เด็กเล็กๆ ร่างกายยังไม่แข็งแรงจึงทำให้ป่วยง่ายโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนแบบนี้ ซึ่งฤดูฝนเป็นช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคมากที่สุด พ่อแม่จึงควรใส่ใจในสุขภาพของลูกมากเป็นพิเศษค่ะ
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนพ่อแม่ ผู้ปกครองต้องใส่ใจดูแลสุขภาพเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนเป็นพิเศษ เพราะเสี่ยงป่วยง่ายจากโรคติดต่อ ระหว่างเด็กที่หลักๆ ก็จะมีอยู่ 5 โรคได้แก่
1.โรคมือ เท้า ปาก : มีอาการจุดตุ่มแดงอักเสบที่ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม นอกจากนี้ยังมีตุ่ม หรือผื่นนูนสีแดงเล็กๆ ที่ฝ่าเท้า และมีไข้ วิธีการป้องกันคือ ล้างมือให้สะอาดหลังการขับถ่าย และดูแลความสะอาดของใช้ต่างๆ อยู่เสมอ
2.โรคไข้หวัดและโรคไข้หวัดใหญ่ : โดยอาการจะมีไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดศรีษะ ไอ จาม หรือ มีน้ำมูกไหล วิธีป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ คือ ล้างมือด้วยเจลล้างมือทุกครั้งเวลาดูแลลูก สอนให้ลูกเช็ดน้ำมูก และปิดปากปิดจมูกเวลาไอ หรือจาม
3.โรคตาแดง : เป็นโรคที่เกิดการแพร่ระบาดในศูนย์เลี้ยงเด็กเล็กหรือโรงเรียนได้ง่าย เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส โดยสามารถติดต่อได้ทางการสัมผัสขี้ตา น้ำตา หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรใช้ยาหยอดตาเพื่อลดอาการระคายเคือง และหมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ
4.โรคอาหารเป็นพิษ : เป็นโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ หากพบว่ามีอาการท้องเสีย ปวดท้องและมีไข้สูง ปวดศีรษะ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อเป็นการป้องกันจึงควรใส่ใจถึงความสะอาดของอาหารเป็นอย่างมาก ควรปรุงสุกและไม่เก็บอาหารที่เสียง่ายค้างคืนไว้
5.โรคไข้เลือดออก : มีอาการไข้สูง ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ถ้ามีอาการอาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือด แสดงว่าเข้าสู่ภาวะอันตราย เด็กอาจจะมีภาวะช็อค ควรรีบเข้ารับการรักษาโดยด่วน ส่วนวิธีการป้องกันคือ ระวังอย่าให้ยุงกัด ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
การดูแลเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนไม่ให้ป่วยง่ายพ่อแม่ต้องสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ลูก โดยให้กินอาหารครบ 5 หมู่ ต้องปรุงสุก และให้กินผักหรือผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามิน ดื่มน้ำอุ่นให้มากๆ ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก ล้างมือเป็นประจำ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอถึงจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะป่วยลงได้
อ้างอิงจาก