นมแม่ถือเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับเด็กทารก เพราะมีสารอาหารกว่า 200 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตทางกาย พัฒนาสมอง จอประสาทตา รวมทั้งเป็นอาหารที่ย่อยง่าย และถูกสร้างมาให้เหมาะสมที่สุดกับสภาพร่างกายของทารกในแต่ละช่วงอายุช่วยให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรง ส่งเสริมเรื่องสติปัญญา อารมณ์ และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
ซึ่งหากแม่ๆ เปลี่ยนให้เด็กๆ รับประทานจากนมแม่มาเป็นนมข้นหวานนั้น เรียกได้ว่าไม่เหมาะสมสำหรับการเป็นอาหารเด็ก เนื่องจากนมข้นหวานมีส่วนประกอบหลักแค่ไขมัน น้ำตาล โซเดียม ซึ่งต่างจากนมแม่ และนมผงดัดแปลงสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นนมสำหรับเลี้ยงเด็กโดยเฉพาะ จึงห้ามนำมาใช้เลี้ยงทารก หรือห้ามใช้เพื่อเสริมคุณค่าทางอาหารแทนนมแม่ หรือนมผงสำหรับทารก อาจทำให้ทารกและเด็กเล็กเสี่ยงต่อภาวะขาดโปรตีน พลังงาน และสารอาหาร ส่งผลให้มีภูมิคุ้มกันต่ำ ติดเชื้อง่าย และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ดังนั้น เด็กทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน ควรกินนมแม่อย่างเดียว โดยไม่ต้องให้น้ำหรืออาหารอื่น หลังจากนั้นกินนมแม่ควบคู่กับการเริ่มอาหารตามวัย หากเด็กอายุเกิน 1 ปี สามารถกินนมกล่อง UHT หรือ พาสเจอไรซ์ ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่าได้
อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และให้อาหารตามวัยแก่ทารกและเด็กอย่างเหมาะสมนั้น สามารถปฏิบัติได้ ดังนี้
1. ให้นมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน ไม่ต้องให้อาหารอื่นแม้แต่น้ำ
2. เริ่มให้อาหารตามวัยที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ทุกวัน ตามวัยหลังอายุ 6 เดือน ควบคู่กับนมแม่
3. เพิ่มจำนวนมื้ออาหารตามวัยเมื่ออายุลูกเพิ่มขึ้น จนครบ 3 มื้อ เมื่ออายุ 10-12 เดือน
4. ค่อยๆ เพิ่มปริมาณ และความหยาบของอาหารขึ้นตามอายุ
5. ให้อาหารรสธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการปรุงแต่งรส
6. ให้อาหารสะอาดและปลอดภัย
7. ให้ดื่มน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน และน้ำอัดลม
8. ฝึกวิธีดื่มกินให้สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัย
9. เล่นกับลูกสร้างความผูกพัน หมั่นติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการ