Parents One

เตือนภัยสุขภาพเด็ก!! อันตรายจากขนมขบเคี้ยว

ปัจจุบันขนมขบเคี้ยวมีให้เลือกซื้อ เลือกทานมากมาย ด้วยหน้าตาและสีสันที่น่ารับประทาน รสชาติอร่อย บางชนิดมีของเล่นในซองให้อีกด้วย ซึ่งขนมขบเคี้ยวส่วนใหญ่มักทำจากแป้ง น้ำตาล ไขมัน ล้วนให้เพียงพลังงานแต่คุณค่าทางโภชนาการต่ำ แต่เด็กๆ กลับชอบรับประทานมากกว่าอาหารมื้อหลัก เป็นสาเหตุที่ทำให้มีปัญหาสุขภาพ และทำให้การเจริญเติบโตช้าลง วันนี้จะพาไปดูโทษและอันตรายจากขนมขบเคี้ยวเหล่านี้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

1. เป็นสาเหตุของโรคอ้วน

ขนมขบเคี้ยวบางชนิดมีรสหวาน ไม่ว่าจะเป็นลูกอม หมากฝรั่ง เยลลี่ ซึ่งมีการเติมสารให้ความหวานและน้ำตาลลงไปเป็นจำนวนมาก เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วไม่มีการเผาผลาญ กลูโคสในน้ำตาลจะแปรสภาพเป็นไขมันและเกาะตามส่วนต่างๆ ของร่างกายทำให้อ้วนได้ อีกทั้งเด็กๆ บางคนยังชอบทานขนมมากกว่ามื้อหลักทำให้ได้สารอาหารไม่ครบถ้วนอีกด้วย

2. เป็นสาเหตุของฟันผุ

น้ำตาลในขนมขบเคี้ยวต่างๆ ยังเป็นสาเหตุของฟันผุ เมื่อน้ำตาลเข้าไปเกาะตามรูเล็กๆ บริเวณผิวฟัน จะเกิดเป็นคราบพลักซ์ ยิ่งเด็กๆ บางคนที่แปรงฟันไม่สะอาด หรือไม่ชอบแปรงฟัน จะทำให้ฟันดำหรือผุในที่สุดค่ะ

3. เป็นสาเหตุของโรคไต

ขนมขบเคี้ยวส่วนใหญ่จะมีการเติมเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ ยิ่งเป็นขนมทอดกรอบจำพวกมันฝรั่งหรือแป้งทอดปรุงรสด้วยแล้ว ยิ่งมีทั้งการแต่งสี กลิ่นและใส่ผงชูรสร่วมด้วย หากรับประทานเข้าไปในปริมาณมากไตที่ทำหน้าที่กำจัดเกลือและของเสียจะทำงานหนักขึ้น ดังนั้นควรรับประทานแต่พอดีหรือหากเป็นไปได้ให้งดรับประทานไปเลย

4. เป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง

ขนมขบเคี้ยวจำพวกช็อกโกแลตหรือขนมอบเคลือบช็อกโกแลตล้วนเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากในช็อกโกแลตมีสารหลายอย่างทั้ง เฟนิลไธลามิน, ธีโอโบรไมน์ และกาเฟอีนซึ่งหากรับประทานมากเกินไปจะทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงและทำให้เกิดความดันโลหิตสูงตามไปด้วย

5. เป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด

ขนมขบเคี้ยวที่ใช้น้ำมันในการทอดไม่ว่าจะเป็นแป้ง ถั่ว และเมล็ดพืชทอดกรอบเป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดสูงได้ทั้งนั้น หากรับประทานมากเกินไปไขมันไม่ดีเหล่านั้นจะสะสมตามชั้นผิวหนังทำให้เกิดเซลลูไลท์และหากสะสมในเส้นเลือดจะทำให้การลำเลี้ยงเฮโมโกบินไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ไม่ดี เป็นสาเหตุของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดสูงได้

6. เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง

สำนักงานอาหารแห่งประเทศสวีเดนวิจัยพบว่า อาหารที่ถูกทอดหรืออบด้วยความร้อนสูง เช่น มันฝรั่งทอด ขนมปังกรอบและบิสกิตนั้นมีสารอะคริลาไมด์ (Acrylamide) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งประกอบอยู่ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ทอดในน้ำมันที่ถูกใช้ปรุงอาหารเกินสองครั้งนั้นพบว่า มีสารก่อมะเร็งที่เกิดจากการแตกตัวของน้ำมันที่เสื่อมสภาพ ซึ่งหากบริโภคติดต่อกันก็อาจเข้าไปสะสมในร่างกายและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร

ขนมขบเคี้ยวมักมี แป้ง น้ำตาล ไขมัน ผงชูรส เกลือ กลิ่นและสีปรุงแต่งอาหาร ถือว่าเป็นอาหารขยะ เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการน้อย แต่ก็มีขนมอีกหลายอย่างที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์เป็นขนมขบเคี้ยวระหว่างมื้อได้ดีกว่า เช่น ถั่วอบกรอบ ผลไม้สด โอ๊ตบาร์ ดาร์กช็อกโกแลต เป็นต้น ดังนั้นการเลือกบริโภคอาหารที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นอย่างมาก เพราะหากรับประทานขนมขบเคี้ยวที่ไม่มีประโยชน์เข้าไปในปริมาณมาก จะส่งผลต่อสุขภาพและสร้างนิสัยการกินของเด็กๆ ที่ไม่ดีในอนาคตค่ะ

ที่มา –