เมื่อลูกโตขึ้นมาพอที่เขาจะรู้เรื่องแล้ว ปัญหาเด็กกินยากเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ที่ไม่ว่าเราจะหลอกล่อยังไงเจ้าตัวเล็กก็ไม่ยอมกินอาหารสักที ไม่ว่าจะเป็นนม ปลา ผลไม้ โดยเฉพาะผัก ที่ลูกมักกินยากสุดๆ ซึ่งการที่ลูกเป็นเด็กกินยากก็อาจทำให้เขาขาดสารอาหารบางชนิดได้ วันนี้เราไปดูกันดีกว่าว่า ถ้าลูกยังเป็นเด็กกินยาก เขาจะขาดสารอาหารอะไรบ้าง และมีวิธีไหนไหมที่จะช่วยให้ลูกกินง่าย รวมไปถึงสารอาหารที่ลูกควรเสริมจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
เด็กไม่ยอมกินผัก
โดยปกติเด็กมักจะชอบอาหารที่มีรสชาติหวาน ผักจึงเป็นเหมือนศัตรูตัวฉกาจที่ทำให้ลูกไม่ยอมกินผัก ด้วยรสชาติที่ขม และมีกลิ่นเหม็นเขียว รวมไปถึงมีเนื้อสัมผัสที่เป็นกากใย เด็กจึงไม่ชอบกินนั่นเอง ซึ่งผักนั้นเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เพราะมีทั้งวิตามิน เกลือแร่ กากใย สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี อีกทั้งยังช่วยบำรุงสายตา สมอง กระดูก ผิวพรรณ เหงือก และฟัน
แต่ถ้าเด็กไม่ยอมกินผักเลย แน่นอนว่าย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพ อย่างแรกคือเรื่องของระบบขับถ่าย เพราะในผักมีใยอาหารที่ช่วยในเรื่องนี้ เด็กที่ไม่ได้กินผักจึงมีอาการท้องผูก อาหารไม่ย่อย อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะขาดวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินบี 1, บี 2, วิตามินซี ส่งผลให้ภูมิต้านทานของเด็กลดน้อยลง นอกจากนี้ผักบางชนิดยังมีสรรพคุณช่วยทำให้เจริญอาหาร เพราะรสขมๆ ของผักจะช่วยกระตุ้นต่อมรับรสได้ หากลูกไม่ยอมกินผักเลย ก็อาจทำให้เขาเบื่ออาหารเพิ่มมากขึ้นอีก
สำหรับวิธีแก้เบื้องต้น คือ ลองให้ลูกกินผักที่หลากหลาย อย่างละนิดละหน่อย อาจแปรรูปผักไปเป็นอย่างอื่นที่ทำให้ลูกกินแล้วไม่รู้ว่านั่นคือผัก ก็อาจจะช่วยให้เด็กกินผักมากขึ้น
เด็กไม่ยอมกินผลไม้
เด็กบางคนไม่ยอมกินผลไม้ เพราะไม่ชอบความรู้สึกของกากใยที่ต้องเคี้ยว รวมไปถึงรสชาติและกลิ่นของผลไม้บางชนิด นอกจากนี้ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งคือ ลูกได้กินแต่ผลไม้เดิมๆ เป็นเวลานาน จนทำให้พาลเกลียดผลไม้ชนิดอื่นไปด้วย ซึ่งในผลไม้อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ กากใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะในผลไม้รสเปรี้ยวที่จะมีวิตามินซีสูง ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญที่จะไปสร้างส่วนต่างๆ ของร่างกายให้แข็งแรง เช่น หลอดเลือด กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ สารสื่อประสาทในสมอง นอกจากนี้ยังพบได้มากในเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน ให้เจ้าตัวเล็กแข็งแรงยิ่งขึ้น ยิ่งเป็นหวัดบ่อยก็ควรต้องกินผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงค่ะ
