“เพราะการเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา”
ประโยคของคุณครูโบว์ ตัวแทนของคุณครูสุดพิเศษที่ได้บอกเล่าเรื่องราวถึงความใส่ใจในรายละเอียดของโรงเรียนเล็กๆ ที่ชื่อว่า “โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด (HBIS)” ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนตัดสินใจพาลูกน้อยมาเข้าเรียนตั้งแต่ลูกคนแรก เนื่องจากชื่นชอบและประทับใจความใส่ใจของโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวก และคุณครูที่ทุ่มเทการสอนให้นักเรียนแบบเต็มความสามารถ
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะนอกจากจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแล้ว ยังมี “สมุดพกกายใจ” ที่สามารถบอกอารมณ์ และพัฒนาการต่างๆ ของลูกน้อยตอนอยู่ที่โรงเรียน หรือจะเป็น Splash Zone ที่เด็กๆ ทุกคนชอบมาเล่นละอองน้ำแสนสดชื่น
เหตุผลอะไรที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจเลือก “โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด (HBIS)” ให้เป็นโรงเรียนแรกของลูกน้อยได้ฝึกทักษะ และพัฒนาการในการเรียนรู้ผ่านการเล่น เราไปดูคลิปวิดีโอ และอ่านบทสัมภาษณ์กันเลยค่ะ
จุดเริ่มต้นของโรงเรียนอนุบาลนานาชาติ “ฮัมมิ่งเบิร์ด”
ครูโบว์ : เพราะนกฮัมมิ่งเบิร์ดเป็นนกที่มีความปราดเปรียว ว่องไว เรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋ว สิ่งที่สำคัญมากๆ เลย คือ นกฮัมมิ่งเบิร์ดสามารถบินถอยหลังได้นั่นเองค่ะ ถือว่าเป็นนกที่มีศักยภาพมากๆ ในตัวเอง เราจึงเปรียบเทียบเหมือนกับเด็กเล็กๆ ที่เขาสามารถทำอะไรได้หลายอย่างมากกว่าที่เราคิด
ความใส่ใจในการเลือกหลักสูตรการสอน
ครูโบว์ : “โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด (HBIS)” เราใช้หลักสูตร EYFS จากประเทศอังกฤษ ซึ่งเน้นเรื่องการเรียนรู้ผ่านการเล่น (Play-based Learning) ซึ่งเราจะใช้เรื่องของ EF (Executive Functions) ทักษะที่เกี่ยวกับการพัฒนาสมอง ซึ่งเป็นความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ในปัจจุบันมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เข้ากับโรงเรียน โดยที่เราใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Positive Discipline หรือวินัยเชิงบวก
“สมุดพกกายใจ” ความใส่ใจที่เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ของเด็ก
ครูโบว์ : ทุกๆ สเต็ปของการเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่เพียงเฉพาะตอนที่เด็กอยู่ในห้องเรียน หรือไม่ใช่เฉพาะตอนที่เด็กออกไปข้างนอก ซึ่งพัฒนาการเหล่านี้สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมของเด็กๆ และกิจวัตรประจำวันของเขา ทั้งตอนทานข้าว หรือตอนวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ก็ตาม
จึงเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในการสื่อสารของคุณครูที่ดูแลเด็กๆ ไปยังผู้ปกครองว่าวันนี้ลูกทานได้เยอะไหม? อาหารชนิดใดมากกว่ากัน? ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่ทางโรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด (HBIS) ต้องการสื่อสารไปยังผู้ปกครองให้ทราบ เพื่อให้เกิดการสนับสนุนเกี่ยวกับการเรียนรู้ของเด็กๆ ทั้งตอนที่อยู่ที่บ้าน และอยู่ในโรงเรียนให้เป็นไปได้ด้วยดี เพราะเด็กสามารถเติบโตได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
ใส่ใจด้านความพร้อมของคุณครูผู้สอน
ครูโบว์ : ถ้าเป็นเด็กก่อนอนุบาล (Pre Nursery) จะมีอัตราส่วนคุณครู 1 คน ต่อเด็ก 3 คน ซึ่งในห้องเรียนหนึ่งจะมีเด็กไม่เกิน 15 คน ซึ่งเวลาที่คุณครูจะคุยกับเด็กจะย่อตัวลงคุยกับเขา เพราะมันคือการให้เกียรติ และเคารพนับถือในฐานะมนุษย์ด้วยกัน แถมมันยังเป็นสิ่งที่สื่อออกไปว่า เราอยู่กับเขา เรากับเขาปลอดภัยนะ เด็กๆ เขาจะสามารถเรียนรู้ได้ดีขึ้น
คุณครูที่สอนจะมีใครบ้าง?
