อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ อย่างอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการถูกสัตว์เลื้อยคลานอย่างงูกัด ก็เป็นเหตุการณ์ที่พบได้อยู่บ่อยครั้ง อย่างกรณีล่าสุดมีเด็กหญิงวัย 10 ขวบถูกงูกะปะซึ่งมีพิษร้ายแรงกัด จนต้องมีการผ่าตัดมือ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2564 โดยมีเด็กหญิงวัย 10 ขวบได้ออกมาเดินเล่นรอบบ้าน จากนั้นก็ถูกงูกัด จึงร้องเรียกให้คนช่วย พ่อและแม่ของเด็กหญิงจึงรีบวิ่งมาดูและพบว่านิ้วมือข้างซ้ายที่ถูกงูกัดมีเลือดไหลจำนวนมาก จึงได้นำสายกระเป๋ามารัดไว้ ก่อนที่พ่อของเด็กจะตีงูจนตาย และนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาล พร้อมกับซากงู
โดยงูที่กัดเด็กหญิงนั้นเป็นงูกะปะที่มีพิษร้ายแรง แต่เด็กหญิงมีอาการแพ้เซรุ่มแก้พิษงู จึงต้องมีการผ่าตัดเอาเลือดที่มือออก เนื่องจากแผลที่บริเวณนิ้วเริ่มเป็นเนื้อตาย จึงต้องมีการระบายให้เลือดหมุนเวียน แต่ทางทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ไม่มีเลือดกรุ๊บ AB จำนวนมากพอ ที่จะทำเกล็ดเลือดเพื่อรักษา ทางญาติจึงได้มีการโพสต์ขอความช่วยเหลือในโลกโซเชียล และได้รับบริจาคเลือดมาเป็นจำนวนมาก
ซึ่งล่าสุดแพทย์ได้นำเลือดที่คนบริจาคไปทำเกล็ดเลือด เพื่อไปรักษาด้วยการเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อโดยธรรมชาติ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังทำให้ลดอาการปวด แต่อาการของน้องยังไม่พ้นขีดอันตราย
สำหรับสำหรับงูกะปะ เป็นงูพิษที่มีพิษรุนแรงและอันตรายมากที่สุดที่พบในประเทศไทย มีสีเทาอมชมพูลายสีน้ำตาลเข้ม ลักษณะหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม คอเล็ก ลำตัวอ้วน หางเรียวสั้น มีลายเป็นรูปเหมือนหลังคาบ้านอยู่ด้านข้างตลอดลำตัว ปกติจะไม่ปราดเปรียว เวลาตกใจจะงอตัวหรือขดนิ่ง แต่ฉกกัดรวดเร็ว
ซึ่งพิษของงูกะปะนั้นมีผลต่อระบบเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ เมื่อถูกกัดภายใน 10 นาทีหลังบริเวณรอบแผลที่ถูกกัดจะบวมขึ้นย่างรวดเร็ว จนกระทั่งแขนหรือขาข้างนั้นบวมไปหมดภายใน 1 ชั่วโมง จึงส่งผลให้ผู้ที่โดนงูกัดอาจเสียชีวิตจากการเสียเลือดได้
อ้างอิงจาก