แต่เมื่อลูกไม่ยอมกินผลไม้ ก็ย่อมทำให้เขาขาดกากใยอาหาร รวมไปถึงแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และถึงทำให้สารคอลลาเจนที่ร่างกายใช้ในการหล่อลื่นและประสานการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อต่างๆ ลดน้อยลง ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดวิตามินซี เนื้อเยื่อและหลอดเลือดต่างๆ จึงเกิดการอักเสบได้ง่าย ทำให้มีเลือดออกง่าย มีรอยช้ำ จนอาจทำให้เป็นโรคลักปิดลักเปิดได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ลูกไม่สบายบ่อยได้อีกด้วย
สำหรับวิธีแก้เบื้องต้น คือ พยายามให้ลูกลองกินผลไม้ที่หลากหลาย หรือลองคั้นน้ำผลไม้สดๆ ให้ลูกดื่ม ที่สำคัญคืออย่าให้ลูกดื่มแต่นมเพียงอย่างเดียว เพราะอาจทำให้ขาดวิตามินซีได้
เด็กไม่ยอมกินปลา
ลูกไม่ยอมกินปลา เพราะอาจจะไม่ชอบเนื้อสัมผัส หรือกลิ่นคาวของปลา เมื่อลูกไม่กินปลาก็อาจทำให้เขาขาดโอเมก้า 3 ซึ่งมีสาร DHA ที่มีความสำคัญในการพัฒนาและทำหน้าที่ของระบบประสาท ระบบสายตา และระบบสมอง นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลของสภาวะทางอารมณ์ของลูกอีกด้วย โดยร่างกายของคนเราไม่สามารถผลิตโอเมก้า 3 เองได้ จึงต้องได้รับจากอาหารที่รับประทานเข้าไปเท่านั้น พบได้ทั่วไปในปลา เมล็ดเจีย หรืออาหารเสริมบางอย่าง
เมื่อเด็กขาดโอเมก้า 3 และ DHA แล้ว ก็จะส่งผลให้ลูกมีพัฒนาการทางสมองล่าช้า เด็กไม่มีสมาธิ ขาดความสามารถในการเรียนรู้ จดจำและการคิดวิเคราะห์ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นจึงเกิดผื่นขึ้นมาได้ ที่สำคัญเด็กที่มีระดับ DHA ต่ำจะมีปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์ การนอนและการเรียนรู้มากกว่าเด็กกลุ่มที่มีระดับ DHA ปกติ
สำหรับวิธีแก้เบื้องต้น คือ อาจนำปลาไปแปรรูปในรูปแบบอื่นๆ ผ่านกรรมวิธีการทำอาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะนึ่ง ต้มหรือทอด
เด็กไม่ยอมดื่มนม
เด็กบางคนไม่ยอมดื่มนม เพราะรู้สึกว่านมไม่อร่อย อาจเป็นเพราะในช่วงแรกพ่อแม่มักจะให้ลูกดื่มแต่นมจืด เพราะนมจืดนั้นดีกว่านมที่มีรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นรสหวาน รสสตรอว์เบอร์รี หรือรสช็อกโกแลต ซึ่งอาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กติดหวานได้ แต่เมื่อเด็กดื่มนมรสจืดบ่อยๆ ก็จะรู้สึกว่าไม่อร่อย เมื่อไม่อร่อยก็เลยทำให้ไม่อยากดื่มนั่นเอง
โดยในนมนั้นมีสารอาหารสำคัญที่จำเป็นสำหรับเด็กที่กำลังเจริญเติบโต นั่นคือโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามินบีสอง วิตามินเอ นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุแคลเซียมที่ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน ดังนั้นเมื่อเด็กไม่ยอมดื่มนมก็อาจทำให้เขาขาดแคลเซียม ที่เป็นตัวการสำคัญในการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ซึ่งอาจส่งผลต่อการพัฒนาด้านความสูง เพราะจากรายงานของ Health Data Center ของกระทรวงสาธารณสุขปี 2562 พบว่าเด็กวัยเรียน 6-14 ปีมีภาวะเตี้ยและแคระแกร็น รวมไปถึงอาจทำให้ลูกเป็นโรคกระดูกอ่อนได้อีกด้วย
สำหรับวิธีการแก้เบื้องต้น คือ อาจลองให้ลูกดื่มนมคู่กับขนมบางอย่าง เพื่อจูงใจให้เขาดื่มนม แต่ถ้าหากลูกไม่ยอมดื่มนมจริงๆ ก็สามารถให้ลูกได้รับแคลเซียมจากอาหารอื่นๆ เช่น ปลาเล็กปลาน้อย หรือในผักใบเขียว
