สถานการณ์โควิดในประเทศไทยยังคงระบาดและมีผู้คนติดอยู่เป็นจำนวนมาก และช่วงนี้ก็มีการระบาดในกลุ่มเด็กเล็กมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
โดยโรคโควิดนี้ เริ่มแพร่ในกลุ่มเด็กเล็กเพิ่มขึ้น ซึ่งยังไม่สามารถรับวัคซีนได้ ในระลอกโอมิครอนพบเสียชีวิตแล้ว 27 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว จึงขอให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังและสังเกตอาการเด็กที่มีโรคประจำตัวอย่างใกล้ชิด หากมีอาการป่วยผิดปกติ หรือคนในบ้านเป็นผู้ป่วย “โควิด” หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องรีบพาเด็กที่เริ่มมีอาการป่วยไปพบแพทย์โดยเร็ว
ทั้งนี้ พบว่ากลุ่มเด็กเล็กอายุ 0-6 เดือน มีความเสี่ยงที่ป่วยแล้วจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากที่สุด ส่วนกลุ่มอายุ 5-12 ปี การเสียชีวิตค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะระลอกโอไมครอนนี้มีเพียง 3 ราย หรืออัตราตายน้อยกว่า 0.01% ดังนั้น กลุ่มวัยเรียนอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป การรับวัคซีนจะช่วยป้องกันการป่วยหนักได้อย่างดี
ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการระบาดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในส่วนของกลุ่มเสี่ยงที่ป่วยแล้วจะอาการหนัก 3 กลุ่ม คือ
1. ผู้สูงวัยที่ไม่ค่อยออกนอกบ้านหรือกลุ่มติดเตียง ส่วนใหญ่รับเชื้อจากผู้ดูแล ญาติในบ้าน ผู้ที่มาเยี่ยม
2. กลุ่ม 608 ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการไปสังสรรค์กับเพื่อน/คนรู้จัก การรวมกลุ่มทำกิจกรรม หรือไปสถานที่แออัด เช่น ตลาด ร้านอาหาร เป็นต้น และ
3.เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี จึงต้องย้ำกลุ่มเด็กวัยเรียนและวัยทำงานให้ระมัดระวังเพราะเป็นกลุ่มที่มีการติดเชื้อสูงและอาจนำไปแพร่ให้กับ 3 กลุ่มเสี่ยงนี้ได้
ดังนั้นช่วงสงกรานต์นี้คุณพ่อคุณแม่คงต้องระมัดระวังกันมากขึ้น ก่อนเดินทางคงต้องระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัย และตรวจ ATK ก่อนไปสถานที่หรือก่อนร่วมงานต่างๆ ส่วนกิจกรรมในครอบครัวก็คงต้องทำกันภายในครอบครัวเท่านั้น และสังเกตอาการช่วง 5-7 วันแรกก่อนกลับมาหากไปต่างจังหวัด เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดนั่นเองค่ะ
อ้างอิงจาก : https://www.komchadluek.net/covid-19/510407