ทุกวันนี้เพราะมีโรคระบาดของโควิด-19 ทำให้เด็กๆ ต้องอดไปโรงเรียน รวมถึงตัวคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องทำงานอยู่ที่บ้านเพื่อป้องกันให้ไม่นำเชื้อโรคเข้ามาในบ้านจึงทำให้เกิดช่วงเวลาที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกันโดยไม่คาดคิดซึ่งการอยู่บ้านร่วมกันในระยะเวลาที่นานเกินไป อาจส่งผลให้อารมณ์ของทุกคนเศร้าหมองลงได้ และปัญหานี้เองก็อาจรวมไปถึงพัฒนาการของลูกที่ไม่สามารถเติบโตได้สมวัย หรือรวดเร็วเท่าที่ควรกับการได้ออกไปวิ่งเล่น, ออกกำลังภายนอกบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ทักษะในการเข้าสังคมหรือความคิดสร้างสรรค์เองก็เช่นกันที่อาจจะไม่ได้เปิดกว้างเท่าที่ควร
แต่ปัญหาทุกอย่างก็ย่อมมีทางออกค่ะซึ่งสิ่งที่เราจะมานำเสนอเพื่อช่วยกระตุ้นให้เจ้าตัวเล็กของเรามีพัฒนาการที่ดีได้ด้วยการพาเข้าครัวนั่นเอง ซึ่งการเข้าครัวนั้นจะช่วยได้อย่างไรบ้าง จะทำให้คนเก่งของเรามีจินตนาการ และความสุขจริงๆ ได้ไหมนั้น ลองมาตามอ่านกันเลย!
ขอบคุณข้อมูลและโครงการดีๆ จาก Nestlé for Healthier Kids TH ค่า
ปัญหาที่มักพบเจอ พอลูกอยู่บ้านเป็นเวลานาน
อย่างที่ทุกการแพทย์เคยบอกไว้ว่าเป็นเด็ก จะต้องเล่น ต้องเลอะเพื่อพัฒนาการที่ดีของร่างกาย และสมองใช่ไหมคะ แต่กลับกลายเป็นว่า ในช่วงโควิดแบบนี้ เด็กเกือบทุกช่วงอายุต้องกักตัวอยู่ที่บ้านซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการพัฒนาการ และสุขภาพซึ่งสิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือ
- โรคออฟฟิสซินโดรมในเด็ก ซึ่งหากต้องให้เด็กนั่งอยู่หน้าจอทั้งวันเพื่อเรียน ก็อาจจะทำให้เกิดโรคนี้ขึ้นได้ก่อนวัยอันควร
- โรคอ้วน, ทานผักไม่เพียงพอ เพราะว่าเด็กจะไม่ได้ขยับร่างกายไปไหนจากจอ ส่งผลให้ไม่ได้ใช่พลังงานอย่างเต็มที่ และกลายเป็นการสะสมไขมันเกินจำเป็นในที่สุด
- ภาวะเตี้ย, แคระแกรน เกิดจากการทานอาหารที่ไม่ได้สารอาหารครบถ้วน, ไม่หลากหลาย
การเข้าครัวทำให้เกิดเวลาคุณภาพ
จากปัญหาที่เราได้พบเจอกับช่วงโควิดที่ทำให้เด็กๆ ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน รวมถึงตัวคุณพ่อคุณแม่เองก็เช่นกันซึ่งในความจริงแล้ว ช่วงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน ควรเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้เรียนรู้ และมีความสุขร่วมกันมากกว่า แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ เลยทำให้ช่วงเวลานี้หมองลงไปอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นเราจะมากอบกู้เวลาเหล่านี้ให้กลายเป้นช่วงดีๆ ด้วยการชวนกันเข้าครัวค่ะ ซึ่งการเข้าครัว 1 ครั้ง เหมือนการที่ให้เด็กได้เรียน 7 วันเลยทีเดียว
ในการเข้าครัวนั้น ไม่ใช่เพียงเพราะทำอาหารให้ได้รสชาติที่ถูกปาก แต่นั่นหมายถึงการได้ทำกิจกรรมร่วมกันโดยมีมื้ออาหารเป็นสายสัมพันธ์เชื่อมให้เกิดสิ่งดีๆ ขึ้น ซึ่งประโยชน์ที่จะได้จากการเข้าครัวคือ
