จากประเด็นล่าสุดที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันว่า เราสามารถกอดหอมหรือแสดงความรักต่อลูกแบบไหนที่เหมาะสมที่สุด
บ้างก็บอกว่าการแสดงความรักด้วยการลูบ, หอม, จับเป็นการกระทำที่ปกติไม่ว่าเด็กจะอายุเท่าไหร่
บ้างก็บอกว่า แม้แต่การหอมเองก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรเมื่อลูกของเราเริ่มโตเป็นวัยรุ่น
ซึ่งทุกความคิดนั้นจะไม่เป็นไรหากเราอยู่ในขอบเขตของการเคารพการตัดสินใจและการสงวนร่างกายต่างๆ ของตัวเด็กเองค่ะ เพราะเขาคือเจ้าของร่างกาย เขามีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะดูแล และหวงแหนร่างกายของตน
ดังนั้นบทความนี้จึงน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ยังสับสนว่า การแสดงความรักแบบไหนถึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับการแสดงความรักกับลูกหลานในบ้านค่ะ มาเริ่มกันที่เรื่องราวของสิทธิ์ในร่างกายเด็กตามอายุกันเลยว่าในช่วงอายุไหน เราสามารถสัมผัสได้มากหรือน้อยเท่าใด
การสัมผัสแบบไหน คือการสัมผัสที่ไม่ดี และไม่ให้เกียรติลูกของเรา
- สัมผัสที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด
- สัมผัสที่สร้างความรู้สึกไม่ดี ขยะแขยง
- สัมผัสภายใต้เสื้อผ้า หรือจั๊กจี้ใต้เสื้อผ้า
- สัมผัสในจุดที่ทำให้รู้สึกประหม่า และหวาดกลัว อย่างอวัยวะเพศหรือจุดสงวนในร่างกาย
- สัมผัสและมีการกำชับว่าห้ามบอกใคร หรือพยายามบอกว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นเรื่องปกติ
- สัมผัสโดยไม่ขออนุญาต
- สัมผัสและข่มขู่ว่าหากไม่ยอมจะทำร้ายร่างกาย หรือดุด่าเพื่อให้ยอม
อายุต่ำกว่า 2 ขวบ
ยังสามารถจับส่วนต่างๆ ของร่างกายลูกได้เพื่อสำรวจเกี่ยวกับความเจ็บปวดร่างกายของลูกได้, รวมถึงทำความสะอาดในส่วนต่างๆ เพราะเด็กยังไม่สามารถทำความสะอาดเองได้ถึง
ข้อแนะนำในการสัมผัสอย่างเหมาะสม
จับอวัยวะเพศ หรือจุดสงวนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากไม่มีเหตุจำเป็นอย่างการต้องช่วยล้างหลังการเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำ ไม่ควรจับต้องเลยไม่ว่าเวลาใด
แนะนำและสอนลูกอยู่เสมอว่าไม่ควรให้ใครคนอื่นจับจุดสงวนต่างๆ ของตน และรู้จักที่จะร้องบอกเมื่อถูกสัมผัสโดยไม่ยินยอมเพื่อให้พ่อแม่รับรู้
อายุ 3-5 ขวบ
เป็นวัยที่ต้องเรียนรู้แล้วว่าส่วนไหนในร่างกายของตัวเด็กที่ควรถูกสัมผัสหรือไม่ควรถูกสัมผัสซึ่งในแต่ละส่วนเองนั้นก็มีความจำเป็น และอ่อนไหวที่แตกต่างกันออกไป เป็นสิ่งที่เราต้องถามความสมัครใจของเขาก่อนเสมอที่ะจับ รวมไปถึงจุดที่ไม่ควรเลยในการสัมผัส ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี่
