ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล โพสต์ข้อความผ่านทาง Twitter ระบุว่า “ประเด็นหนึ่งที่คนไม่ค่อยพูดถึงเกี่ยวกับ “Omicron” คือ ข้อมูลใน UK พบอัตราเด็กป่วยนอนโรงพยาบาลจาก “Omicron” สูงมาก และสูงกว่าทุก wave ที่ผ่านมา เนื่องจาก “Omicron” ติดง่ายแพร่ง่าย ผู้ใหญ่ได้วัคซีนเยอะแล้ว แถมมี boost อีก ในขณะที่เด็กยังไม่ได้วัคซีน หรือได้ไม่ครบ บ้านเราอนุมัติแล้วควรรีบฉีด”
ในช่วง 2-3 สัปดาห์ ถึงแม้ว่าจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่า เชื้อโควิด “Omicron” มีความรุนแรงต่ำกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่นั่นก็คือ ผลการศึกษาจากประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูง (เช่น สหราชอาณาจักร และเดนมาร์ก ) หรือเคยมีการแพร่ระบาดของเชื้อ covid สูง จนคนมีภูมิคุ้มกันมากพอแล้ว (เช่น แอฟริกาใต้ และประเทศแอฟริกาอื่น ๆ) เลยกลายเป็นว่ากลุ่มเสี่ยงสำหรับ “Omicron” (ต่างไปจากสายพันธุ์ก่อนหน้านี้) ก็คือ เด็กๆ ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนใดๆ เลย และยังไม่เคยติดโรคด้วย ทำให้ทั้งในแอฟริกาใต้ และในสหราชอาณาจักร มีรายงานเด็กติดเชื้อ “Omicron” เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
การติดเชื้อโควิคในเด็กนั้น แม้จะไม่ค่อยมีอาการรุนแรง จนถึงขั้นเสียชีวิตแบบในคนสูงอายุ แต่ที่น่ากังวล คืออาการระยะยาวหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง long covid หรือเรื่อง MIS-C ก็ตาม ทำให้คุณพ่อคุณแม่ช่วงนี้อาจจะต้องระวังเด็กๆ เป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง หากยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน จึงควรพาไปฉีดวัคซีนเพื่อตัวของลูกน้อยเอง ที่สำคัญต้องระมัดระวังการไปเที่ยวในช่วงนี้ด้วย เพราะถือว่าเป็นช่วงที่เชื้อกำลังระบาด และคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นเองค่ะ
อ้างอิงจาก : https://www.komchadluek.net/covid-19/498669