วิธีแก้ปัญหาเด็กกินยาก
ปัญหากินยากของลูกเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของรสชาติ ความชอบ บรรยากาศในการรับประทานอาหาร ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถปรับพฤติกรรมการกินของลูกเบื้องต้นได้ คือ
- ให้ลูกมีส่วนร่วมในการทำอาหาร : เมื่อเขาได้มีส่วนร่วมในการทำอาหารมื้อนั้น ก็จะทำให้เขารู้สึกอยากกินอาหารฝีมือตัวเอง เพราะจะทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจที่ตนเองมีส่วนร่วม
- ฝึกให้ลูกกินอาหารเอง : เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราควรฝึกลูกให้กินข้าวเอง ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะทำเลอะเทอะ ปล่อยให้ลูกมีความสุขกับการกินอาหาร อย่าไปตามป้อน แต่ว่าพอถึงเวลาที่ต้องเก็บก็ควรเก็บ
- ไม่ควรให้นมหรือขนมใกล้กับมื้ออาหาร : อย่าให้ขนมระหว่างมื้อ เพราะนั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกไม่ยอมกินข้าว เพราะเขารู้สึกว่าอิ่มแล้ว และถึงไม่ได้กินข้าว ก็ยังมีนมและขนมให้กินอยู่ดี
- ให้กินข้าวไม่เกิน 30 นาที : กำหนดเวลาในการกินอาหาร ให้ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น ไม่ว่าเขาจะกินหมดหรือไม่ก็ตาม พอครบ 30 นาทีปุ๊บก็ให้เก็บทันที ในช่วงแรกเราจะต้องใจแข็งหน่อย พยายามให้เขากินเป็นเวลา เมื่อทำไปนานๆ จนเป็นกิจวัตร ลูกก็จะเข้าใจว่า เวลากินก็คือเวลากิน มีเวลาให้เพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น
- ปรับเปลี่ยนอาหาร : ในบางครั้งลูกอาจจะเบื่ออาหารในแบบเดิมๆ เราอาจจะลองเปลี่ยนวิธีในการทำอาหารด้วยรูปแบบใหม่ๆ ดู ลองนำวัตถุดิบมาผสมกันด้วยรูปแบบอื่น อาจซ่อนสิ่งที่ลูกไม่กินเข้าไปในอาหารบางอย่าง เช่น ที่ชีสทอด แต่ว่าซ่อนผักไปในชีส
- ทำให้บรรยากาศเวลากินข้าวสนุก : ไม่ควรบังคับให้ลูกกินข้าวด้วยความเครียด หรือบีบบังคับเขามากจนเกินไป พยายามทำให้การกินเป็นเรื่องปกติ เพื่อให้ลูกมีความสุขกับการกินจะดีกว่า
ถึงแม้เราจะพยายามหลอกล่อให้ลูกกินอาหารได้บ้าง แต่บางครั้งก็อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะถ้าลูกไม่ยอมกินผัก ผลไม้ นม และปลา ก็ย่อมทำให้ลูกขาดสารอาหารบางอย่างได้ การให้ลูกทานสารอาหารเสริมทดแทนจึงเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
สารอาหารทางเลือกสำหรับเด็กไม่กินผัก : วิตามินรวมและสารสกัดจากผัก
Nature’s Way Kids VitaGummies Multi-Vitamin + Vegies รสเบอร์รี่ เต็มไปด้วยวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังใส่สารสกัดจากผักอีกด้วย เป็นทางเลือกสำหรับเด็กที่ไม่ค่อยกินผัก หรือทานอาหารได้น้อย
ซึ่งในกัมมี่ 1 ชิ้นจะประกอบไปด้วยวิตามินที่จำเป็น 9 ชนิด และสารสกัดจากผัก คือ
- วิตามิน: วิตามิน เอ, วิตามิน บี3, บี6 และ บี12, วิตามินซี, วิตามิน ดี3 วิตามินอี โฟลิคเอสิด และ ไบโอติน
- สารสกัดจากผัก: แครอท มะเขือเทศ ผักโขม บีทรูท และอาร์ติโชค
เหมาะสำหรับ : เด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป ให้รับประทานวันละ 2 เม็ด (เคี้ยวและกลืน)
ราคา 449 บาท จำนวน 60 เม็ด (เฉลี่ยเพียง 15 บาทต่อวัน)