โซนสีชมพู คือโซนที่ไม่ควรแตะต้องอย่างมาก ยกเว้นการพาไปพบแพทย์หรือมีปัญหาสุขภาพ
โซนสีส้ม คือโซน ควรได้รับความยินยอมจากตัวลูกก่อนว่า เขายินยอมจะให้จับหรือไม่ เพราะบางครั้ง อาจเป็นส่วนที่เขาไม่ชอบให้ลูบให้จับ หรือรู้สึกไม่ปลอดภัยได้เมื่อถูกสัมผัส
โซนสีฟ้า คือโซนที่สามารถจับได้ไม่เป็นไร เพราะเป็นส่วนนอกร่มผ้า และสร้างความมั่นใจและอุ่นใจได้ในหลายๆ สถานการณ์
ข้อแนะนำในการสัมผัสอย่างเหมาะสม
เพราะทุกการกระทำของพ่อแม่และคนรอบตัวสามารถสร้างปมหรือความรู้สึกต่างๆ ให้เด็กได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นก่อนจะจับส่วนไหนของลูก การถามเพื่อขออนุญาตก่อนจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นพ่อแม่จึงมีสิทธิ์ แต่เพราะเป็นพ่อแม่นี่แหละ เราจึงต้องยิ่งให้เกียรติลูกหรือคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเราให้ดีกว่าที่ใครๆ ก่อนการกระทำกับเขา
อายุ 6-8 ขวบ
เป็นวัยที่เริ่มรู้เรื่อง และมีโลกส่วนตัวแล้วเพราะอีกไม่กี่ปี เขาก็จะก้าวเข้าสู่การเป็นวัยรุ่น ดังนั้นการจับต้องร่างกายจึงเป็นเรื่องที่ต้องจริงจังยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงต้องถามหรือขออนุญาตในการจับ แต่รวมไปถึงตัวคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องมีวิจารณญาณร่วมด้วยในการสัมผัสที่มากกว่าแค่การหอม, กอด และการฟัดเหวี่ยงหรือยุ่งย่ามกับเรื่องใต้ร่มผ้าของลูก ว่ามันต้องมีความเหมาะสม และให้เกียรติร่างกายลูก
- ปลูกฝังให้ลูกเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิในร่างกายของตนเองแบบเห็นภาพ เพื่อให้เขาปกป้องร่างกายของตนเองจากทุกคน
- ให้ลูกรู้ว่า ไม่ว่ากับใครหากเขาไม่ยิมยอมให้จับก็สามารถปฏิเสธได้ ไว่ว่าคนขอสัมผัสจะเป็นพ่อหรือแม่ก็ตาม
- สอนให้รู้ว่าหากไม่สบายใจหรือรู้สึกหวาดกลัวต้องแสดงอาการออกมา และรีบมาบอกพ่อแม่ หรือแม้แต่ไม่พอใจการกระทำของพ่อแม่เองก็จำเป็นต้องบอก
จากข้อมูลทั้งหมดนั้นจะเห็นได้ว่า แม้ลูกของคุณพ่อคุณแม่จะยังเป็นเด็กเล็กในสายตาแค่ไหนแต่ก็จะมีมุมในส่วนที่ต้องให้พื้นที่ส่วนตัว กับให้เกียรติเสมอใช่ไหมล่ะค่ะ ดังนั้น การถามคำถามง่ายๆ เพียง 3 คำถามก่อนกระทำต่างๆ จะช่วยได้มากในการที่ทำให้ลูกรู้ว่าตนมีสิทธิ์ในร่างกาย และต้องได้รับการเคารพในความคิดความอ่านซึ่งประโยคเหล่านี้ได้แค่
เมื่อต้องการจะแสดงความรัก ต้องถามว่า ” ขอหอม/ ขอกอดได้มั้ยครับ/คะ ”
เมื่อต้องการถ่ายรูปลูก ต้องถามว่า ” พ่อ/แม่ขอถ่ายรูปลูกได้มั้ยครับ และถ้าโพสลงจะได้ใช่มั้ยครับ/คะ ”
เมื่อจำเป็นต้องจับต้องในจุดลับใต้เสื้อผ้า ต้องขออนุญาตว่า ” พ่อ/แม่ ขอดูหน่อยนะครับ/คะ จะได้รู้ว่าเป็นอะไร ”
ที่มา : brainkart , twitter/dr_yemz