ในประเทศไทย เชื้อโควิดส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.5 แพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่มีการคลุกคลีใกล้ชิดกันตลอด เมื่อไปโรงเรียน
เมื่อเด็กติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการป่วยไม่รุนแรง เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายได้เอง แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีส่วนน้อยมากที่สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น เกิดภาวะการอักเสบในหลายอวัยวะ หรือที่เรียกว่าภาวะ MIS-C ผู้ป่วยในกลุ่มนี้มีโอกาสเสียชีวิตได้สูง
หลังจากที่มีเหตุการณ์ เด็ก 6 ขวบ ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอยู่เพียงชั้น ป.2 เท่านั้น ได้เสียชีวิตจากภาวะ MIS-C ทำให้เกิดภาวะอักเสบในหลายอวัยวะ ป่วยหนัก จนถึงขั้นเสียชีวิต
เบื้องต้นน้องมีอาการไข้ น้ำมูก ถ่ายเหลว อ่อนเพลีย รักษาที่สถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนส่งตัวมารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลปทุมธานี เนื่องจากมีอาการซึม มือเท้าเย็น และเกิดอาการช็อกในที่สุด
เนื่องจากน้องเกิดภาวะ MIS-C ภาวะอักเสบในหลายอวัยวะ ทั้งหัวใจ และปอดจึงส่งผลทำให้อาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต สอดคล้องกับประวัติเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดไว้ด้วย
ดังนั้น หากบุตรหลานมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจเร็ว เหนื่อย ซึม ตัวเย็น เรียกไม่รู้สึกตัว ภายหลังมีการติดเชื้อโควิด-19 แนะนำให้ผู้ปกครองรีบพาเด็กไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
และที่สำคัญ คือ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูก และทุกคนในครอบครัวไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครบโดสตามที่กรมอนามัยได้แนะนำไว้ เพื่อลดการติดเชื้อ ป่วย และเสียชีวิตให้น้อยลงนั่นเองค่ะ
ขอบคุณแหล่งอ้างอิง : www.thairath.co.th