สารอาหารทางเลือกสำหรับเด็กไม่กินผลไม้ : วิตามินซีและสังกะสี
Nature’s Way Kids VitaGummies Vitamin C + Zinc รสส้ม เปรี้ยวๆ หวานๆ เป็นกัมมี่สูตรวิตามินซี ที่มีสังกะสีผสมมาให้ด้วย! เต็มไปด้วยประโยชน์จากวิตามินซีและสังกะสี
เหมาะสำหรับ : เด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป ให้รับประทานวันละ 2 เม็ด (เคี้ยวและกลืน)
ราคา 399 บาท จำนวน 60 เม็ด (เฉลี่ยเพียง 13 บาทต่อวัน)
สารอาหารทางเลือกสำหรับเด็กไม่กินปลา : โอเมก้า 3 และ DHA
Nature’s Way Kids VitaGummies Omega-3 Trio ในกัมมี่จะประกอบไปด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งอุดมไปด้วย DHA มี 3 รสในขวดเดียว คือ รสเบอร์รี่ ส้ม และเลมอน
เหมาะสำหรับ : เด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป ให้รับประทานวันละ 2 เม็ด (เคี้ยวและกลืน)
ราคา 449 บาท จำนวน 60 เม็ด (เฉลี่ยเพียง 15 บาทต่อวัน)
สารอาหารทางเลือกสำหรับเด็กไม่ดื่มนม : แคลเซียมและวิตามินดี
Nature’s Way Kids VitaGummies Calcium + Vitamin D รสเบอร์รีผสมวานิลลา ไม่มีกลิ่นนม กัมมี่สูตรนี้มีทั้งแคลเซียมและวิตามินดี หากลูกไม่ค่อยดื่มนม ก็สามารถเสริมกัมมี่ตัวนี้ให้แก่ลูกได้ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับเด็กที่แพ้นมวัว เพราะไม่มีส่วนผสมจากนมวัวและปราศจากน้ำตาลแลคโตส
เหมาะสำหรับ : เด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป ให้รับประทานวันละ 1 เม็ด (เคี้ยวและกลืน)
ราคา 449 บาท จำนวน 60 เม็ด (เฉลี่ยเพียง 7 บาทต่อวัน)
Nature’s Way Kids Smart Vita Gummies
กัมมี่ทางเลือกสำหรับเด็กๆ โดย Nature’s Way Vita Gummies มีด้วยกัน 4 สูตร คือ
- Nature’s Way Kids VitaGummies Vitamin C + Zinc : เนเจอร์สเวย์ คิดส์ ไวต้ากัมมี่ วิตามินซี + สังกะสี
- Nature’s Way Kids VitaGummies Multi-Vitamin + Vegies : เนเจอร์สเวย์ คิดส์ ไวต้ากัมมี่ มัลติวิตามิน + เวจจี้
- Nature’s Way Kids VitaGummies Omega-3 Trio : เนเจอร์สเวย์ คิดส์ ไวต้ากัมมี่ โอเมก้า-ทรี ทรีโอ
- Nature’s Way Kids VitaGummies Calcium + Vitamin D : เนเจอร์สเวย์ คิดส์ ไวต้ากัมมี่ แคลเซียม + วิตามิน ดี
โดยเราควรกำหนดจำนวนชิ้นในการทาน ไม่ให้เกิน 1-2 ชิ้นต่อวันตามฉลากนะคะ หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนสนใจก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Boots, Watsons, Gourmet ในเครือ The Mall Group, ร้านยา SAVEDRUG, P&F, LAB Pharmacy, iCare, Tsuruha และ LAZADA
เป็นยังไงกันบ้างคะ นี่เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งสำหรับเด็กที่กินยากมากๆ ไม่ว่าจะทำอย่างไรลูกก็ไม่ยอมกินสักที แต่ถึงอย่างไรคุณพ่อคุณแม่ก็ควรต้องพยายามให้ลูกกินอาหารต่างๆ ให้ครบ 5 หมู่มากที่สุด นอกจากนี้ควรเป็นแบบอย่างที่ดีของการกินอาหารให้ครบถ้วน หลากหลาย กินผักผลไม้เป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อที่ลูกจะได้มีสุขภาพดีและเจริญเติบโตอย่างสมวัยนั่นเองค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง