้าห่ม, หมอน หรือเสื้อผ้า มากองสุมรวมกันจนกลายเป็นป้อมปราการขึ้นมา และในนั้นจะเอาหนังสือนิทาน หรือขนมถุงเข้าไปกิน และเล่นด้วยกัน
เพียงเท่านี้ สร้างความอบอุ่น และความทรงจำดีๆ ให้กันได้แล้วในวันที่ฝนตก และไม่อยากจะออกไปเผชิญความหนาวและเปียกของฝนที่ไหนค่ะ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างไม่กี่กิจกรรมที่สามารถทำได้ในช่วงวันที่ฝนตกนะคะ แต่หากใครมีกิจกรรมดีๆ หรือกิจกรรมแสนสนุกยิ่งกว่า ก็อย่าลืมมาแชร์ให้กันฟังได้ค่ะ เพราะยิ่งเด็กๆ ได้สัมผัสกับธรรมชาติมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยให้เขามีทั้งภูมิที่แข็งแรงขึ้น และได้รับประสบการณ์ดีๆ ในหน้าฝนมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
ที่มา canr.msu.edu