อาหารแปรรูปหรือฟาสต์ฟู๊ด เป็นสิ่งที่เด็กหลายๆ คนชื่นชอบ แต่คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะว่าอาหารแปรรูปเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกมากกว่าที่คิด
JAMA วารสารการแพทย์ของอเมริกา ได้พบว่าอาหาร “แปรรูปพิเศษ” เป็นอาหารที่คิดเป็น 2 ใน 3 ของอาหารสำหรับเด็ก หลังจากตรวจสอบข้อมูลที่รวบรวมระหว่างปี 2542 ถึงปี 2561 พบว่าปริมาณแคลอรีที่อยู่ในอาหารเหล่านี้เพิ่มขึ้นจาก 61% เป็น 67%
จากการศึกษาของคณะวิชาวิทยาศาสตร์โภชนาการและนโยบายของมหาวิทยาลัยทัฟส์ในอเมริกา ได้ทำการวิเคราะห์อาหารของเด็กอายุ 2-19 ปีจำนวน 3,795 คนจากทั่วประเทศ พบว่าแคลอรีที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นผลมาจาก “อาหารพร้อมรับประทาน” หรือ “อาหารสะดวกซื้อที่นำไปอุ่นความร้อน” เช่น พิซซ่า และเบอร์เกอร์ฟาสต์ฟู้ดแช่แข็ง ที่มีแคลอรีเพิ่มขึ้นจาก 2.2% เป็น 11.2% และผลการศึกษาพบว่าแคลอรีจากของความหวานในขนมที่บรรจุหีบห่อก็เพิ่มขึ้นจาก 10.6% เป็น 12.9% อีกด้วย
ซึ่งอาหารแปรรูปพิเศษ หรืออาหารแปรรูปแต่งกลิ่นแต่สีนั้นมีส่วนผสมเพิ่มเติมหลายอย่าง เช่น เกลือ น้ำตาล สีสังเคราะห์และสารกันบูด และยังมีอาหารที่สกัดเพิ่มเข้าไปในอาหารแปรรูปสูงอีกด้วย เช่น ไขมัน แป้ง และไขมันเติมไฮโดรเจน หรือไขมันทรานส์ที่ทำลายสุขภาพ (เนยเทียม เนยขาว มาร์การีน ครีมเทียม) เป็นต้น
อาหารแปรรูปทั่วไปได้แก่ เฟรนช์ฟราย เบอร์เกอร์ ฟาสต์ฟู้ด ซีเรียล ฮอตดอก อาหารแช่แข็ง น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยวรสเค็มและหวาน เค้ก คุกกี้ และอาหารประเภทเนื้อที่กินเป็นอาหารกลางวัน เช่น แฮมชนิดแผ่น พูดง่ายๆ ว่าอาหารแปรรูปพิเศษต่างจากอาหารแปรรูปทั่วไปที่มีการเติมส่วนผสมหลายอย่างเข้าไป และอาหารกลุ่มนี้ก็ต่างจากอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปอย่างสิ้นเชิง
โดยอาหารแปรรูปที่มีแคลอรีสูงเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวสำหรับเด็ก เช่น โรคอ้วนในเด็ก โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่อีกด้วย
อ้างอิงจาก
https://www.thaipost.net/main/detail/116730