Parents One

โนโรไวรัส ท้องร่วงในเด็ก

 

พอเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว เรื่องเชื้อโรคยังเป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะทุกที่มักมีสิ่งปนเปื้อน ถ้าเกินลูกเอาอะไรเข้าปากแล้วไม่ยอมล้างมือละก็ เชื้อโรคเข้าปากแน่นอน เป็นเหตุให้เกิดโรคท้องเสีย “โนโรไวรัส” ได้ มาทำความรู้จักกับโรคนี้กันดีกว่าค่ะ

ท้องเสียโนโรไวรัสคืออะไร ?

การติดเชื้อท้องเสียโนโรไวรัส (Norovirus) ซึ่งมีชื่อเดิมว่า Norwalk virus เป็นการติดเชื้อท้องเสียที่ไม่ใช่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อไวรัสชนิดนี้จะเกิดขึ้นจากการรับประทานอาหาร น้ำดื่มที่มีเชื้อนี้ปนเปื้อน หรือผ่านการสัมผัสกับพื้นผิวที่มีการปนเปื้อน เช่น จาน ชาม ช้อน นั่นเอง

อาการของโนโรไวรัสเป็นอย่างไร?

ส่วนใหญ่มักทำให้มีอาการอาเจียน ปวดท้องและท้องเสีย ภายใน 12-48 ชั่วโมงหลังทานอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อนี้ หรือแม้แต่การสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งจากผู้ป่วยรายอื่นๆก็สามารถติดได้ และอาการท้องเสียมักจะดีขึ้นภายใน 24-72 ชั่วโมง หลังจากเริ่มมีอาการป่วย อาการที่พบบ่อย คือ

แม้ว่าอาการคลื่นไส้อาเจียนจะดูรุนแรงพอสมควร แต่การตรวจร่างกายมักจะไม่มีอาการปวดเฉพาะที่หรือปวดเกร็งของหน้าท้อง ทำให้แยกการวินิจฉัยแยกโรคจากสาเหตุอื่นๆ ที่มีอาการและอาการแสดงที่คล้ายกันได้ยาก เช่น ภาวะลำไส้กลืนกัน ไส้ติ่งอักเสบ การติดเชื้ออาหารเป็นพิษด้วยเชื้ออื่นๆ สำหรับรายที่มีอาการอาเจียนและถ่ายเป็นน้ำจำนวนมาก อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการขาดน้ำ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก มีชีพจรเบาเร็ว และมีความดันโลหิตต่ำได้

การวินิจฉัยโนโรไวรัส

สามารถวินิจฉัยโนโรไวรัสได้โดยการเก็บตัวอย่างอุจจาระส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อดูการติดเชื้อ Norovirus

การรักษาโนโรไวรัส

การป้องกันโนโรไวรัส

เห็นโรคน่ากลัวแบบนี้ ทางที่ดีคุณแม่ควรป้องกันไว้ก่อน ใส่ใจเรื่องความสะอาดเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งอาหารการกิน การล้างมือให้สะอาด และหมั่นทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ เพียงเท่านี้ก็ห่างไกลจากโรคนี้แล้วล่ะค่ะ

ที่มา – bumrungrad