- ห้องเรียนเราจะมีคุณครู Lead Teacher ที่เป็นเจ้าของภาษา ซึ่งจะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับเด็กเป็นหลัก
- คุณครู Co-Teacher ซึ่งอาจจะเป็นคุณครูไทย หรือคุณครูต่างชาติก็ได้
- ส่วนสุดท้าย คือ Teaching Assistant หรือคุณครูผู้ช่วย
ซึ่งคุณครูทั้ง 3 ส่วนต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้วินัยเชิงบวก แล้วก็มีความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาสมอง
ใส่ใจเรื่องสถานที่ การออกแบบที่เป็นมิตรกับเด็กเล็ก และเสริมสร้างพัฒนาการ
ครูโบว์ : ของทุกชิ้นในโรงเรียนถูกออกแบบมาเพื่อเด็กเล็กโดยเฉพาะ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 1 ขวบ 6 เดือน จนถึง 6 ขวบ เนื่องจากเด็กวัยนี้กำลังมีพัฒนาการในเรื่องของการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ การวิ่ง การเดิน การหยิบจับ หรือเรื่องของกระบะทราย ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งสำคัญเสมอ เช่น
เวลาที่เล่นทราย เราเล่นอย่างไร? เราจะนั่งลงเล่น จะไม่หยิบทรายให้สูงขึ้น เราจะรู้ว่าจะไม่ปาทรายไปใส่เพื่อน ถ้าคุณครูมีความเข้าใจตรงนี้ ของ 1 ชิ้นที่ใช้ในการเรียนรู้ สามารถพัฒนาได้มากกว่าคนที่ไม่รู้วิธีการใช้เครื่องมือ
-
วิ่งเล่นบนพื้น EPDM
ครูโบว์ : เป็นพื้นยางที่เหมาะสมกับเด็กๆ ในการพัฒนาร่างกาย ถ้าเขาจะวิ่ง หรือกระโดด เราก็ปล่อยให้เขาทำได้เต็มที่ เพราะมีสิ่งแวดล้อมปกป้องร่างกายของเขาแล้ว
-
กำแพงหน้าผาจำลอง
ครูโบว์ : นอกจากนี้ เรายังฝึกในเรื่องของการใช้ EF หรือทักษะสมอง ซึ่งการฝึกพัฒนา EF มักจะเกิดขึ้นเมื่อเราเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นชิน เป็นสิ่งที่เราต้องตัดสินใจ และเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แล้วในฐานะผู้ใหญ่ เราได้เปิดโอกาสให้เขาทำตรงนี้รึเปล่า?
เพราะฉะนั้น สิ่งของที่เด็กเล่น ตั้งแต่หน้าโรงเรียน นั่นคือ กำแพงหน้าผาจำลองสำหรับเด็ก ทำไมเราถึงอยากให้เด็กปีนเข้าโรงเรียน
นั่นเพราะเรามีคอนเซ็ปต์ที่ว่า ถ้าเราไม่อยากเดินเข้าโรงเรียนได้ไหม? เรากระโดดเข้าไปหรือเปล่า? หรือว่าปีนเข้ามาได้ไหม? ส่วนนี้จะทำให้เขารู้สึกสนุกสนาน และอยากมาโรงเรียนมากขึ้น
-
การจัดพื้นที่ของแต่ละห้องเรียน
ครูโบว์ : หรือว่าของที่เราใช้ในห้องเรียน ถ้าสังเกตว่าเราจะจัดมุมต่างๆ จะมีความแตกต่างกัน บางมุมอาจจะเป็นการเลียนแบบอาชีพต่างๆ มีชุดที่พร้อมให้เด็กๆ ได้ลองใส่หลากหลาย เผื่อเป็นการทดสอบจินตนาการว่าเขาคิดเกี่ยวกับอาชีพนั้นๆ เป็นแบบไหนนั่นเอง
-
มุมโต๊ะที่มน
ครูโบว์ : ส่วนบริเวณพื้นที่ภายในห้อง โรงเรียนของเราจะคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เช่น มุมโต๊ะต่างๆ จะมีลักษณะมนทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับบาดเจ็บเมื่อโดน รวมถึงเรื่องพื้นในห้องเรียนก็เป็นพื้นกันเชื้อราด้วยเช่นกัน
-
ธงวัดค่าฝุ่น
ครูโบว์ : ในประเทศไทยช่วงหน้าหนาว จะมีค่าฝุ่นที่ค่อนข้างสูง และมีปริมาณฝุ่นที่เยอะ แต่ที่ “โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด (HBIS)” มีเครื่อง AQI ที่สามารถบอกค่าอากาศ และความหนาแน่นของฝุ่นได้
ซึ่งเด็กอาจจะยังเล็กเกินไปที่จะเข้าใจถึงความหมายของเลขในเครื่อง AQI ที่บอกว่ามีปริมาณค่าฝุ่นมากน้อยเพียงใด รวมทั้งต้องดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อมีค่าเลขค่าฝุ่นที่สูงขึ้น
เราจึงใช้ “ธงวัดค่าฝุ่น” มาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับเด็กๆ ให้รู้จักว่าต้องใส่หน้ากากอนามัยดูแลตัวเองอย่างไร?
