นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว หรือช่วงตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนกระทั่งถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงเสี่ยงพบโรคติดต่อได้หลายโรค หนึ่งในนั้นคือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV
จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่และโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจในประเทศไทย เผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนกระทั่งถึงวันที่ 2 กันยายน 2565 พบเด็กติดเชื้อ RSV จำนวน 131 ราย จากกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จำนวน 1,445 ราย ส่วนใหญ่แล้วจะพบมากในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
โดย RSV แพร่กระจายผ่านทางอาการไอ จาม หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ ซึ่งผู้ได้รับเชื้อจะแสดงอาการได้เร็วที่สุดหลังติดเชื้อ 2 วัน ช้าสุดประมาณ 8 วัน สำหรับเด็กเล็กนั้น โรคมีโอกาสลุกลามไปทางระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น หลอดลม เนื้อปอด ทำให้เกิดหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบตามมา ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง
นพ.โอภาสจึงได้กล่าวเสริมเพิ่มเติมขอให้ผู้ปกครองและสถานศึกษาหมั่นสังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
อาการของผู้ติดเชื้อไวรัส RSV
- ระยะแรกมีอาการคล้ายไข้หวัด เช่น ไอ จาม เป็นไข้ มีน้ำมูก เจ็บคอ
- หากอาการรุนแรงจะหายใจเร็ว หอบเหนื่อย เนื่องจากปอดอักเสบ
- หายใจมีเสียงหวีด หรือครืดคราดในลำคอ
- มีอาการซึม
- รับประทานอาหารได้น้อยลง
วิธีการป้องกันไวรัส RSV
- หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด โดยเฉพาะก่อนมื้ออาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
- หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้า ตา จมูก ปาก
- งดใช้ภาชนะอาหารและของใช้ร่วมกับผู้อื่น
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วย
- ไม่พาเด็กไปในสถานที่ที่มีคนหนาแน่น
หากพบว่ามีอาการป่วย ควรปฏิบัติตัว ดังนี้
- งดออกนอกบ้านเพื่อลดการแพร่เชื้อ
- สวมหน้ากากอนามัย
- ปิดปาก-จมูกทุกครั้งเวลาจาม
- ทำความสะอาดบ้านและข้าวของเครื่องใช้เป็นประจำ
- รับประทานอาหารครบ 5 หมู่
- ดื่มน้ำมาก ๆ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- แยกเด็กที่มีอาการป่วยออกจากเด็กปกติและพาพบแพทย์เพื่อการรักษา
หากมีข้อสงสัย อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคติดต่อได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
อ้างอิงจาก bangkokbiznews