เมื่อมีสิว หลายๆคนก็อาจจะทายาแต้มสิว หรือบางคนก็หายารับประทานเองซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงที่มักจะรักสวยรักงาม ถึงแม้ว่าจะท้องเจ้าตัวเล็กอยู่แต่เราก็อยากดูดีเป็นธรรมดา แต่ในบางครั้งคุณแม่ก็ต้องระมัดระวังในเรื่องของการใช้ยาด้วยนะคะ โดยเฉพาะยารักษาสิว เนื่องจากหากซื้อรับประทานเองอาจทำให้ลูกในครรภ์พิการได้
ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมียารักษาสิวประเภทกรดวิตามินเอ ที่มีชื่อว่า Isotretinoin (ไอโซเทรติโนอิน) เป็นยารักษาสิวชนิดที่มีผลข้างเคียงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยขณะที่รับประทานยาจำเป็นที่จะต้องคุมกำเนิดร่วมด้วย
เนื่องจากยาชนิดดังกล่าวจะมีผลต่อเด็กในครรภ์ คือ เมื่อรับประทานยาชนิดนี้เข้าไปแล้ว สามารถทำให้เด็กมีโอกาสพิการได้หลายรูปแบบ เช่น เกิดการพิการทางกะโหลกศีรษะ สมอง หัวใจ แขนขา เป็นต้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการสั่งจ่ายจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเท่านั้น ถึงแม้ว่ายาชนิดนี้จะเป็นยาที่มีคุณสมบัติที่ดี คือทำสิวที่เป็นอยู่ยุบตัวลงและช่วยในเรื่องของการควบคุมความมันบนใบหน้า แต่ก็มีผลข้างเคียงหลายอย่าง
ผู้หญิงในช่วงวัยที่แต่งงานแล้วหรือกำลังวางแผนที่จะมีบุตร การประเมินความเหมาะสมในการใช้ยาควรมาจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังเท่านั้นซึ่งในต่างประเทศเองได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยต้องตรวจก่อนว่าไม่ตั้งครรภ์ในขณะที่เริ่มทานยา และในระหว่างที่ทานยาก็ต้องดูรอบเดือนด้วยว่าไม่ตั้งครรภ์จนกว่าจะหยุดยา
แต่ในประเทศไทยยารักษาสิวชนิดนี้กลับหาซื้อได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นจากร้านขายยาทั่วไป ร้านทำผม หรือแม้กระทั่งในโลกออนไลน์ที่มีการแพร่ระบาดของยาชนิดนี้อยู่ในปัจจุบันด้วยชื่อ “ยาหน้าใส” ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ายานั้นเป็นยาปลอมหรือไม่ด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรซื้อยารักษาสิวชนิดนี้มาทานเองนะคะ เพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และเด็กค่ะ
อ้างอิงจาก
