จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การได้รับวัคซีนที่ดีและมีคุณภาพโดยเร็วจะช่วยให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประชาชนกลุ่มใดก็ตาม ล่าสุดทางกระทรวงศึกษาธิการได้เผยว่า หากปลายเดือนกันยายนนี้มีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามา จะนำมาฉีดให้เด็กนักเรียนที่อายุ 12-18 ปี
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (26 ส.ค. 63) นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย สอบถามน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิดให้นักเรียนว่า จะดำเนินการได้เมื่อใด เพราะทุกวันนี้โรงเรียนเปิดเรียนไม่ได้ การเรียนออนไลน์ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงอยากให้เด็กได้ฉีดวัคซีนจะได้กลับไปเรียนได้
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงตอบแทนว่า แม้กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้ตั้งงบประมาณซื้อวัคซีนฉีดให้เด็กนักเรียนไว้ แต่ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขว่าทันทีที่วัคซีนไฟเซอร์ที่สามารถฉีดให้เด็กและเยาวชนอายุ12-18 ปี แม้เข้ามาปลายเดือนกันยายน 2-3 ล้านโดส จะนำมาฉีดให้แก่นักเรียนอายุ12-18 ปี มีอยู่ 4 ล้านกว่าคน ให้เร็วที่สุด
ส่วนจำนวนครูและบุคลากรการศึกษามีเกือบ 9 แสนคน ยอดล่าสุด เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ได้ฉีดวัคซีนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาไปแล้วเกือบ 6 แสนคน เหลืออยู่ประมาณ 3.2 แสนคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
อ้างอิงจาก
https://www.matichon.co.th/politics/news_2906124