ในช่วงที่ฝนยังตกกระหน่ำในเกือบทุกพื้นที่ของประเทศไทย แม่ๆ อย่างเรานอกจากจะต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันฝนตกให้ลูกน้อยแล้ว สสส. เขายังเตือนให้ช่วยกันป้องกันโรคที่เกิดจากหน้าฝนด้วย โดยเฉพาะ “โรคไข้เลือดออก” โรคระบาดยอดฮิตของเด็กๆ ที่มีแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายที่บริเวณแอ่งน้ำทุกที่
โดยอายุของเด็กที่ติดไข้เลือดออก จะประมาณ 10 – 24 ปี คาดว่าในช่วงนี้จะมีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น เพราะมีพายุฤดูร้อนและฝนตกเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ทำให้มีน้ำขังตามภาชนะต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออก จึงขอแนะนำประชาชนให้ดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว
ควรหลีกเลี่ยงการซื้อยารับประทานเอง หากจำเป็นให้ใช้เฉพาะยาพาราเซตามอล โดยห้ามใช้ยากลุ่ม NSAID (non-steroidal anti-inflammatory drug) เช่น ยาแอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน เพราะอาจทำให้เลือดออกมากขึ้น หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
จึงขอให้ทุกคนและทุกครอบครัวช่วยกันป้องกัน และกำจัดยุงลาย โดยเน้นมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ
1. เก็บบ้าน ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง ล้างคว่ำภาชนะ และเปลี่ยนน้ำในกระถาง หรือแจกันทุกสัปดาห์
2. เก็บขยะ เศษภาชนะ ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
3. เก็บน้ำ ปิดฝาภาชนะใส่น้ำให้มิดชิด ป้องกันยุงลายวางไข่ และเน้นการป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยทายากันยุง นอนในมุ้ง
โดยจะสามารถป้องกันได้ถึง 3 โรค ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย และหากมีอาการไข้สูง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หน้าแดง ปวดศีรษะ มีรอยจ้ำเลือดสีแดงตามลำตัว แขน ขา หรือสงสัยว่าป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกให้รีบพบแพทย์ทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.thaihealth.or.th