เป้าหมายสำคัญของคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็คือการเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดจริงไหมคะ? แต่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งเร้ามากมาย การเลี้ยงลูกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้เรามาทำความเข้าใจและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกด้วยแนวทางการเลี้ยงลูกเชิงบวกด้วยหลัก 5L กันค่ะ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
LOVE การแสดงความรัก
ความรักในที่นี้ไม่ใช่แค่การที่พ่อแม่แสดงผ่านทางภาษา หรือการให้ของขวัญ หรือเอาข้าวมาให้กินเพียงอย่างเดียว ความรักในที่นี้หมายถึงการมีเวลาคุณภาพ คือ เวลาที่มีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับลูก เล่นกับเขา ให้เขารู้สึกว่าพ่อแม่นั้นรักเขา เขามีความหมาย ฟังดูเหมือนง่าย แต่นี้เป็นปัญหาที่เด็กๆ มักพบมากที่สุด เพราะพ่อแม่มักไม่มีเวลาให้กับเขาเลย
LEARN การเรียนรู้มากด้วยประสบการณ์
การเรียนรู้ส่วนใหญ่ของเด็กก็มักจะได้จากการเล่นนั้นล่ะค่ะ พ่อแม่อย่างเราเลยต้องมีหน้าที่ที่จะคอยส่งเสริมให้พวกเขาได้พัฒนาทั้งการคิด การเรียนรู้ที่ไม่ใช่แค่ความรู้ แต่เป็นการตั้งคำถาม และลองให้เด็กๆ ได้ลองเจอประสบการณ์จริง เพื่อให้เขาได้แก้ปัญหาและอุปสรรค สิ่งนี้จะช่วยพัฒนาสมองของลูกได้มากๆ เลยค่ะ
LIMIT การฝึกวินัย เข้าใจกฎกติกา
การฝึกวินัยในที่นี้ไม่ใช่เป็นการบังคับขู่เข็นให้ลูกต้องทำเดี๋ยวนี้เดี๋ยวนั้น หรือบังคับให้ลูกทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ แต่เป็นการใช้วิธีเพิ่มทางเลือกให้กับลูก เช่น ลูกจะเก็บของเล่นหรือจะไปอาบน้ำก่อนคะ เป็นการสร้างข้อตกลงระหว่างกัน เช่น ถ้าถึงเวลานอนแล้วหนูไม่นอน พรุ่งนี้แม่จะไม่ให้ดูการ์ตูน 1 วันนะคะ เป็นต้น การฝึกแบบนี้จะช่วยให้เขารู้เหตุและผล และทำให้เขามีวินัยติดตัวด้วยนั่นเอง
LET THEM GROW การให้อิสรภาพในการเติบโต
การให้อิสรภาพไม่ได้หมายความว่าให้เราปล่อยปละละเลยลูกแต่อย่างใด แต่เป็นการปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิต ได้เลือกและตัดสินใจด้วยตัวเองบ้าง ได้ลองปล่อยให้เขาได้ล้มลงบ้าง ลองผิดลองถูกดูบ้าง เพื่อเรียนรู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง ได้มีชีวิตเป็นของตัวเองและเติบโตอย่างมีคุณภาพต่อไปค่ะ
LET IT BE การปล่อยวางกับเรื่องบางเรื่อง
คุณพ่อคุณแม่ควรเรียนรู้ที่จะปล่อยวางลูกอย่างเข้าใจ เรื่องบางเรื่องเราเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยความสัมพันธ์ ให้เข้าใจว่าลูกไม่ใช่ของเรา ควรปล่อยให้เขามีชีวิตของตัวเอง ส่วนเราเองก็คอยหนุนหลังช่วยเหลือ แบบนี้จึงจะทำให้เขาเติบโตได้อย่างสมวัยนั่นเองค่ะ
การเลี้ยงลูกใช่ว่าความรักอย่างเดียวจะสามารถเลี้ยงให้เขาเติบโตได้อย่างดีที่สุดนะคะ คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความเข้าใจเขา รับฟัง และลองปล่อยให้เขาได้คิดและตัดสินใจเองบ้าง เพราะลูกควรมีชีวิตของลูก จะผิดหรือถูกควรเรียนรู้ด้วยตัวเอง ส่วนเราก็คอยประคับประคอยและอยู่เคียงข้างเขา เพียงเท่านี้ก็พอแล้วค่ะ
อ้างอิง : Thai PBS Kids, Hello Thailand