ในช่วงนี้เด็กๆ กำลังอยู่ในช่วงปิดเทอม จึงมีเวลาว่างมากกว่าปกติ ซึ่งอาจทำใช้หน้าจอมากขึ้น รวมไปถึงการติดเกม ที่อาจส่งผลกระทบและนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ได้ หากหมกมุ่นมากเกินไป
นายแพทย์วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น และโฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การที่เด็กติดเกมมากเกินไปย่อมนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ได้ ทั้งการเรียนที่ตกต่ำลง ปัญหาครอบครัว และสุขภาพจิต ซึ่งสัญญาณว่าเด็กกำลังติดเกมมากเกินไปก็จะทำให้พฤติกรรมเปลี่ยน เช่น ไม่พูดคุยกับใคร อารมณ์โมโห ฉุนเฉียว
ซึ่งพ่อแม่จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด มีเวลาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และมีการพูดคุยเรื่องต่างๆ กับลูกอยู่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมก็ควรหากิจกรรมทำร่วมกัน หรืออาจมีการกำหนดเวลาในการเล่นเกมที่ชัดเจน ว่าเล่นได้กี่ชั่วโมง และเล่นได้หลังจากที่ทำอะไรเสร็จ
ถ้าจะให้ดี พ่อกับแม่ก็ควรลงไปเล่นเกมกับลูกเลย อย่างน้อยเราก็จะได้รู้เนื้อหาของเกมและคุยกับลูกรู้เรื่องมากกว่าการห้ามแบบที่ไม่รู้อะไรเลย ที่สำคัญที่สุด พ่อแม่จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้จอให้กับลูก เช่น ไม่เล่นมือถือตอนกินข้าว และควรหาเวลาที่ทุกคนในครอบครัวไม่ใช้หน้าจอเลย แล้วเอาเวลามาทำกิจกรรมร่วมกัน
อ้างอิงจาก