สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง โดยในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีคุณแม่ตั้งครรภ์ติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้อาการหนักกว่าคนทั่วไป เพราะครรภ์เบียดปอดทำหายใจลำบาก
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ข้อมูลการติดเชื้อของคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่หลังคลอด 6 สัปดาห์และทารกแรกเกิด ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2564 – 5 มี.ค. 2565 พบติดเชื้อสะสม 7,210 ราย เสียชีวิต 110 ราย คิดเป็น 1.5% ส่วนทารกแรกเกิดจากกลุ่มนี้มี 4,013 ราย ติดเชื้อ 319 ราย คิดเป็น 8% เสียชีวิต 67 ราย คิดเป็น 1.6%
เมื่อดูการติดเชื้อสะสมรายเดือนของคุณแม่ตั้งครรภ์ พบติดเชื้อสูงสุดระลอกเดลตาช่วง ส.ค. 2564 จำนวน 1,728 ราย และลดลงจนถึงสิ้นปี 2564 แต่ตั้งแต่ ม.ค. 2565 การติดเชื้อกลุ่มนี้เริ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับระลอกใหม่ของสายพันธุ์โอมิครอน โดยข้อมูล 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นจาก 59 ราย เป็น 71 ราย 157 ราย และล่าสุด 224 ราย ตามลำดับ จึงยังต้องเฝ้าระวังกลุ่มนี้เป็นพิเศษ เพื่อลดอัตราติดเชื้อและเสียชีวิตให้น้อยลง
โดยพบว่าคุณแม่ตั้งครรภ์และหลังคลอด 6 สัปดาห์ที่ติดโควิด 7,210 ราย ไม่ได้รับวัคซีนถึง 87% หากรับวัคซีน 2 เข็ม อัตราตายกลุ่มนี้ลดลง 10 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งทางนพ.สุวรรณชัยยืนยันว่าการรับวัคซีนในช่วงตั้งครรภ์มีความปลอดภัย ขอให้คุณแม่ตั้งครรภ์เข้ารับวัคซีนตามเกณฑ์
เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีปัญหาเรื่องการหายใจลำบากอยู่แล้ว เนื่องจากทารกในครรภ์จะไปดันปอด หากติดเชื้อจึงยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป จึงขอให้หญิงตั้งครรภ์มารับวัคซีน ฉีดกว่าร้อยล้านพันล้านโดสแล้วมีความปลอดภัย อาการข้างเคียงเหมือนคนทั่วไปจึงไม่ต้องกังวล
อ้างอิงจาก