ปัญหาโลกแตกอีกปัญหาหนึ่งที่เชื่อว่าคุณแม่ที่มีลูกวัยเข้าโรงเรียนคงต้องปวดหัวเป็นแน่แท้ก็คือจะให้เงินลูกไปโรงเรียนเท่าไหร่ดี ขอบอกว่าขึ้นอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ดังนี้
จำเป็นต้องใช้เงินหรือไม่
เพราะบางโรงเรียนลูกน้อยอาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินเลยก็ได้ ส่วนมากโรงเรียนอนุบาลจะมีของว่างให้กินอยู่แล้ว บางที่ไม่มีร้านซื้อของเลยด้วยซ้ำ ถ้ากรณีนี้ไม่ต้องพกเงินเลยก็ได้ อาจจะดูฐานะของคุณแม่และคุณพ่อประกอบด้วยค่ะ
ดูชีวิตประจำวันของลูกเป็นหลัก
ลองสังเกตดูสักนิดว่าวันๆ นึงลูกทำอะไรบ้าง มีความจำเป็นต้องจ่ายเงินหรือไม่ มีกิจกรรมพิเศษหรือเปล่า พอเข้าสู่วัยประถมแล้วก็จะเริ่มซื้อขนมเองแล้ว ซึ่งต่างกับตอนอนุบาลที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพราะมีของว่างระหว่างวันอยู่แล้ว
ฝึกลูกใช้เงินอย่างไรดี
การฝึกลูกใช้เงินให้เป็นตั้งแต่เด็กเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะวินัยการใช้เงินถ้าสอนลูกตั้งแต่ยังเล็กแล้วจะปลูกฝังได้ง่ายและติดตัวไปจนโตเลยทีเดียว อาจจะลองให้ลูกฝึกใช้เงินจากจำนวนน้อยๆ ก่อน สัก 5 บาท 10 บาทก็ยังดี เพราะการใช้เงินของเด็กในวัยอนุบาลนั้น เป็นการฝึกให้ลูกรู้ว่าเงินนั้นสามารถแลกกับอะไรได้บ้าง โดยไม่ได้เป็นการฝึกให้ลูกเป็นนักช็อปฯมืออาชีพ และที่สำคัญควรฝึกให้ลูกรู้ได้ด้วยถ้าไม่มีเงินลูกๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง
ฝึกให้ลูกใช้สติในการใช้เงิน
การมีสติถือว่าสำคัญมากกับทุกๆ เรื่อง อย่างน้อยให้รู่ถึงค่าของเงินที่ถือว่ามีมากน้อยเพียงใด เช่น คุณแม่อาจสอนให้ลูกรู้ว่าถ้าวันนี้ได้เงินค่าขนม 10 บาท ลูกจะซื้ออะไรได้บ้าง หรือถ้าพรุ่งนี้ได้ 5 บาทเด็กๆ จะซื้ออะไรได้บ้าง หรือถ้าลูกๆ ไม่ได้ใช้เงินค่าขนมเลย ก็สามารถนำเงินหยอดกระปุกไว้ได้ค่ะ
วิธีอธิบายเมื่อลูกอยากได้ของเเพง
แต่เมื่อลูกอยากได้ของที่แพงกว่าค่าขนม ควรสอนลูกให้คิดก่อนว่าอยากได้จริงๆ ไหม จำเป็นหรือไม่ ถ้าลูกอยากได้ขึ้นมา สอนให้เก็บเงินเพื่อให้ได้สิ่งนั้นจะดีกว่าการที่ซื้อให้โดยทันทีค่ะ
ฝึกให้ลูกไม่อยากได้ของตามเพื่อน
เมื่อลูกเริ่มเข้าโรงเรียนแล้ว ย่อมเห็นของเล่นที่เพื่อนๆ มีแล้วอยากได้ตามแน่นอน ควรสอนลูกให้หักห้ามใจและคิดให้ดีก่อนว่าลูกนั้นอยากได้ของจริงๆ หรือแค่อยากได้ตามเพื่อนกันแน่ เป็นการฝึกให้ลูกรู้จักข่มใจเมื่ออยากได้อะไรมากๆ
อย่าเป็นพ่อแม่สายเปย์
อย่างไรก็ตามถ้าลูกเกิดรบเร้าอยากได้อะไรขึ้นมามากๆ แล้วลงไปชักดิ้นชักงอแล้วละก็ อย่าตัดปัญหาด้วยการซื้อให้ทุกครั้ง มิเช่นนั้นจะเป็นการตามใจลูกจนเสียคนเลยก็เป็นได้ ทางที่ดีให้ลูกใช้ความพยายามในการเก็บเงินด้วยตัวเองนั้นน่าภูมิใจมากกว่าเยอะเลยค่ะ
ไม่มีสูตรสำเร็จว่าควรจะให้เงินลูกเท่าไหร่ดี ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ยังไงก็ตามการปูพื้นฐานเรื่องวินัยการเงินก็เป็นสิ่งสำคัญมากไม่แพ้กันค่ะ
ที่มา – women.mthai