Parents One

เรียนภาษาจีนนั้นดีอย่างไร มาคุยกันกับครูพี่ป๊อป

ในปัจจุบันนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภาษานั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการเสริมสร้างทักษาและปูอนาคตให้ลูกน้อย สานฝันให้ไปได้ไกลกว่าที่คิดหรือต่อยอดในวิชาที่ต้องการจะเรียนต่อไปในภายภาคหน้า

จึงเป็นเรื่องปกติแล้วที่นอกจากภาษาที่ 2 คุณพ่อคุณแม่หลายท่านเองก็ยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่าภาษาที่ 3 ที่ต้องการให้เขาได้เรียนรู้นั้นจะไปในทางไหนหรือเรียนภาษาใดเพิ่มดีเพื่อให้ลูกมีความสนใจหรือชื่นชอบในภาษาอื่น

วันนี้ทาง Parents One จึงได้รับเกียรติจากครูพี่ป๊อป (คุณณัฐพงศ์ นำศิริกุล ) อาจารย์สอนภาษาจีนมากประสบการณ์และความสนุกสนานในการสอนภาษจีนทั้งยังเป็นทั้งวิทยากรและผู้ประกาศข่าวหนุ่มไฟแรงมากฝีมือ ได้มาให้แง่มุมเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้านภาษาของลูก

ไปรับชมได้เลยค่ะ

ภาษามีความสำคัญอย่างไรบ้าง?

ภาษาเป็นสิ่งที่ต้องใช้, เป็นทักษะและเป็นศิลปะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำเสียง, จังหวะการพูด, การเลือกใช้คำขอเพียงแค่สนุกกับมัน เด็กๆก็จะเรียนได้ดีเพราะสนุกกับการเจอกับสิ่งใหม่ๆบนโลกใบนี้แล้วก็รู้สึกสิ่งนั้นน่ะมันน่าตื่นตาตื่นใจตลอดเวลา ต้องรู้สึกenjoyไปกับการเรียนภาษา

เด็กๆควรเริ่มเรียนภาษาที่ 3 ตอนไหน?

ตามหลักการเรียนภาษาแล้วดีที่สุดเลยไม่ว่าจะภาษาอะไรก็ตามให้เริ่มเรียนตั้งแต่อายุ 0-12 ปี เพราะจะเป็นการเรียนแบบ Natural Learner หรือที่เรียกว่าเรียนตามธรรมชาติ เรียนจากเสียงหัวเราะ เรียนด้วยความรัก เรียนด้วยความสุข เรียนจากการเลียนแบบ มนุษย์เรายิ่งโตขึ้น ความรู้สึกที่เป็นNatural มันจะค่อยๆหายไปเพราะทุกคนเริ่มที่จะใส่กรอบให้ตัวเอง มันขาดความเป็น Natural Learner

เช่นนั้นแล้วเราควรจะเป็นบุคคล Life Long Learner ซึ่งนั่นหมายความว่าเป็นบุคคลที่เรียนรู้ตลอดชีวิต

มีเคล็ดลับในการเรียนภาษาที่ 3 ให้ดีได้อย่างไรบ้าง

มันมีเรื่องเล่าในสมัยพระพุทธกาล มีหลักฐานบอกไว้ชัดเจนว่า พระสัมมนโคดม พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หยิบใบไม้ขึ้นมาหนึ่งกำและถามพระภิกษุที่เป็นสาวกว่า ท่านคิดว่าใบไม้ในมือข้ากับใบไม้ในป่าเนี่ย อะไรเยอะกว่ากัน ชัดเจนว่าไม้ใบในป่านั้นเยอะกว่าในมือของพระพุทธเจ้าแต่พระพุทธเจ้าบอกว่าสิ่งที่ท่านใช้ประโยชน์ได้เนี่ยแค่ในมือข้าก็เพียงพอแล้ว

แปลว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เนี่ยมันมีมากมายเหลือเกินแต่สิ่งที่เอาไปใช้ได้จริงๆแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