- เราได้ใช้เวลากับสมาชิกในครอบครัวมากขึ้น ทั้งการช่วยเหลือ, พูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็นกัน
- ลูกได้มีพัฒนาการในการฝึกสิ่งต่างๆ ของร่างกายไม่ว่าจะเป็น การได้กลิ่น, รับรส, ใช้กล้ามเนื้อมัดมืออย่างเต็มที่ในการหยิบจับสิ่งของต่างๆ ได้ฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างสร้างสรรค์
- เกิดการเรียนรู้ และทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆ ในครัวมากขึ้น อาทิ การเก้บรักษาผัก-เนื้อสด, การใช้ของมีคม, การปรุงรสอาหาร
หลัก 3อ ช่วยแก้ปัญหา อาหาร ออกกำลัง อารมณ์
ในภาวะเครียดหรือรู้สึกอ่อนล้าจากความรู้สึกสามารถช่วยแก้ได้ด้วยหลัก 3 อ นั่นก็คือ หลักของอาหาร, ออกกำลัง, อารมณ์ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้สามารถช่วยควบคู่กันไปได้ด้วยการเข้าครัวนั่นเองค่ะซึ่งการเข้าครัวนั้นจะช่วยในเรื่องต่างๆ ได้ดังนี้
- อาหาร คือส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วยอาหารที่มีรสชาติอร่อย และอุดมไปด้วยประโยชน์ การเข้าครัวจะทำให้มื้ออาหารในแต่ละวันมีความพิเศษ
- ออกกำลัง เมื่อเข้าครัวจะทำให้เราและลูกได้ขยับตัว ทั้งการผัด, การคน หรือแม้แต่การเก็บกวาดล้างหลังทำเสร็จเอง ก็จะช่วยให้ได้มีการขยับโยกย้ายร่างกายมากกว่าแค่การนั่งทำงานหรือนั่งมองหน้าจออย่างแน่นอน!
- อารมณ์ ดีๆ มักเกิดขึ้นได้จากการพูดคุย การเข้าครัวจะทำให้ทุกคนในบ้านได้มีการสร้างสัมพันธ์ ได้ช่วยเหลือ และแลกเปลี่ยนความเห้นกัน รวมไปถึงได้สอนเคล็ดลับดีๆ ให้แก่กันในการประกอบอาหารด้วย
ห้องครัวคือสนามเด็กเล่นของลูก ช่วยให้เขาได้ทักษะที่จำเป็น
เพราะการเข้าครัวไม่ได้จำกัดแค่ว่าต้องทำอาหารและจบไป แต่นั่นหมายถึงการได้ทำเมนูต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ ทั้งยังช่วยให้เกิดทักษะต่างๆ ที่คาดไม่ถึง เช่นการช่วยเหลือตนเองได้ในอนาคต เพราะการที่เด็กๆ ของบ้านได้ลองทำอาหารเอง จะช่วยให้เขามีความมั่นใจ และเรียนรู้ที่จะดูแลผู้อื่น เขาจะเริ่มเข้าใจว่าการเป็นที่พึ่งให้คนอื่น ต้องทำอย่างไร ซึ่งปกติแล้ว เด็กนั้น จะมีอยู่ 2 โหมด ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเรียนรู้คือ
- พึ่งพาตัวเอง
- พึ่งพาคนอื่น
หากเราให้เขามีการเข้าครัวก็จะสามารถพัฒนาโหมดแรกขึ้นมาให้ก้าวกระโดดได้ อาทิ เมนูนี้ ให้ลูกได้เป็นคนปรุงรส, เมนูนี้ให้ลูกเป็นคนตักเสิร์ฟ ก็จะทำให้ลูกมีความกล้า และอยากทำอยู่เรื่อยๆ เพื่อดูแลผู้อื่น และในโหมดสองเอง มันคือสนามเด็กเล่นที่ทำให้เขาได้เพิ่มพูนประสบการณ์ และเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นคนกลายเป็นเด็กที่พึ่งพาตนเองได้จริงๆ ค่ะ
แต่ในทางกลับกัน หากเราเป็นคนทำให้ลูกเองทุกอย่าง และให้เขารอรับประทานอย่างเดียว เขาก็จะติดนิสัยรอคนอื่นทำให้ ไม่ทำด้วยตัวเอง และด้วยความรู้สึกนี้ ก็จะติดนิสัยไปจนโตที่ต้องรอคนอื่นมาช่วยเหลือเสมอเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ไม่ไขว่คว้าด้วยตนเอง และกลายเป็นเด็กที่อยู่ในโหมดพึ่งพาคนอื่น