หากพูดถึงมะเร็งเต้านมเราเองก็คงจะคุ้นชินกับการที่ผู้หญิงเป็นมากกว่าที่ผู้ชายจะเป็น ซึ่งคุณพ่อๆ ฟังไว้เลยนะคะว่ามะเร็งเต้านมก็สามารถพบในเพศชายได้เหมือนกันค่ะ โดยคนส่วนใหญ่ก็จะไม่รู้เลยว่าผู้ชายก็มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้ จนทำให้ไม่ได้ให้ความสำคัญในการตรวจเท่ากับผู้หญิงสักเท่าไหร่ มาพบอีกทีก็มักจะอยู่ในระดับที่รุนแรงและเป็นอันตรายแล้วนั่นเอง
ถึงแม้โรคนี้จะมีเปอร์เซ็นต์การเกิดที่ผู้ชายน้อย แต่ยังไงหากเรารู้ข้อมูลไว้ก็ไม่เสียหายนะคะ เพราะฉะนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าทำไมผู้ชายถึงเป็นได้ และมีอาการและวิธีการรักษาแบบไหน ไปดูกันเลยค่ะ
ผู้ชายแบบไหนที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
จากสถิติพบว่าโดยทั่วไปในเพศชายจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมตลอดอายุขัยอยู่ที่ 1 ใน 1,000 เท่านั้น และคนที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นจะมีสาเหตุและปัจจัยดังนี้
- คนในครอบครัวมีประวัติ
- พบในชายที่อายุมากขึ้น หรืออายุ 60 ปีขึ้นไป
- มีระดับฮอร์โมนเพศหญิงสูงกว่าปกติ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของ DNA ตั้งแต่กำเนิด โดยเฉพาะอาการไคลน์เฟลเตอร์ (Klinefelter’s syndrome)
- มีโรคตับแข็ง เนื่องจากหากตับเสื่อมสภาพจะส่งผลให้ไม่สามารถทำลายฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ตามปกตินั่นเอง
- เป็นโรคอ้วน หรือภาวะน้ำหนักเกิน
- บริโภคแอลกอฮอล์บ่อยมาก
- ได้รับรังสีที่บริเวณหน้าอก
- ลูกอัณฑะมีขนาดเล็กและเป็นหมันจากการมีตัวอสุจิน้อยเกินไป หรือไม่มีเลย
วิธีตรวจและการสังเกตอาการ ด้วยตัวเองทุกเดือน หลังอายุ 40 ปี
- มีของเหลวออกจากหัวนม (พบบ่อยคือน้ำปนเลือด)
- คลำได้ก้อนที่บริเวณใต้รักแร้
- หัวนมผลุบเข้า หรือบุ๋มเข้าใน
- เต้านมหรือหัวนมแดง
- มีขุยขรุขระบนหัวนม
หากมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมากกว่าควรรีบปรึกษาคุณหมอทันที
ลดความเสี่ยงในการเกิดได้อย่างไร
- หมั่นตรวจเต้านมของตัวเองเป็นประจำ
- หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรเข้ารับการเอกซเรย์เต้านมปีละ 1 ครั้ง
- งดดื่มแอลกอฮอล์
- ควบคุมน้ำหนัก
- ออกกำลังกายรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- หากรู้สึกว่าหน้าอกผิดปกติให้ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว
วิธีการรักษามะเร็งเต้านมในเพศชาย (การรักษาขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็ง)
1. การผ่าตัด : การผ่าตัดเต้านมแบบ Mastectomy คือการ ตัดเอาทั้งเต้านมออก หากมีการแพร่กระจาย ของมะเร็งไปยังต่อมน้ำเหลืองหรือกล้ามเนื้อ หน้าอก จะมีการผ่าตัดทั้งสองส่วนนี้ออกมาด้วย
2. การให้เคมีบำบัด : การรักษาด้วยเคมีบำบัดในเพศชายไม่แตกต่างจากในเพศหญิง โดยไม่จำเป็นว่าคนไข้มะเร็งเต้านมเพศชายทุก คนจำเป็นต้องได้รับยาเคมีบำบัดหรือการ เลือกใช้สูตรยาต้องเหมือนกัน ซึ่งทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ตามพยาธิ สภาพและชนิดของมะเร็ง รวมไปถึงระยะของโรคที่คนไข้เป็น
3. รักษาโดยการฉายรังสี : โดยใช้คุณสมบัติของรังสีคือ สามารถทำลายสารพันธุกรรม (DNA) ภายในเซลล์ ทำให้เซลล์ ได้รับความเสียหายหรือตาย
4. การรักษาด้วยฮอร์โมน : โดยผู้ป่วยจะต้องได้รับการตรวจชิ้นเนื้อว่า เซลล์มะเร็งมีตัวรับฮอร์โมน (hormonal receptor) จึงจะได้รับประโยชน์จากการรักษาชนิดนี้ โดยตัวรับฮอร์โมนที่มีผลต่อเซลล์มะเร็งเต้านมที่ทำการตรวจ มี 2 ชนิด คือ ตัวรับเอสโตรเจน (Estrogen receptor, ER) และตัวรับโปรเจสเตอโรน (Progesterone receptor, PR)
5. การรักษาแบบจำเพาะเจาะจง : การรักษาแบบจำเพาะเจาะจง คือการให้ยาหรือสารที่ไปยับยั้งหรือรบกวน แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
- Monoclonal antibodies : ยากลุ่มนี้มีความสามารถในการจับกับเป้าหมายที่จำเพาะซึ่งอยู่บนผิวเซลล์มะเร็ง ซึ่งมีผลให้เซลล์ถูกทำลายหรือจำกัดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง
- Small molecules : เป็นยากลุ่มที่มีขนาดเล็กสามารถผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าสู่ ภายในเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งมีผลต่อการ สังเคราะห์โปรตีนภายในเซลล์มะเร็ง ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการรักษาด้วยวิธีนี้ เช่น ท้องเสีย อาการทางผิวหนัง ผลต่อตับ ไต และ หัวใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก : hospital.tu.ac.th, phukethospital.com, bangkokbiznews