ถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยู่ในวงการการเขียนแพลนเนอร์ อาจจะคุ้นเคยกับ mood tracker หรือการบันทึกอารมณ์ของเราในวันนั้นๆ นั่นเอง เพื่อที่เราสามารถดูภาพรวมของช่วงเวลานั้นๆ ว่าเรารู้สึกอย่างไรบ้าง และสามารถทำความเข้าใจกับอารมณ์ของตัวเองในแต่ละวันเช่นกัน ซึ่งวิธีการทำ mood tracker นั้นไม่ยาก และสามารถทำได้ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการชี้ตารางอารมณ์บนโปสเตอร์ จดบันทึกในสมุด หรือทำเป็นตารางไว้ลงสีประจำวัน
วันนี้เราเลยมี Mood Tracker มาแจกให้คุณพ่อคุณแม่สามารถปรินท์ไปใช้กับเจ้าตัวน้อยได้ด้วยค่ะ!
ประโยชน์ของ Mood Tracking ในเด็ก
ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่เครียด เพราะเด็กก็เครียดเป็นเหมือนกัน! ในชีวิตประจำวันของเด็กโดยเฉพาะเด็กเข้าโรงเรียนนั้นไม่ง่ายเลย สิ่งที่ mood tracker สามารถช่วยได้คือการสร้างพื้นที่ให้เขารู้สึกปลอดภัยที่จะแสดงอารมณ์ของตนเอง และทำให้อารมณ์ที่เข้าใจยาก กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ แต่นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อครอบครัวอีกมากมาย อาทิเช่น
- ช่วยเริ่มบทสนทนากับลูกน้อย
- สามารถจับต้นชนปลายว่าความรู้สึกต่างๆ มาจากเหตุการณ์ใด
- สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลให้แก่แพทย์ จิตแพทย์หรือคุณครูได้
- ทำให้เห็นแพทเทิร์นของอารมณ์นั้นๆ และสิ่งที่กระตุ้นความรู้สึกไม่ดีของลูก
- ช่วยให้เด็กเข้าใจตัวเองมากขึ้น
- เสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว
- ส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงความรู้สึกของตัวเอง
- ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจเด็กที่มีปัญหาสุขภาพจิต
ใช้ Mood Tracker กับลูกยังไงดี?
- ตกลงคำศัพท์บอกอารมณ์กับลูก: ก่อนจะใช้ mood tracker ให้พูดคุยกับลูกว่าคำนี้มีความหมายว่าอย่างไรบ้าง อย่างเช่นโกรธ โมโห มีความสุข ตื่นเต้น เหนื่อย เศร้า เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจว่าต้องสื่ออารมณ์เป็นตัวอักษร สี หรือรูปภาพได้เช่นไร
- สร้างระบบตามชอบ: ตามหาวิธีการบันทึก mood tracking ที่ชอบและสะดวก ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์ให้ชี้บอกอารมณ์ ระบายสี แปะสติ๊กเกอร์ หรือเขียนบนกระดานไวท์บอร์ด ซึ่งสามารถปรับใช้ได้ตามชอบและตามความสะดวกของเจ้าหนูน้อยได้เลยค่ะ
- สร้างกิจวัตร เลือกเวลาที่ใช่: เลือกเวลาที่เหมาะสมกับการทำ mood tracker ซึ่งจะแตกต่างกันไปกับเด็กแต่ละคน บางคนอาจต้องการระบายอารมณ์ทันทีหลังเลิกเรียน หรือบางคนอาจต้องการใช้เวลากับตัวเองสักหน่อยก่อนเล่าเรื่องที่เจอมาวันนี้ เลือกเวลาที่คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เวลาพูดคุยกับเจ้าตัวน้อย พร้อมแบ่งปันความรู้สึกให้กันและกันได้ค่ะ
- หาทางฟื้นฟูอารมณ์: เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้รับรู้อารมณ์ของเจ้าตัวน้อยแล้ว ก็สามารถหาวิธีฟื้นฟูอารมณ์ร่วมกัน อาทิเช่น ออกไปเล่นข้างนอก พาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่น หาอะไรอร่อยๆ รับประทานด้วยกันเป็นครอบครัว หรือหากิจกรรมทำร่วมกัน และให้ดีควรสอนวิธีจัดการอารมณ์ให้เขาด้วยนะคะ