คลิปของเด็กนักเรียนประถมที่แบกกระเป๋าไม่ไหวจนล้มหงายหลัง เป็นที่ถกเถียงและพูดถึงกันในโลกโซเชียลมีเดียกับคลิปที่ถูกแชร์ไปจำนวนมากในขณะนี้ บ้างก็ว่าเป็นคลิปที่ตลก น่าเอ็นดู บ้างก็อ้างถึงเรื่องการศึกษาไทยที่แลกสุขภาพของเด็กกับการเรียนรู้ ว่าถ้าหากโครงสร้างการศึกษาไทยดี เด็กก็คงไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักแบบนี้
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงไปในพื้นที่ ม.2 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล และพบกับเด็กหญิงดังกล่าว เป็นเด็กชั้นเรียนป. 1 อายุ 7 ขวบ โดยบ้านของเด็กนั้นห่างจากโรงเรียนเพียง 1 กิโลเมตร
นางสาวสุชาดาผู้เป็นแม่ของเด็กได้เผยว่าของในกระเป๋าของน้องนั้นไม่ใช่หนังสือ แต่เป็นนมโรงเรียน 1 วัน ในวันนั้นโรงเรียนเรียนแค่ครึ่งวัน ในกระเป๋ามีสมุดหนังสือ 4 เล่ม ด้วยความดีใจที่ได้นมลังใหม่ เห็นพื้นที่กระเป๋ายังว่าง น้องจึงใส่กระเป๋าหิ้วกลับบ้าน
ทางคุณแม่ยังได้เล่าต่อว่า ปกติตนจะขับรถไปรับตอนเที่ยงทุกวัน เพราะปกติจะมารับในวันที่แจกนมเพราะเด็กไม่สามารถถือลังกลับไปเองได้ แต่พอไปรับก็ไม่เจอลูก จึงตกใจ พอตนขับรถออกจากโรงเรียน จึงเห็นลูกของตนนั่งรออยู่ที่บริเวณออกกำลังกายเพราะหมดแรง
น้ำหนักกระเป๋านักเรียนที่หนักเกินไปสามารถส่งผลต่อร่างกายและสรีระได้ในระยะยาว เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยมักจะเกิดกับเด็กนักเรียนอายุ 7 – 10 ขึ้นไป ซึ่งตามมาตรฐานแล้ว กระเป๋านักเรียนควรหนักดังนี้:
- ประถม 1-2 ควรแบกน้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม
- ประถม 3-4 ควรแบกน้ำหนักไม่เกิน 3.5 กิโลกรัม
- ประถม 5-6 ควรแบกน้ำหนักไม่เกิน 4 กิโลกรัม
แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่น่าเป็นห่วงของการที่เด็กออกไปโดยพลการ อาจจะเจออุบัติเหตุนอกโรงเรียนได้
อ้างอิงจาก https://www.thairath.co.th/news/local/south/2297337