วันดีคืนดีลูกๆ เริ่มนอนกรนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ คุณแม่ควรระวังไว้ว่าลูกอาจจะเป็นโรคนอนกรนในเด็กก็ได้นะคะ แล้วโรคนี้เป็นอย่างไร อันตรายกับลูกน้อยแค่ไหน ไปดูกันเลยค่ะ
สาเหตุของการนอนกรน
สาเหตุของการนอนกรนนั้น อาจเกิดจากต่อมอะดีนอยด์โตก็เป็นได้ค่ะ ซึ่งเกิดจาก
- การติดเชื้อเรื้อรังของระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น โรคโพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง โรคโพรงไซนัสอักเสบเรื้อรัง หรือโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง เป็นต้น
- โรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ของเยื่อบุโพรงจมูก หรือโรคแพ้อากาศ
- การติดเชื้อเรื้อรังของต่อมอะดีนอยด์
ต่อมอะดีนอยด์คืออะไร
ต่อมอะดีนอย์ เป็นต่อมน้ำเหลืองชนิดหนึ่งซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังของโพรงจมูก ทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย
อาการของต่อมอะดีนอยด์โต
- หายใจไม่สะดวก หายใจมีเสียงดัง
- นอนอ้าปาก เนื่องจากมีการหายใจทางปาก
- นอนกรน สะดุ้งตื่นกลางดึก
- ส่วนมากอาการสังเกตได้ช่วงกลางคืน ขณที่ลูกนอนหลับสนิท
- ฯลฯ
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากโรคต่อมอะดีนอยด์
- รู้สึกง่วงหรืออ่อนเพลียในช่วงกลางวันจากการนอนหลับไม่เต็มที่
- มีพฤติกรรมไม่อยู่นิ่ง สมาธิสั้น
- มีการหลั่งของฮอร์โมนที่จำเป็นในการเจริญเติบโตลดน้อยลง เนื่องจากฮอร์โมนดังกล่าวจะหลั่งในขณะที่เด็กมีการนอนหลับสนิท
- มีการเปลี่ยนแปลงของกระดูกใบหน้า ทำให้รูปใบหน้ารีเป็นรูปไข่ จากการโก่งตัวสูงขึ้นของกระดูกเพดานปาก และมีการยื่นออกของฟันหน้าจนผิดรูป ซึ่งเกิดจากการที่เด็กหายใจทางปาก
- การขาดออกซิเจนในช่วงของการนอนตอนกลางวันคืนทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคความดันโลหิตในปอดสูง เป็นต้น
แนวทางในการดูแลเบื้องต้น
- ปรับการนอน โดยให้เด็กเข้านอน และตื่นนอนเป็นเวลาสม่ำเสมอ ในรายที่มีโรคอ้วนร่วมด้วย ก็ให้ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายเป็นประจำ
- เด็กมีอาการน้ำมูกไหล ซึ่งน้ำมูกจะยิ่งเข้าไปอุดตัน ทำให้เด็กหายใจทางจมูกลำบาก ให้จัดการโดยการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือและหลีกเลี่ยงอาหารที่จะทำให้น้ำมูกเพิ่มขึ้น
- ทำความสะอาดสถานที่, ห้องนอน, ผ้าปูที่นอน และผ้าห่ม ของใช้ในบ้านทุกชนิด ที่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองกับจมูกอยู่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันการเพิ่มของเชื้อที่มากับฝุ่น
- ถ้าเด็กมีอาการกรนมากขึ้น ให้จับเด็กนอนในท่าตะแคง เพื่อลดอการกรนลง
- ในบางรายอาจต้องมีการให้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกหรือ ยารักษาอาการอักเสบของจมูก จากภูมิแพ้และต่อมทอมซิล ซึ่งต้องมีคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น
- ในรายที่มีอาการหยุดหายใจร่วมด้วย แนะนำให้พบแพทย์ทันที เพราะอาจจะต้องใส่เครื่องครอบ เพื่อช่วยหายใจตอนนอน เพราะเครื่องนี้จะเข้าไปช่วยเปิดทางเดินหายใจ ที่แคบให้กว้างขึ้น เพื่อป้องกันการหยุดหายใจขณะหลับ
- การรักษาด้วยการผ่าตัด การผ่าตัดต่อมทอมซิล และต่อมอะดีนอยด์ ถือว่าปลอดภัยที่สุด ภาวะในการแทรกซ้อนต่ำ และมีภาวะการติดเชื้อหลังผ่าตัดน้อยมาก ไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อภูมิคุ้มกัน แพทย์ส่วนใหญ่จึงมักแนะนำวิธีการรักษานี้ แก่เด็กที่มีอาการกรนหนัก ๆ
- การรักษาในแบบอื่น ๆ เช่น การจัดฟัน หรือการการใช้เครื่อง CPAP เพื่อรักษาโรค และอาการแทรกซ้อนชนิดอื่น ๆ
- ดูแลสุขภาพทั่ว ๆ ไป งดดื่มน้ำเย็นและของเย็น อย่าให้ลมโดนหน้าอกมากจนเกินไป ถ้าโดนฝนหรือจำเป็นต้องไปว่ายน้ำ ควรรีบเช็ดตัวให้แห้ง, ใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่น และก่อนนอนควรอาบน้ำอุ่นเพื่อทำให้จมูก และระบบทางเดินหายใจโล่งขึ้น
- อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ ควรให้เด็กดื่มน้ำเยอะ ๆ ระหว่างวัน เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซับน้ำไว้ใช้ในตอนนอน เพราะตอนนอนจมูก และเพดานจะแห้งลง จนทำให้เกิดเสียงกรนได้ง่ายขึ้น
โรคภัยอยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น คุณแม่ควรหมั่นสังเกตลูกน้อยสักนิดนะคะ
ที่มา