pre-teen (พรีทีน) คือช่วงเวลาหนึ่งก่อนลูกจะเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งเกิดขึ้นกับเด็กแต่ละคนในช่วงอายุไม่เท่ากัน เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของลูกเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนบางอย่างในร่างกาย ส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของเขา ในฐานะที่เป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครอง จะมีวิธีเตรียมพร้อมอย่างไรเมื่อลูกกำลังเข้าสู่วัยรุ่น
1. ทำตัวเป็นเพื่อนกับลูกบ้าง
การไม่แบ่งแยกสถานะชัดเจน เพราะเมื่อลูกก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นจะเป็นช่วงที่ได้พบเจอกับสิ่งต่างๆ ใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของเพื่อน เรื่องความรัก เรื่องการตัดสินใจ และเรื่องการใช้ชีวิต ซึ่งเด็กในวัยรุ่นนี้จะให้ค่ากับคำว่าเพื่อนมากกว่าครอบครัว และพร้อมจะเปิดใจให้มากกว่า เพราะฉะนั้นทางที่ดีพ่อแม่ควรวางตัวไม่แบ่งแยกสถานะกับลูกว่าตัวเองคือพ่อ ตัวเองคือแม่ แต่ควรเข้าหาลูกในฐานะเพื่อน พูดคุย เล่น และให้คำปรึกษากับเขาอย่างจริงใจ จะช่วยให้เขากล้าพูดสิ่งที่อยู่ข้างในให้เราได้รับรู้มากขึ้น
2. จัดระยะไว้ใจใหม่
การเคารพในความคิดของลูกเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเด็กที่กำลังก้าวเป็นวัยรุ่น ดังนั้นก่อนที่เราจะสามารถว่ากล่าว ตักเตือน ให้ลูกรักเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้องหรือความคิดของเราได้ เราต้องทำความเข้าใจกับมุมมองของเขาเสียก่อน เพราะเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะมีความคิดเป็นของตัวเอง และไม่บอกพ่อแม่ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งประโยคที่บอกว่า “พ่อแม่เห็นด้วย” หรือ “พ่อแม่เข้าใจ” จะช่วยให้ลูกรู้สึกว่าเราอยู่ข้างเดียวกันกับเขา และพร้อมจะบอกเล่าสิ่งที่คิดออกมาเพื่อหาทางแก้ไขกันต่อไป
3. หันมาใช้เหตุผลมากขึ้น
งดการลงโทษที่รุนแรง หันมาใช้เหตุผลจะทำให้วัยรุ่นเข้าใจเราได้มากขึ้น คล้อยตามและปฎิบัติตามเราได้มากขึ้น และเราเองก็ต้องรับฟังเหตุผลของวัยรุ่นด้วยเช่นกัน เหตุผลในสมัยเมื่อพ่อแม่เป็นวัยรุ่นหลายๆ เหตุผล อาจไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสมในปัจจุบัน เราคงต้องยอมรับแนวคิดของวัยรุ่นในปัจจุบันบ้างเพราะวัฒนธรรมและสังคมได้ เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และพ่อแม่ที่ดีควรกระตุ้นให้ลูกกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการและสนับสนุนเขาให้ถึงที่สุด ความฝันของลูกอาจเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา หน้าที่ของเราก็คือ ให้คำแนะนำและช่วยให้เขาเข้าใกล้เป้าหมายให้ได้มากที่สุด
4. เปิดโอกาสให้ลูกพิสูจน์ตัวเอง
คุณพ่อคุณแม่ควรให้การยอมรับ และส่งเสริมในสิ่งที่ลูกสนใจ พูดให้น้อยและฟังให้มาก เพราะเมื่อลูกรักเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นความชอบต่างๆ จะเปลี่ยนไป เช่น วัยรุ่นบางคนอาจชื่นชอบการถ่ายภาพ บางคนชอบศิลปินต่างประเทศ ซึ่งพ่อแม่สามารถมองในแง่มุมที่ดี และส่งเสริมในสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็นทักษะติดตัวเขาต่อไปได้ เช่น ส่งเสริมให้ลูกเรียนภาษาต่างๆ ให้ดีขึ้น ถึงแม้ลูกจะมีแรงบันดาลใจเป็นการเรียนรู้เพื่อให้ฟังเพลง หรือเข้าใจสิ่งที่ศิลปินพูดก็ตาม แต่สุดท้ายทักษะนั้นก็จะติดตัวเขาไปและใช้ประโยชน์ได้ในอนาคตอยู่ดี
5. ทำกิจกรรมร่วมกันกับลูก
ไม่ว่าลูกวัยรุ่นจะชื่นชอบกิจกรรมอะไรก็ตาม เมื่อพ่อแม่ให้ความสนใจและอยากเรียนรู้กิจกรรมเหล่านั้นด้วย ก็จะทำให้ลูกวัยรุ่นเกิดความไว้วางใจ และมีความสุขที่ได้มีคนเข้าใจในสิ่งที่เขาชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา การเล่นเกม การทำผม ทำเล็บ หรือการเสริมสวย กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้พ่อแม่เข้าใกล้ลูกรักได้อีกหนึ่งขั้น และทำลายกำแพงที่เคยปิดกั้นไว้ สุดท้ายด้วยความสนิทสนมนี้เองที่จะทำให้ลูกรักกล้าปรึกษาปัญหาต่างๆ ที่พวกเขาเจอ
วัยรุ่นยังมีความเคารพและเชื่อฟังผู้ใหญ่อยู่เสมอ แต่ด้วยพัฒนาการทางสังคมของวัยรุ่นมีความก้าวหน้าอย่างมากมายนี้เอง ทำให้เขาหันเหความสนใจจากพ่อแม่ไปสู่เพื่อน และมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากขึ้น ถ้าปรับใช้การเลี้ยงดูลูกรักกับ 5 วิธีข้างต้นก็จะช่วยให้ทั้งตัวพ่อแม่และตัวลูก เกิดความเข้าใจกันและเติบโตเป็นวัยรุ่นที่น่ารักและเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตค่ะ
ที่มา – scblife, rakluke, thepotential