อย่างที่รู้กันว่าปลาเป็นอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ซึ่งช่วยให้เด็กได้รับสารอาหารที่ดี นอกจากนี้การที่กินปลาตั้งแต่เด็กยังช่วยลดการเกิดโรคเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (allergic rhinitis) หรือไข้ละอองฟาง (hay fever) ได้ด้วย อีกทั้งการให้เด็กได้ใกล้ชิดกับฟาร์มหรือสัตว์เลี้ยงตามฟาร์ม ก็ยังช่วยป้องกันโรคนี้ได้เช่นกัน
จากงานวิจัยของแพทย์หญิงเอ็มมา ก๊อกซอร์ จากภาควิชากุมารแพทย์ มหาวิทยาลัยโกเทนเบิร์กของสวีเดน ที่ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาดังกล่าวในวารสาร Pediatric Allergy and Immunology (PAI) ได้มีการศึกษาระยะยาวในเด็ก 4,000 คน ตั้งแต่ปี 2003 โดยให้พ่อแม่ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพของลูกเป็นระยะ ตั้งแต่ 6 เดือนจนถึง 12 ปี
ผลงานวิจัยพบว่าเด็กในงานวิจัยมีอาการภูมิแพ้และไข้ละอองฟางถึง 20% ในจำนานนี้เป็นเด็กชายถึง 57% กว่าครึ่งแพ้ละอองแกสร สัตว์มีขนฟู ซึ่งมีอาการเริ่มเป็นครั้งแรกเมื่อมีอายุ 8 ปี
แต่เด็กที่พ่อแม่ให้กินปลามาตั้งแต่ยังเล็ก อย่างน้อยเดือนละครั้ง กลับมีแนวโน้มที่จะป่วยด้วยโรคนี้ต่ำมาก โดยเฉพาะเด็กที่กินปลาตั้งแต่อายุ 12 เดือน นอกจากนี้แม่ที่รับประทานน้ำมันปลาระหว่างตั้งครรภ์ก็มีแนวโน้มที่ลูกจะเกิดมาโดยปราศจากอาการแพ้อาหาร ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (Eczema) หรือโรคหอบหืดสูงกว่าด้วย
ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นอีกว่าเด็กที่อาศัยอยู่ใกล้ฟาร์มปศุสัตว์ตั้งแต่อายุ 4-12 ปี มีอาการภูมิแพ้น้อยกว่าเด็กกลุ่มอื่นถึงครึ่งหนึ่ง โดยสันนิษฐานว่า เด็กมีภูมิต้านทานที่ดีเกิดจากการได้สัมผัสกับจุลินทรีย์ชนิดต่าง ๆ จากสัตว์เลี้ยงอย่างหลากหลายแต่อายุยังน้อย ดังนั้นพ่อแม่จึงควรพาลูกไปเที่ยวฟาร์มเป็นประจำตั้งแต่ยังเด็ก ก็จะช่วยลดการเกิดโรคภูมิแพ้ได้
อ้างอิงจาก