ภาษาจีนมีอายุมากว่า 5000 ปี ผมเปรียบเสมือนเป็นใบไม้ในป่าเลยแหละแต่สิ่งที่ผมรู้เพียงแค่เปลือกแค่กระพี้ขอแค่ให้รู้จริงแค่ในมือผม มันก็พอใช้แล้ว เรียนรู้ในสิ่งที่ต้องการรู้ไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมด นั่นคือเคล็ดลับการเรียนภาษา

คิดเห็นอย่างไรกับการที่พ่อแม่ไม่เห็นความสำคัญของภาษาที่ 3และบอกภาษาอังกฤษสำคัญสุด

ผมเห็นด้วยนะ ภาษาที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะให้เรียนมากที่สุดคือภาษาอังกฤษและ ควรจะเรียนให้ได้ดีแต่ถ้าเรียนแล้วไม่ดีก็ต้องมีทางสำรองไว้ เราเข้าใจถึงความลำบากของพ่อแม่ที่จะต้องลงทุนให้เด็กเรียนเทควันโด, เรียนว่ายน้ำ, เรียนกอลฟ์ เรียนขี่ม้า, เรียนแซคโซโฟน, เรียนเปียโน, เรียนกีต้าร์แต่สักวันนึงเขาจะเจอทางที่เขาใช่และทางที่เขาชอบ

พ่อแม่มีส่วนช่วยอะไรลูกได้บ้างในการเรียนภาษาที่ 3

มีส่วนครับ ผมว่าคุณพ่อคุณแม่ควรจะเรียนไปพร้อมๆกันกับลูก ถ้าพ่อแม่มั่นใจว่ามันสนุก พ่อแม่ถึงจะแนะนำให้ลูกเรียน ถ้าพ่อแม่ไม่มั่นใจในครู ไม่มั่นใจในเทคนิคการสอนของครู พ่อแม่ต้องหาเป้าหมายต่อไปจนมั่นใจว่าครูคนนี้ดีจริงๆเลยให้ลูกไปเรียน

พ่อแม่ควรจะเรียนไปด้วยกันถึงจะอายุมากแล้วอาจจะรับได้ไม่เท่าลูกแต่รับได้นิดนึงก็พอคุยกับเขารู้เรื่องแล้ว เรียนไปพร้อมๆกันเช่นลูกเรียนตัวต่อตัวกับผม คุณพ่อคุณแม่ก็ดูทางออนไลน์ ดูทางยูทูบ นั่งเรียนไปแล้วก็เอาคำศัพท์นี้มานั่งคุยกัน

ผมคิดว่าสถาบันสังคมเนี่ยที่สำคัญที่สุดเล็กที่สุดแต่สำคัญที่สุดคือครอบครัวถ้าหากเด็กรู้สึกพ่อแม่ภูมิใจ เด็กจะทำ สำคัญคือพ่อแม่ต้องรู้จักชม เมื่อไหร่ก็ตามที่พ่อแม่เริ่มชมเริ่มให้รางวัลเด็กจะรู้สึกว่าเขาได้ทำสิ่งที่มีคุณค่า เด็กคนนั้นจะเก่งขึ้นแน่นอน

พ่อแม่ควรจะเรียนไปพร้อมๆกันกับลูกเลยใช่ไหม

ผมคิดว่าพ่อแม่ควรจะเรียนรู้ไปด้วย ลูกอาจจะจำ 10 คำ พ่อแม่จำซัก 2 คำก็พอแล้วและมันดีต่อคุณพ่อคุณแม่ด้วยเพราะการที่พ่อแม่เรียนรู้ทุกวันเนี่ยมันก็คือ Life Long Learner (เรียนรู้ตลอดชีวิต) ที่จะทำให้สมองของคุณมีการพัฒนาตลอดเวลาแล้วก็จะไม่เป็นโรคสมองเสื่อม คุณพ่อคุณแม่จะต้องขยับ คุณจะต้องออกกำลังกายตลอดเวลา ออกกำลังนี่ไม่ใช่แค่กาย ต้องออกกำลังสมองด้วย