-
สติ๊กเกอร์การเรียนรู้
ครูโบว์ : นอกจากนั้น ยังมีสติ๊กเกอร์ที่ใช้ติดบนพื้นและผนัง ซึ่งช่วยฝึกในหลากหลายทักษะ เช่น การสังเกต และการปฏิบัติตามคำสั่งอีกด้วย
-
Splash Zone
ครูโบว์ : ในส่วนของ Splash Zone ซึ่งเป็นพื้นที่ช่วยฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเด็กๆ ด้วย เพราะเด็กกับน้ำ เป็นของที่คู่กัน เพราะเด็กจะสนุกมากเมื่อได้เล่นน้ำ โดยเฉพาะละอองน้ำที่ไม่ทำให้เด็กเปียกปอนมากเกินไป
ประโยชน์ของละอองน้ำ คือ ช่วยในหลายๆ เรื่อง เช่น เวลาที่เด็กวิ่งผ่านเขารู้สึกสบาย เย็นใจ และได้ฝึกประสาทสัมผัส นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันแมลงอีกด้วย เพราะแมลงไม่ชอบน้ำ ความชื้น ทำให้ลดโอกาสที่เด็กๆ จะโดนแมลงต่อย และเกิดอาการแพ้ได้
แถมละอองน้ำยังช่วยดักจับฝุ่น ทำให้ค่า PM2.5 ลดลง วันไหนที่ค่าอากาศมีปริมาณฝุ่นเยอะ ก็เปิดละอองน้ำ Splash Zone ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศ สร้างลม ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว จึงเหมาะแก่การเรียนรู้ของเด็กๆ ในสถานที่ที่ปลอดภัย
-
พืชผักสวนครัว
ครูโบว์ : สำหรับต้นไม้ที่ปลูกในสวนทั้งหมด จะมีส่วนที่นำมารับประทานได้ ซึ่งที่โรงเรียนเรานำพืชผักสวนครัวเหล่านี้มาใช้ประกอบอาหารในวิชา Cooking ทำให้เด็กๆ ได้ฝึกสังเกต เปรียบเทียบเห็นการเจริญเติบโต ของต้นไม้
ใส่ใจเรื่องอาหารด้วยการใช้นักโภชนาการให้คำแนะนำ
ครูโบว์ : นอกจากนี้ เรื่องอาหารการกินของเด็กๆ ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเรามีนักโภชนาการที่ออกแบบเมนูอาหารให้กับเด็กๆ โดยเฉพาะ ซึ่งมีการคำนวณถึงคุณค่าของอาหารว่าใน 1 วัน เด็กควรได้รับสารอาหารประเภทไหนมากน้อยเท่าไร?
สำหรับการกินของเด็กเรื่องหน้าตาของอาหารเป็นสิ่งที่ควรคำนึงเช่นกัน เราเรียกว่าการสร้างประสบการณ์ในการทานอาหาร งั้นเราจะทำแบบไหน เด็กๆ จึงจะทานได้เพิ่มมากขึ้น เช่น หั่นแครอทเป็นดอกไม้น่ารักๆ หรือจะปั้นข้าวปั้นเป็นรูปสัตว์น้อยที่น่ารักต่างๆ เพื่อให้เด็กๆ เกิดความรู้สึกอยากทานมากขึ้น
ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย และเน้นความสะอาด
นอกเหนือจากเด็กๆ ที่เข้ามาในโรงเรียนแล้วมีการตรวจ ATK แล้ว ผู้ปกครองที่มาส่งเด็กๆ ก็ต้องมีการตรวจ ATK พร้อมกันกับเด็กๆ ที่จุดตรวจด้านหน้าโรงเรียนด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อเช็กความปลอดภัยในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งตัวของเด็กและคุณพ่อคุณแม่ด้วย
เตรียมตัวก่อนเรียนจริงด้วย Playgroup
ครูโบว์ : สำหรับส่วน Playgroup เป็นกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเข้ามาเล่น และเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็กๆ ได้ ซึ่งจะรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่อายุ 1 ขวบ 5 เดือน จนถึง 3 ขวบ เพื่อเตรียมความพร้อมของลูกก่อนมาเรียนที่โรงเรียน และใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น แถมยังได้เทคนิคการใช้วินัยเชิงบวกดีๆ เพื่อประยุกต์ใช้ในการเลี้ยงลูกที่บ้านด้วยการมาเรียน Playgroup ได้อีกด้วย
“โรงเรียนอนุบาลนานาชาติฮัมมิ่งเบิร์ด (HBIS)” ใช้วินัยเชิงบวกในการพัฒนาสมอง EF และใช้หลักสูตร EYFS จากประเทศอังกฤษ เพราะเราเชื่อว่าการพัฒนาสมองของเด็ก โดยเฉพาะในช่วงประถมวัย 0-6 ขวบ เป็นช่วงที่สำคัญมาก โดยที่เราจัดการเรียนรู้ผ่านการเล่น และการทำกิจกรรม ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่สนใจอยากแวะเข้ามาเยี่ยมชมโรงเรียน หรืออยากติดต่อสอบถามข้อมูลพิ่มเติมได้ที่
- เว็บไซต์ : www.hummingbird.ac.th/th
- Line : @hummingbird.school
- โทร : 095-193-2615
- Facebook : hummingbird